กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--CPF
วันนี้ (23 มิ.ย. 51) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์คุณภาพ” กับ กรุงเทพมหานคร ที่มีนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคเนื้อสัตว์แก่ผู้บริโภค และอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบแหล่งที่มาของเนื้อสัตว์ตราซีพี โดยมีนายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร และนายวีรชัย รัตนบานชื่น รองกรรมการผู้จัดการบริหาร เป็นผู้ลงนามในผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และเนื้อหมูคุณภาพตามลำดับ
นายธีรศักดิ์ เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของซีพีเอฟที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World) จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิตว่าจะต้องได้มาตรฐานระดับสากล และให้ความสำคัญในมาตรฐานการผลิตอาหาร บนหลักการของอาหารปลอดภัยหรือ Food Safety ซึ่งความร่วมมือกับกทม.ครั้งนี้ จึงเท่ากับเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นยิ่งขึ้นว่าได้เลือกซื้อเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง โดยกทม.จะมอบตราสัญลักษณ์เนื้อสัตว์คุณภาพให้ติดบนบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุเนื้อสัตว์ หลังจากตรวจสอบว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานทั้งกระบวนการผลิต ซึ่งผู้บริโภคจะทราบถึงแหล่งที่มาเพียงแค่นำรหัสสินค้าไปตรวจสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือระบบข้อความ (SMS) ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่
นายธีรศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ซีพีเอฟเป็นผู้ผลิตอาหารคุณภาพ ซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยในทุกกระบวนการผลิต โดยควบคุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ด้วยการเลี้ยงในระบบโรงเรือนแบบปิดปรับอากาศทั้ง 100% และมีการควบคุมการเข้าออกอย่างเข้มงวด และเป็นบริษัทแรกนอกเขตยุโรป ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Animal Welfare และฟู้ดเซฟตี้ (ACP) จากประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ยังมีห้องแล็ปสำหรับตรวจสอบวัตถุดิบทั้งก่อนและหลังกระบวนการผลิต ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
ขณะเดียวกัน องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศหรือ OIE และกรมปศุสัตว์ ยังเลือกฟาร์มไก่เนื้อของซีพีเอฟ เป็นโครงการนำร่องแห่งแรกของโลก เพื่อศึกษาระบบ Compartment สำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ปีก หลังจากที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการนำระบบ Compartment ของ OIE มาประยุกต์ใช้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งซีพีเอฟก็เป็นบริษัทแรกของไทย ที่ได้รับการรับรองระบบดังกล่าวจากกรมปศุสัตว์ ทั้งนี้ด้วยความพร้อมในด้านพื้นฐานการจัดการฟาร์มและมีมาตรฐานฟาร์มที่ดีที่บริษัทมีอยู่แล้ว ไม่เพียงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคเท่านั้น แต่ยังช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคระบาดสัตว์อื่นๆ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง และเป็นหลักประกันความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการผลิตสินค้าอาหารที่ยั่งยืน
ด้านนายวีรชัย เปิดเผยว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับมาตรฐานอาหารปลอดภัยในทุกผลิตภัณฑ์ แน่นอนว่ารวมถึงสุกรด้วย โดยสุกรเนื้อ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ภายใต้ความทุ่มเทและเอาใจใส่ ซึ่งสุกรเนื้อจากฟาร์มของซีพีเอฟ จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการชำแหละ ภายในโรงงานที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ถูกสุขอนามัย สุกรที่ผ่านกระบวนการแล้วจะต้องผ่านการตรวจรับรองจากสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ เนื้อสุกรจะไม่สัมผัสพื้น และมือคนโดยตรงในทุกกระบวนการผลิต บรรจุเบ็ดเสร็จจากโรงงาน เก็บรักษาในรูปแบบทั้ง Chill และ Frozen ก่อนขนส่งไปยังผู้บริโภคด้วยรถห้องเย็นที่มีการควบคุมอุณหภูมิ เนื้อหมูสดอนามัยตรา ซีพี จึงสามารถรักษาความสด สะอาด และลดโอกาสเสี่ยงจากการปนเปื้อนที่จะเป็นอันตรายไปจนถึงมือผู้บริโภค ทั้งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ และปัจจุบันผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์คุณภาพตราซีพี มีจำหน่ายทั้งในโมเดิร์นเทรด ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านซีพี เฟรชมาร์ท ที่เปรียบเสมือนตู้เย็นชุมชน ซึ่งมีสาขาเปิดให้บริการแล้วกว่า 350 สาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้ โครงการจัดทำระบบการตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์ เป็นการนำนวัตกรรมที่กรุงเทพมหานครได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พัฒนาโปรแกรมการตรวจสอบย้อนกลับเนื้อสัตว์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลการผลิตได้ทาง www.bangkok.go.th/vet และ www.vet-bma.com หรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ตรวจสอบโดยพิมพ์ TM ตามด้วยเลขชุดการผลิตและส่งที่หมายเลขSMS 4545111
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักสื่อสารและประชาสัมพันธ์ CPF
โทร. 0-2625-7343-5, 0-2631-0641,0-2638-2713