ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้เดิม “บ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่ที่ “A/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 27, 2008 08:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมของ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ( มหาชน) ที่ระดับ “A” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ตราสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียง ผลงานที่เป็นที่ยอมรับในการสร้างบ้านที่มีคุณภาพ และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงอุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวและความผันผวนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงยังเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวัง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะสามารถรักษายอดขายบ้านให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจถึงแม้ว่าสภาวะตลาดบ้านเดี่ยวยังชะลอตัวอยู่ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการที่มีบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จพร้อมขาย บริษัทน่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากมาตรการลดภาษีเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์เป็นผู้นำในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยของไทยมาเป็นเวลายาวนาน บริษัทก่อตั้งในปี 2526 โดยตระกูลอัศวโภคินซึ่งถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 32% ณ เดือนเมษายน 2551 รองลงมาคือ Government of Singapore Investment Corporation (GIC) ในสัดส่วน 16.5% บริษัทมีรายได้จากการขายบ้านเดี่ยวซึ่งเป็นสินค้าหลักคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 90% ของยอดขายรวมของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนที่เหลือมาจากยอดขายทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมีเนียม ณ เดือนมีนาคม 2551 บริษัทมีโครงการบ้านจัดสรรรวมทั้งสิ้น 36 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 30,223 ล้านบาท โดยเป็นโครงการบ้านเดี่ยวถึง 97% ในปี 2550 บริษัทมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่าตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวม ในขณะที่จำนวนบ้านจดทะเบียนที่สร้างโดยผู้ประกอบการลดลงอย่างต่อเนื่องราว 2% ในปี 2550 แต่บริษัทสามารถโอนบ้านเพิ่มขึ้น 4% ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในบ้านเดี่ยวสูงขึ้น การที่บริษัทตัดสินใจชะลอการโอนบ้านเป็นเวลา 3 สัปดาห์ก่อนที่มาตรการการลดภาษีจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 มีนาคม 2551 ทำให้ยอดขายของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2551 ลดลงประมาณ 6% อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 17.5% จาก 15.3% ของช่วงเวลาเดียวกันในปี 2550
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ฐานะการเงินโดยรวมของบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคงแข็งแรง อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 ปรับตัวดีขึ้นโดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 31.9% จาก 35.4% ณ สิ้นปี 2550 บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่รวม 14 โครงการในปี 2551 โดยมีราคาขายเฉลี่ย 4.8 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการพัฒนาบ้านราคาปานกลางมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากเงินลงทุนจัดซื้อที่ดินปีละประมาณ 4,000 ล้านบาทและเงินลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าปีละ 1,700 ล้านบาทแล้ว ระดับเงินกู้ของบริษัทอาจเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40%-45% ในช่วงปี 2551-2553
อุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัยขึ้นอยู่กับแนวโน้มโดยรวมของภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2551 น่าจะเติบโตในระดับปานกลางในอัตรา 4.5%-5.5% อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งได้แก่การลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะแก่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลดค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการน่าจะช่วยบรรเทาภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง ทริสเรทติ้งกล่าว
บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ A
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
LH094A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ A
LH104A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ระดับ A
LH119A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 คงเดิมที่ระดับ A
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2555 คงเดิมที่ระดับ A
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ