กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์
บลูสโคป สตีล เซ็นสัญญาพันธมิตรนิปปอนสตีล ร่วมโปรโมทผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นเคลือบโลหะ “ซูเปอร์ไดม่า(SuperDymaTM)” เปิดให้ใช้ช่องทางการตลาดที่วางไว้แล้วทั่วเอเชีย หวังเจาะลูกค้ากลุ่มพิเศษ วางตลาดในไทยไตรมาสสองปีนี้
บลูสโคป สตีล ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กเพื่อการก่อสร้างชั้นนำ และบริษัท นิปปอนสตีลของญี่ปุ่น ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางการค้า เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นทนการกัดกร่อนชนิดพิเศษ “ซูเปอร์ไดม่า(SuperDymaTM)” ซึ่งเป็นสินค้าลิขสิทธิ์ของนิปปอนสตีล ออกสู่ตลาดวงการก่อสร้างทั่วเอเชีย โดยผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายและ เครือข่ายการตลาดที่กว้างขวางของบลูสโคป สตีล ซึ่งผู้บริหารของทั้งสองค่ายคาดว่า กลยุทธ์ดังกล่าว จะสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะวางตลาด “ซูเปอร์ไดม่า” ในประเทศไทยและจีน ในไตรมาสที่สองของปีนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศแถบเอเชียอื่นๆราวกลางปี 2548
นายมาร์ค เคน รองประธานฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจสำหรับตลาดการก่อสร้างและอุตสาหกรรมการผลิตภูมิภาคเอเชียของบลูสโคป สตีล กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรของทั้งสองบริษัท จะช่วยให้วงการก่อสร้างของภูมิภาคเอเชียได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพได้ง่ายและทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าในแวดวงอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการทางเทคนิคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นทนการกัดกร่อน “ซูเปอร์ไดม่า” จะได้รับการจัดจำหน่าย ผ่านเครือข่ายการตลาดชั้นนำของบลูสโคป สตีล ที่มีโรงงานรีดขึ้นรูป และสำนักงานฝ่ายการตลาดและการขายอยู่ทั่วภูมิภาคเอเชียและในอีกหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับเหล็กแผ่นทนการกัดกร่อน “ซูเปอร์ไดม่า” เป็นเหล็กแผ่นเคลือบโลหะผสมสำหรับงานอาคารการก่อสร้าง ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เนื่องจากโลหะผสมที่เคลือบบนแผ่นเหล็กซูเปอร์ไดม่า ซึ่งประกอบด้วยสังกะสี อลูมิเนียม แม็กนีเซียม และซิลิคอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่จะช่วยเสริมสร้างความทนทานและปกป้องแผ่นเหล็กจากการกัดกร่อน แม้ในสภาวะแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนอย่างรุนแรง เช่น ภาวะที่มีความเป็นกรดเป็นด่างสูง อย่างในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ และสถานที่ที่เปียกชื้นตลอดเวลา
“ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นคุณภาพอย่างซูเปอร์ไดม่า จะช่วยเสริมสร้างความเป็นหนึ่งในด้านผลิตภัณฑ์เหล็กเพื่อการก่อสร้างของบลูสโคป สตีลให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และยังสามารถเจาะกลุ่มตลาดเฉพาะที่มีความต้องการเหล็กสำหรับอาคารที่มีอายุการใช้งานทนทานยาวนาน ทนต่อการกัดกร่อนทั้งในสภาวะความเป็นกรด และความเป็นด่างรวมทั้งในสภาวะของความเปียกชื้นได้ดีอีกด้วย” นายมาร์ค เคน กล่าวเสริม
เกี่ยวกับบริษัทบลูสโคป สตีล จำกัด
บลูสโคป สตีล เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นนำในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ โดยเป็นผู้จำหน่ายแผ่นเหล็กรายใหญ่ในตลาดของทั้งสองประเทศ กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์ และอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมาก โดยโรงงานผลิตเหล็กกล้าของบริษัท ในเมืองพอร์ท เคมบลา จัดเป็นโรงงานแปรรูปเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นโรงงานผลิตแผ่นเหล็กรีดร้อนที่มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยมีโรงงานผลิตเหล็กเคลือบโลหะ และเหล็กเคลือบสี ตั้งอยู่ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย และกำลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เวียดนามและจีน โดยบริษัทมีโรงงานรีดลอนขึ้นรูป 12 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีคุณภาพการผลิตที่เหนือกว่ามาตรฐานของผู้ผลิตรายอื่นๆ บลูสโคป สตีลยังมีส่วนในการลงทุนร้อยละ 50 ของโรงงานถลุงเหล็กในเมืองเดลตา มลรัฐโอไฮโอของสหรัฐอเมริกา และยังเข้าเป็นเจ้าของกิจการบริษัทบัตเล่อร์ แมนูแฟคเจอริ่ง ซึ่งมีกิจการในอเมริกาเหนือและจีน ในวันที่ 27 เมษายน 2547 เพื่อการขยายธุรกิจการก่อสร้างอาคารด้วยวัสดุสำเร็จรูป และการผลิตวัสดุก่อสร้างอาคารเหล็กอีกด้วย
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบลูสโคป สตีลได้ที่ www.bluescopesteel.com หรือ www.bluescopesteelasia.com
สอบถามข้อมูลข่าวเพิ่มเติมได้ที่
จรินธร ธนาศิลปกุล หรือรุ่งนภา ชาญวิเศษ
บริษัท สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร. 02 653-2717-9 แฟกซ์ 02 653-2725
อีเมล์ rin@spark.co.th , rung@spark.co.th--จบ--