กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--คิธแอนด์คิน
TTA โชว์กำไร ปี 48 ร่วม 6 พันล้านบาท โตจากปีก่อนร้อยละ 37.51 เผยจุดแข็งบริษัทฯให้บริการขนส่งสินค้าแบบเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง เนื่องจากตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จ่ายปันผลผู้ถือหุ้น 3.50 บาทต่อหุ้น มั่นใจปี 49 ผลประกอบการสดใสจากสัญญาเช่าเรือล่วงหน้าระยะยาวตลอดทั้งปี
ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2548 ( รอบบัญชีสิ้นสุด 30 กันยายน) มีกำไรสุทธิ 5,948.65 ล้านบาท ซึ่งรวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 16.17 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,326.09 ล้านบาท โดยรวมการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 248.80 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นนี้มีสาเหตุหลักจากอุปสงค์ของตลาดเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองที่เติบโตขึ้นมาก ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ขยายกองเรือเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเพื่อรองรับการขยายงาน สืบเนื่องจากในปี 2546 - 2547 อุปสงค์ของปริมาณสินค้าแห้งเทกองทั้งหมดมีการเติบโตประมาณร้อยละ 8-9 ต่อปี ประกอบกับภาวะเรือบรรทุกสินค้าที่ขาดแคลน และอัตราการขยายตัวของเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองของโลกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 4-5 ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับอัตราการปลดระวางเรือ อย่างไรก็ตาม อุปทานของเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองในปัจจุบันก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นภาวะการขาดแคลนเรือจะไม่รุนแรงเหมือนเช่นในอดีต บริษัทฯ จึงคาดการณ์ว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าอัตราค่าระวางเรือจะยังคงดีอยู่
“แม้สถานการณ์ปัจจุบันอัตราค่าระวางเรือจะลดลงบ้างก็ตามแต่ทางบริษัท ฯ ก็ได้ดำเนินการเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มมูลค่าของการดำเนินธุรกิจหลักที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะธุรกิจการเดินเรือเพียงอย่างเดียวแต่ได้ร่วมลงทุนโดยการเพิ่มสัดส่วนกับบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด จากเดิม 50% เพิ่มอีก 13% เป็น 63% ให้ขยายธุรกิจนอกชายฝั่งครบวงจรยิ่งขึ้น อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะดำเนินการจัดระบบโลจิสติกให้สมบูรณ์แบบและรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เชื่อว่าธุรกิจเหล่านี้จะเสริมให้ธุรกิจหลักของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น” มล.จันทรจุฑา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ทำสัญญาให้เช่าเรือแบบไม่ประจำเส้นทางชนิดให้เช่าเหมาลำเป็นระยะเวลา (time charters) สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุด 30 กันยายน พ.ศ. 2549 ไว้แล้วประมาณร้อยละ 39 ของระวางบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯ และมีสัญญารับขนส่งสินค้าไว้ล่วงหน้ารองรับไว้อีก 876 วัน (vessel days) ซึ่งกลยุทธ์ในการปล่อยเรือให้เช่าล่วงหน้าจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปีหน้ามีความมั่นคงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในรอบบัญชี 2548 ในอัตรา 3.50 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ในอัตรา 2 บาทต่อหุ้น ดังนั้นในส่วนที่เหลืออีก 1.50 บาทต่อหุ้นจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 โดยบริษัทฯ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวให้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 9.47 เมื่อเทียบกับราคาหุ้นของบริษัทฯ ตลอดปีนี้
อีกทั้งที่ประชุมรับทราบการลาออกของกรรมการบริษัทฯ จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ นายโฟรเด้ ไทเก้น นายโอเล่ย์ ไทเก้น และนายโอภาส เพชรมุณี ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งกรรมการ ในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นที่จะถึงนี้และไม่ประสงค์จะเสนอตนเองกลับเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการอีก และอนุมัติแต่งตั้งนายแอนดรูว์ จอห์น แอรี่ย์ นายอันเนอร์ส ซูเดอร์เกร็น และ ดร.พิชิต นิธิวาสิน เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการแทนทั้งสามท่านข้างต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าคณะกรรมการจากกลุ่ม “ไทเก้น” จะหมดวาระลงไป แต่คณะกรรมการที่เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนก็ถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ทางด้านธุรกิจเดินเรือมาอย่างยาวนาน อีกทั้งกลุ่มโทรีเซนไทย ฯ เองต่างก็ได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์นวตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ของการดำเนินธุรกิจจากกลุ่มนี้มาร่วม 40 ปี
โดยมติที่ประชุมคณะกรรมการดังกล่าวรวมทั้งวาระอื่นๆ จะนำเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณารับทราบหรืออนุมัติต่อไป ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม คือ ผู้ถือหุ้นที่มีชื่ออยู่ในวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2549 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนเสร็จสิ้นการประชุม ซึ่งวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549 จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2549 เวลา 14.00 น. ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณบังอร แก้วบวร
โทร.0 26633226 ต่อ 68 มือถือ 01 9047907--จบ--