กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ระยะยาวที่ระดับ “A-(tha)” และระยะสั้นที่ระดับ “F2(tha)” แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
อันดับเครดิตของ BAFS สะท้อนถึงสถานะที่บริษัทเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวที่ดำเนินธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพหรือสนามบินดอนเมืองและมีสัญญาให้บริการกับลูกค้าในระยะยาวซึ่งทำให้บริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงขณะที่ความเป็นผู้ประกอบการเพียงรายเดียวจะสิ้นสุดลงภายหลังการเปิดใช้ท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่หรือสนามบินสุวรรณภูมิBAFS น่าจะยังคงรักษาสถานะความเป็นผู้นำในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานได้ต่อไป การให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ BAFS ในระยะปานกลางเนื่องจากความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของสนามบินใหม่ที่มากขึ้นและราคาค่าบริการที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่ากำหนดการเปิดใช้สนามบินจะถูกเลื่อนไปเป็นกลางปี 2549 นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่ดี
อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาอันเป็นผลมาจากการลงทุนใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดย BAFS มีระดับหนี้สินสุทธิเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1.9 พันล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 จากการที่บริษัทมีฐานะเงินสดสุทธิในปี 2545 ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/EBITDA)ลดความแข็งแกร่งลงมาที่ระดับ 2.6 เท่า ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2548 BAFS มีแผนจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 2.1 พันล้านบาทในปี 2548 เพื่อให้โครงการพัฒนาระบบการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจร ณ สนามบินสุวรรณภูมิเสร็จสมบูรณ์ การลงทุนที่มากและการจ่ายเงินปันผลที่สูง น่าจะทำให้ฐานะทางการเงินของ BAFS ลดความแข็งแกร่งลงโดย Net Debt/EBITDAจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 5.0 เท่า ในปี 2548 และ 4.0 เท่าในปี 2549 โดยอัตราส่วนหนี้สินที่สูงนี้น่าจะเป็นการชั่วคราว การเปิดดำเนินการของสนามบินสุวรรณภูมิจะมีส่วนช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินลงมาที่ระดับ 2.0-2.5 เท่าในปี 2550/2551 ในกรณีที่การเปิดดำเนินการของท่าอากาศยานแห่งใหม่มีความล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้อีก จะส่งผลให้ BAFS มีอัตราส่วนหนี้สินที่สูงนานกว่าที่คาดไว้และเป็นการลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของ BAFS ซึ่งอาจมีผลกระทบกับอันดับเครดิตของบริษัท นอกจากนี้ BAFS ยังมีความเสี่ยงในด้านอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากบริษัทมีฐานรายได้ที่อิงกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงโดยการทำสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราล่วงหน้า นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันที่กำลังมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินและปริมาณการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานอาจมีผลกระทบต่อการเติบโตของรายได้ของบริษัทได้
แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพของ BAFS สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าสนามบินแห่งใหม่จะเปิดดำเนินการในกลางปี 2549 แม้ว่า Net Debt/EBITDA คาดว่าจะมีทิศทางที่สูงขึ้นอย่างมาก ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและการเติบโตของรายได้ที่มาจากการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานที่สนามบินใหม่ของบริษัทจะส่วนช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น
BAFS ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2526 ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานแบบครบวงจร ณ สนามบินดอนเมืองแต่เพียงผู้เดียว โดยดำเนินธุรกิจตั้งแต่ด้านคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานจนถึงการบริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแก่เครื่องบิน (Into-plane) โดย BAFS มีสัดส่วนการให้บริการกว่าร้อยละ 95 ของปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานทั้งประเทศ ในส่วนของการลงทุนที่สนามบินสุวรรณภูมิ BAFS จะเป็นผู้ให้บริการแต่เพียงรายเดียวสำหรับคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานและระบบท่อส่งน้ำมันอากาศยานระบบ Hydrant ในขณะที่ BAFS เป็นหนึ่งในสองรายที่ได้รับสัมปทานระบบเติมน้ำมันแก่เครื่องบิน ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BAFS ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 22.6 และผู้ถือหุ้นอื่นๆ ประกอบด้วย บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บมจ. เอสโซ่ ประเทศไทย บจก. น้ำมันคาลเท็กซ์ (ไทย) บจก. เชลล์แห่งประเทศไทย บจก. แอร์โททาล (ประเทศไทย) และ ExxonMobil Aviation Inc.โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันอีกประมาณร้อยละ 40 BAFS จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อ ปี 2545 และมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดเท่ากับ 3.8 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2548
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฏข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน
ติดต่อ
วสันต์ ผลเจริญ, ผู้ช่วยกรรมการ ภาคอุตสาหกรรม
+662 655 4763
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ
+662 655 4759--จบ--