Company Profile บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน)

ข่าวทั่วไป Friday December 9, 2005 16:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
ประวัติความเป็นมา
บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมฟอกหนัง ณ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2535 (เดิมชื่อ “บริษัท อินเตอร์-ไฮด์ เลเธอร์ จำกัด”) ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5 ล้านบาท โดยนายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ และนางสาวชุติมา บุษยโภคะ ซึ่งในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ได้นำเข้าหนังดิบ เพื่อฟอก อบ อัด และตกแต่งหนังสัตว์สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ ต่อมาในปี 2541 ได้เริ่มพัฒนาสายผลิตภัณฑ์หนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากผู้บริหารมีวิสัยทัศน์โดยเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับการฟอกหนังเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และในปี 2543 ได้เลิกสายการผลิตหนังสำหรับเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากมีการแข่งขันสูงในธุรกิจฟอกหนังสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจฟอกหนังเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จึงเปลี่ยนสายการผลิตจากการผลิตหนังสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์มาเป็นสายการผลิตฟอกหนังสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยสรุปผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ คือ หนังสำหรับผลิตเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสถานะเป็นผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยอ้อม (Second Tier Original Equipment Manufacturer หรือ 2nd Tier OEM) ของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฟอร์ด มิตซูบิชิ อีซูซุ มาสด้า ซูบารุ เป็นต้น กล่าวคือ บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับรถยนต์รวมกว่า 30 รุ่น
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2548 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท และทุนชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยก่อนการเสนอขายประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ กลุ่มของนายองอาจ ดำรงสกุลวงศ์ ถือหุ้นร้อยละ 62.87 และกลุ่ม Sumitomo ถือหุ้นร้อยละ 26.67 โดยหลังจากการเสนอขายประชาชนในครั้งนี้ กลุ่มของนายองอาจ ดำรงสกุลวงศ์ จะถือหุ้นร้อยละ 47.15 และกลุ่ม Sumitomo จะถือหุ้นร้อยละ 20.00
ผลิตภัณฑ์และบริการ
1. หนังผืนสำเร็จรูป สำหรับผลิตเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ เป็นต้น
2. ชิ้นส่วนหนังที่ตัดแล้ว (Cut Part) สำหรับผลิตเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ เป็นต้น โดยเป็นการผลิตตามความต้องการของลูกค้าโดยลูกค้าจะส่งแบบ (Drawing) ให้กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ จะนำหนังที่ผ่านการฟอกย้อมตามกระบวนการผลิตมาตัดเป็นชิ้นงานสำเร็จรูปตามแบบ
3. การบริการเย็บและร้อยหนัง (Sewing) สำหรับเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ซึ่งเป็นการรับจ้างช่วงการผลิตจากผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเย็บขึ้นรูปหนังให้เป็นเบาะที่นั่งสำหรับรถยนต์, ร้อยหนังสำหรับพวงมาลัยรถยนต์ หรือกระปุกเกียร์รถยนต์ เป็นต้น
4. บริการรับหุ้มเบาะรถยนต์ตามความต้องการของลูกค้า สำหรับลูกค้าที่มีรถยนต์ที่เป็นเบาะผ้าแล้วนำมาหุ้มเป็นเบาะหนัง ซึ่งเป็นหนังที่ผลิตโดยบริษัทฯ โดยผลิตตามความต้องการของลูกค้า
กลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ
ลูกค้าหลักของบริษัทฯ คือ ผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยตรง (First Tier Original Equipment Manufacturers หรือ 1st Tier OEM) ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฟอร์ด มิตซูบิชิ อีซูซุ มาสด้า ซูบารุ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทฯ จะสามารถได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าได้นั้น บริษัทฯ จะต้องได้รับการคัดเลือกจากผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าว ให้เป็นผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์โดยอ้อม (Second Tier Original Equipment Manufacturers หรือ 2nd Tier OEM) ของผู้ผลิตรถยนต์
โครงสร้างเงินทุน
ทุนจดทะเบียน : 300 ล้านบาท
ทุนชำระแล้ว (ก่อน IPO) : 225 ล้านบาท
ทุนชำระแล้ว (หลัง IPO) : 300 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 60 ล้านหุ้น
(มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท)
จำนวนหุ้นในการเสนอขาย IPO: 15 ล้านหุ้น
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะล้างขาดทุนสะสม ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2548 จำนวน 52.40 ล้านบาท โดยนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นซึ่งมีอยู่จำนวน 73.50 ล้านบาท ในการล้างขาดทุนสะสม ทำให้บริษัทฯ สามารถมีกำไรสะสมได้ภายในปี 2548 และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระยะเวลาอันใกล้
โครงการในอนาคต
บริษัทฯ มีโครงการขยายกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตประมาณ 12 ล้านตารางฟุตต่อปี เป็น 24 ล้านตารางฟุตต่อปี โดยการสร้างโรงงานแห่งที่ 6 บนพื้นที่ประมาณ 17 ไร่ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 290 ล้านบาทในปี 2549 ซึ่งคาดว่าจะสามารถพร้อมเปิดดำเนินการผลิตประมาณไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2549--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ