กรุงเทพฯ--16 มี.ค.--กทม.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีการทางพิเศษฯ ขอยกเลิกสัญญาให้ใช้ที่ดินในการจัดทำลานกีฬากับสำนักงานเขตวังทองหลาง ว่า
สำหรับปัญหาลานกีฬาในพื้นที่สำนักงานเขตวังทองหลางบริเวณใต้ทางด่วนลาดพร้าว 71 ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้กทม.ใช้พื้นที่จัดทำลานกีฬาและสวนหย่อมมาตั้งแต่ปี 2541 และได้ครบกำหนดสิ้นสุดสัญญาดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค.47 ที่ผ่านมา โดยการทางพิเศษฯ ได้ขอยกเลิกการต่อสัญญาใช้พื้นที่บริเวณใต้ทางด่วนดังกล่าว เพื่อการทางพิเศษฯ จะเข้าดำเนินการจัดทำลานกีฬาเองตามนโยบายรัฐบาล และขอให้สำนักงานเขตวังทองหลางรื้อย้ายอุปกรณ์กีฬา รั้วตาข่าย พร้อมทั้งส่งมอบพื้นที่คืนนั้น กรุงเทพมหานครพิจารณาเห็นว่า การดำเนินงานจัดทำลานกีฬาควรเป็นหน้าที่ของท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้ยังมีลานกีฬาใต้ทางด่วนที่มีปัญหาคล้ายคลึงกับลานกีฬาใต้ทางด่วนลาดพร้าว 71 อีก 4 แห่ง ได้แก่ ลานกีฬาใต้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ สำนักงานเขตห้วยขวาง(ตรงข้ามลานกีฬาลาดพร้าว 71) ลานกีฬาจารุเมือง สำนักงานเขตปทุมวัน ลานกีฬาวัชรพล สำนักงานเขตบางเขน และลานกีฬารัชฎภัณฑ์ สำนักงานเขตราชเทวี อย่างไรก็ดีปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีลานกีฬาใต้ทางด่วนทั้งสิ้น 33 แห่ง
ดังนั้นเพื่อเป็นป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ได้มอบให้นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร และสำนักสวัสดิการสังคม หารือกับการทางพิเศษฯ เพื่อกำหนดแนวทางจัดทำลานกีฬาดังกล่าวให้ชัดเจนว่า มีลานกีฬาแห่งใดบ้างที่จะให้กทม.ดำเนินการต่อและที่ใดบ้างที่การทางพิเศษฯ จะดำเนินการเอง หรือที่ใดบ้างที่กรมทางพิเศษปรับปรุงแล้วจะให้กทม.เข้าไปบริหารจัดการ รวมทั้งให้สำรวจลานกีฬาทุกแห่งในกทม.ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,200 แห่ง ว่าแต่ละแห่งเป็นพื้นที่ของหน่วยงานใดบ้างและมีการทำสัญญาเช่าหรือสัญญาให้กทม. ใช้ประโยชน์ในที่ดินไว้อย่างไรบ้าง เพื่อความชัดเจนในการเข้าใช้พื้นที่และปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นลานกีฬาที่มีมาตรฐาน และป้องกันปัญหาในลักษณะเดียวกับการทางพิเศษอีก
นอกจากนี้ให้สำนักนโยบายและแผนกทม.ศึกษาพรบ.กระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นฯ เพื่อความชัดเจนว่าการดำเนินงานใดที่ควรเป็นหน้าที่ของท้องถิ่น และการดำเนินงานใดเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดำเนินงานเพื่อให้บริการประชาชน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า จากที่ตนและคณะผู้บริหารกทม. เข้าเยี่ยมชมกิจกรรมของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 48 ที่ผ่านมา ณ อาคารรัชมังคลากีฬาสถาน และหารือกับนายสันติภาพ เตชะวณิช ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้แทนการทางพิเศษฯ เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลบริเวณใต้ทางด่วน เพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนมีสนามฝึกซ้อมและจัดการแข่งขันฟุตซอลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทางสมาคมฟุตซอลแห่งประเทศไทยได้นำเสนอรูปแบบของสนามฟุตซอล โดยเสนอให้ปรับปรุงพื้นที่ใต้ทางด่วนเป็นสนามฟุตซอลแห่งละ 3 สนาม มีการปูพื้นยาง ติดไฟฟ้าแสงสว่าง รั้วตาข่ายเหล็ก ระบบประปา พร้อมห้องน้ำ และห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา ซึ่งแต่ละสนามจะมีอัฒจันทร์ให้นั่งชมด้วย ใช้งบก่อสร้างประมาณแห่งละ 1.9 ล้านบาท ทั้งนี้กทม. จะสำรวจลานกีฬาใต้ทางด่วนที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อปรับปรุงให้เป็นสนามฟุตซอลต้นแบบ จำนวน 10
แห่ง ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า พร้อมทั้งขอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยพิจารณาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ว่างใต้ทางด่วนเพื่อให้กทม. เข้าทำประโยชน์เป็นสวนหย่อมและลานกีฬาเพิ่มเติมสำหรับประชาชนด้วย
นอกจากนี้ กทม.และ กกท. จะร่วมกันดำเนิน “โครงการสนามกีฬาในสวน” (Stadium in the Park) โดยจะปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสนามหญ้าโดยรอบสนามกีฬาและลานกีฬาในการกีฬาแห่งประเทศไทย และปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น สวยงาม ให้กลายเป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ที่ประชาชนสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจได้ ทั้งนี้ปัจจุบันมีประชาชนมาออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่การกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ประมาณวันละ 15,000 คน หากมีสวนสาธารณะในบริเวณดังกล่าวด้วยก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประชาชน--จบ--