บริษัทจดทะเบียนพอใจผลตอบรับจากผู้ลงทุนที่ยังคงสนใจบริษัทไทยใน Thailand Focus —Global Roadshow

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 19, 2008 15:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--ตลท.
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน “Thailand Focus — Global Roadshow 2008” ระหว่างวันจันทร์ที่ 9—วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2551 ณ ประเทศสิงคโปร์ อังกฤษ (ลอนดอน) และสหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) โดยนำบริษัทจดทะเบียน 14 แห่ง ร่วมเดินทางไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนสถาบันในครั้งนี้ผู้ลงทุนสถาบันยังคงให้ความสนใจในการเข้าพบเพื่อรับฟังข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียน โดยมีผู้ลงทุนสถาบันที่เข้าประชุม 111 ราย จากสถาบันการเงิน 85 แห่งเข้าร่วมงาน นับว่ามีจำนวนผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศมากกว่าปีที่ผ่านมา และเป็นกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันที่สนใจลงทุนในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนทั้งขนาดใหญ่ กลางและเล็ก ขึ้นอยู่กับศักยภาพในการเติบโต
“ผลตอบรับจากผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศในครั้งนี้ แสดงถึงความสนใจในการลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของไทย แม้ในภาวะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน ดังนั้น การไปให้ข้อมูลกับผู้ลงทุนต่างประเทศ โดยการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของตลาดทุนไทยที่ยังมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภาวะที่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนในประเทศ จึงนับว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนไทย” นางภัทรียากล่าว
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการโรดโชว์ครั้งนี้ว่า นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่งของบริษัท เนื่องจากเป็นการไปนำเสนอข้อมูลให้แก่ผู้ลงทุนเป็นครั้งแรก แต่ได้รับผลตอบรับอย่างดียิ่ง โดยผู้ลงทุนได้แสดงความสนใจเข้าพบทั้ง One-on-one และ Group meeting ตลอดทั้งวันในทั้ง 3 ประเทศ และในทุกการประชุมผู้ลงทุนได้ซักถามเกี่ยวกับบริษัทและโอกาสในการเติบโตในอนาคต โดยไม่ได้มุ่งประเด็นเรื่องของสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเป็นประเด็นสนใจในช่วงโรดโชว์มากนัก จึงนับได้ว่าการไปโรดโชว์ครั้งนี้ เป็นประโยชน์กับกับบริษัท เพราะทำให้เห็นบริษัทเป็นที่รู้จัก และทำให้ทราบว่าผู้ลงทุนในทั้ง 3 ประเทศ มีความสนใจในบริษัทอย่างมาก
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเตรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดผยว่า การไปนำเสนอข้อมูลในโรดโชว์ครั้งนี้ ทำให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจยิ่งขึ้นในการลงทุน เนื่องจากเป็นช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูง ผู้ลงทุนบางส่วนเห็นว่าควรชะลอการลงทุนเพื่อเก็บเงินสดไว้ แต่เมื่อได้เข้าพบกับบริษัทและได้รับข้อมูลเพิ่มเติมทำให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น
“ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าสภาพโดยรวมของเศรษฐกิจโลกไม่ดีนักในช่วงนี้ จึงต้องมีความระมัดระวังในการลงทุน แต่ยังเห็นว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนที่น่าสนใจในอันดับต้นๆ แม้ในภาวะเช่นนี้ ดังนั้น การไปให้ข้อมูลแก่ผู้ลงทุนจึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะทำให้ผู้ที่ลงทุนอยู่แล้วลดความกังวลและเมื่อเขามีความพร้อมยิ่งขึ้นก็จะมีข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจในการลงทุนเพิ่มกับบริษัทในประเทศไทย” นายวีรพันธ์กล่าว
บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมให้ข้อมูลในโรดโชว์ครั้งนี้ แสดงความพอใจในการตอบรับของผู้ลงทุนที่เข้าพบบริษัท เนื่องจากมีการเข้าพบแน่นตลอดทั้ง 3 วันในทั้ง 3 ประเทศ และมีการประชุมทั้ง One-on-one และ Group meeting
“ในภาวะเช่นนี้ ผู้ลงทุนยังคงให้ความสนใจเข้าพบกับบริษัทแน่นตลอดวันทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทยังคงได้รับความสนใจทั้งจากผู้ลงทุนเดิมและผู้ลงทุนใหม่ๆ ที่ให้ความสนใจ นับเป็นโอกาสดีที่บริษัทจะได้พบกับ ผู้ลงทุนโดยตรง เพื่อให้ข้อมูลและภาพที่ชัดเจนของบริษัท สร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน” นางวราภรณ์ วัชรานุเคราะห์ เลขานุการบริษัท ในฐานะตัวแทนบริษัทในการโรดโชว์ครั้งนี้กล่าว
สำหรับบริษัทจดทะเบียน 14 แห่งที่ไปร่วมโรดโชว์ครั้งนี้ เป็นตัวแทน 5 กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจและมีศักยภาพการเจริญเติบโตสูง ซึ่งประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมกันเท่ากับ 758,350.28 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งหมด (ณ 26 พฤษภาคม 2551) ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรและอาหาร คือ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ กลุ่มธุรกิจการเงิน คือ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ และ บมจ. อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง คือ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น และ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น กลุ่มทรัพยากร คือ บมจ.น้ำประปาไทย และ บมจ. เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด
กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม บมจ.ปตท.เคมิคอล จำกัด และกลุ่มบริการ คือ บมจ.ซีพี ออลล์ บมจ.การบินไทย จำกัด บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง และ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป
ทั้งนี้ ประเด็นที่ผู้ลงทุนให้ความสนใจซักถามจากการประชุมคือข้อมูลของตลาดทุนไทยเกี่ยวกับอัตราการเติบโตของตลาด จำนวนบริษัทจดทะเบียนใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ETF Energy และให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือการ แปรรูปของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาในการแปรรูป สำหรับประเด็นอื่นๆ ได้แก่สถานการณ์ทางการเมือง และผลกระทบของเศรษฐกิจโลกต่อเศรษฐกิจไทย ด้านราคาน้ำมัน และราคาข้าวที่มีราคาสูงขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งออกและผลผลิตการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229—2036/ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229 — 2037/ วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ