“ส.ไม้ยางพาราไทย” แนะใช้ไม้ยางฯ ทดแทนไม้อื่นก่อนตลาดขาดแคลน ขานรับงาน Tiff 2005 คึกคัก หวังดันยอดขายในประเทศสูงขึ้นจากปีก่อน

ข่าวทั่วไป Friday February 25, 2005 11:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.พ.--อินดัสเทรียล ดีไซน์
ผู้ประกอบการไม้ยางพาราไทยแนะควรนำศักยภาพไม้ยางฯ มาใช้ทดแทนไม้ประเภทอื่นก่อนตลาดขาดแคลน และเน้นคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อม เตรียมตัวคึกคักร่วมงาน Tiff 2005 หวังกระตุ้นยอดขายในประเทศสูงขึ้นจากปีก่อน เปิดตัวเลขส่งออกปีที่แล้ว ทำรายได้ให้ประเทศกว่า 137.605 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 18% เชื่ออนาคตการส่งออกสดใส ต้องสร้างแบรนด์ไม้ยางฯ เทียบชั้นไม้สัก ชี้เทรนด์ใหม่ตลาด ใช้ Chemical Board ผสมกับวัสดุอื่นๆ
นายวิทยา งานทวี นายกสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย เปิดเผยว่า ความสำคัญของงาน Thailand International Furniture Fair หรือ Tiff ที่กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดขึ้นในปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่อสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทยอย่างมาก โดยเป็นการให้ความสำคัญในศักยภาพไม้ยางพาราในเชิงการใช้ในลักษณะของเฟอร์นิเจอร์ อย่างไรก็ดีไม้ยางพารายังมีศักยภาพที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกมาก อาทิเช่น การนำไปใช้ในส่วนของวัสดุก่อสร้าง การใช้ทดแทนไม้อื่นๆ นอกจากนี้ยังควรเน้นถึงคุณค่าของไม้ยางพาราต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพและศักยภาพของไม้ยางพาราที่เทียบเคียงกับไม้อื่น ๆ โดยเฉพาะความเป็นไม้จริง ไม่ใช่ไม้เคมี
สำหรับการเข้าร่วมงาน Tiff ที่ผ่านมาของสมาคมฯ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในธุรกิจไม้ยางพาราไทยนั้น นับว่าได้รับความสำเร็จด้วยดีส่งผลต่อยอดขายภายในประเทศอย่างมาก เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นเฟอร์นิเจอร์ในเชิง OEM ( รับจ้างผลิต ) ซึ่งในการร่วมงานครั้งนี้ สมาคมฯยังคงเป็นลักษณะแนวร่วม เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนสนับสนุนผู้ออกงาน จึงไม่สามารถคาดการณ์ยอดรายได้อย่างชัดเจน เพราะต้องจับตาดูภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งตัวอย่างรวดเร็ว
งานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 ใช้ชื่องาน Thailand International Furniture Fair 2005 หรือ Tiff 2005 ระหว่างวันที่ 4-8 มีนาคม ศกนี้ ภายใต้คอนเซ็ปท์ “Color Your Life” โดยเป็นงานที่มีความสำคัญมากต่ออุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไทยและธุรกิจไม้ยางพาราไทย เพราะมีส่วนช่วยเหลือด้านการตลาดและการซื้อขายให้กับผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี ซึ่งผู้ประกอบการต่างๆ ที่จะเข้าไปร่วมงาน Tiff จะต้องมีการพัฒนาและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสินค้าของตนเอง อีกทั้งพัฒนาระบบการตลาดและการขายให้เป็นระดับสากลมากขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้
สำหรับมูลค่าการส่งออกของธุรกิจไม้ยางพาราในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2545 มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 74.603 ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ 27.1 ในปี 2546 มีมูลค่าส่งออก ทั้งสิ้นประมาณ 115.796 ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ 55.2 และในปี 2547 มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 137.605 ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ 18.8
นายวิทยากล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมไม้ยางพาราไทยในปัจจุบันว่า จะเป็นการผลิตเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนเป็นหลัก จากอดีตที่ผ่านมาที่มีการใช้ไม้ยางพารา Solid Wood ในส่วนผสมของเฟอร์นิเจอร์ ไม้ถึง 7% แต่ได้เปลี่ยนเทรนด์มาใช้ประเภท Chemical Board หรือการผสมกับวัสดุอื่นๆ ซึ่งทำให้การใช้วัตถุดิบไม้ยางพาราในสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณ 30-40 % ของตัวสินค้า
“ แม้ภาพรวมการส่งออกยังอยู่ในระดับสูง แต่ภาวะการแข่งขันก็สูงมากเช่นเดียวกันตลาดไม้ยางพาราในอนาคตจะต้องเน้นการใช้ศักยภาพของไม้ให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะในด้านการก่อสร้าง นอกจากจะเน้นในการผลิตเฟอร์นิเจอร์เป็นหลักแล้ว จะต้องสร้างแบรนด์ไม้ยางพาราให้เทียบเคียงกับไม้สัก ควรมีการวางแผนการจัดการที่ชัดเจนทั้งระบบ ทั้งในส่วนของการขยายพื้นที่ปลูกและตัดโค่นของสวนยางพาราที่จะเพิ่มพื้นที่อีกหลายล้านไร่ การวิจัยพัฒนาการกรีดยางโดยไม่ทำให้เนื้อไม้เสียและพันธุ์โตเร็วเพื่อสร้างเนื้อไม้ที่มีคุณภาพ และควรสร้างแบรนด์ไม้ยางพาราให้เป็นที่ยอมรับ มิใช่เป็นไม้ที่มีราคาถูก แต่เป็นไม้วิเศษที่มีคุณค่ามหาศาล” นายวิทยากล่าวทิ้งท้าย
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร 02 — 203 0522--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ