กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดงานตลาดหลักทรัพย์สัญจร จ.ภูเก็ต ในวันนี้ (5 มีนาคม 2548) ว่า การเดินทางมาจัดงานตลาดหลักทรัพย์สัญจร ที่จังหวัดภูเก็ตปีนี้เป็นปีที่สอง ซึ่งยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน และประชาชนทั่วไปในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นอันดับ 3 ของภาคใต้รองจากจังหวัดสงขลา และ สุราษฎร์ธานี โดยตลอดปี 2547 จ.ภูเก็ตมีมูลค่าการซื้อขายรวม 35,000.18 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 2,916.68 ล้านบาท
"รู้สึกชื่นชมพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนใน จ.ภูเก็ต เนื่องว่ามีพฤติกรรมการลงทุนที่ค่อนข้างมีวินัย รวมทั้งลักษณะการลงทุนก็เป็นการลงทุนแบบระยะยาว มิใช่มุ่งที่จะทำการซื้อขายแบบเก็งกำไรระยะสั้น
เห็นได้จากจำนวนผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้ ที่ต้องการมาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
นับเป็นโอกาสดี เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่บริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 457 บริษัท ประกาศผลการดำเนินงานประจำปี 2547 โดยมีกำไรสุทธิรวม 464,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 37 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวน่าจะส่งผลดีให้แก่ นักลงทุนในด้านของการสร้างความมั่นใจในการลงทุนได้มากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนในจ.ภูเก็ตที่จะได้ทราบข้อมูลทันทีจากในงานตลาดหลักทรัพย์สัญจรครั้งนี้”นายกิตติรัตน์กล่าว
นายศุภชัย ยุวบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวในพิธีเปิดงานตลาดหลักทรัพย์สัญจรว่า ภาพรวมของจังหวัดภูเก็ตในปัจจุบัน หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม 47 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่จังหวัดภูเก็ตประสบภัยธรณีพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ ดังนั้นขณะนี้ ภูเก็ตจึงอยู่ในช่วงฟื้นฟูซึ่งคิดว่าจะดำเนินไปได้ด้วยดี เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐและเอกชน
“การจัดงานตลาดหลักทรัพย์สัญจรครั้งนี้ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุน และกระตุ้นให้มีการลงทุนมากขึ้น รวมถึงสื่อมวลชนจากส่วนกลางที่เดินทางมาร่วมงาน ก็ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อกลับไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบว่า จ.ภูเก็ต ยังเป็นสถานที่ที่น่าสนใจทั้งด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน”
ด้านนายเอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ตมิได้รับความเสียหายมากมายอย่างที่เป็นข่าว แต่ความจริงคือธรรมชาติกลับมีความงดงามมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ โดยอาจกล่าวได้ว่า สวยงามเหมือน 20 ปีก่อนทีเดียว แม้ในช่วงแรกภายหลังจากประสบภัย จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไป
ค่อนข้างมาก แต่ขณะนี้ อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวเริ่มเพิ่มขึ้นจากที่เคยต่ำกว่าร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 20 สำหรับด้านกลยุทธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว หอการค้าภูเก็ตมีแผนทำการตลาดในต่างประเทศ โดยจะเริ่มโรดโชว์ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน รวมถึงจะดึงรายการกีฬาใหญ่ๆ ระดับนานาชาติหลายรายการ ให้มาจัดการแข่งขันที่ จ.ภูเก็ต
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--