กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--กทม.
ประธานคณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณางบปี49 เสนอแนวทางการทำงานประชาสัมพันธ์กทม. ควรมีทั้งบุคลากรที่ดี แผนงานที่ชัดเจนและงบประมาณที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มศักยภาพของหน่วยงานให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.48 เวลา 15.00 น.) นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ก.เขตห้วยขวาง ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม. เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2549 เป็นประธานการประชุมฯ ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณางบประมาณของสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 626,610,600 บาท สำนักการแพทย์ จำนวน 2,585,214,300 บาท และสำนักอนามัย จำนวน 1,928,003,500 บาท
ประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ กล่าวว่า คณะกรรมการฯได้พิจารณางบฯ ด้วยความรอบคอบและรัดกุมโดยการเปิดให้หน่วยงานได้เข้ามาชี้แจงว่าการจัดสรรงบฯนั้น มีความสำคัญมากน้อยเพียงไร โดยคณะกรรมการฯจะตั้งประเด็นเพื่อซักถามว่าในปีที่ผ่านมาหน่วยงานมีการใช้งบฯอย่างถูกต้องตามกำหนดระยะเวลาหรือไม่ หากล่าช้าเป็นเพราะเหตุผลใดซึ่งจะเป็นประเด็นหนึ่งในการนำมาพิจารณาประกอบของคณะกรรมการฯ โดยหากพบว่าไม่เป็นตามกำหนดในปีงบประมาณนี้ก็จะต้องทำการปรับงบฯส่วนนั้นลง ทั้งนี้งบฯของทุกสำนักมีความสำคัญเท่ากันหมดเพียงแต่ว่ากรอบวงเงินที่คณะผู้บริหารจัดสรรไม่เท่ากัน ทั้งนี้หากเป็นหน่วยงานที่มีการจัดสรรงบฯมาก เช่น สำนักการระบายน้ำ สำนัก การโยธาหรือสำนักการจราจรและขนส่ง เพื่อเป็นการเพิ่มความรอบคอบ และความสมบูรณ์ในการพิจารณาคณะกรรมการฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อศึกษาและดูรายละเอียดในข้อเท็จจริงและนำมารายงานต่อคณะกรรมการใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับงบประมาณการประชาสัมพันธ์ของกทม.นั้นถือว่ามีความสำคัญและจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยวหรือการประชาสัมพันธ์หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งโดยเฉพาะ โดยในบางหน่วยงานนั้นก็ต้องทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับประชาชนอยู่แล้ว อาทิ ในด้านการป้องกันอัคคีภัย เดิมประชาชนเข้าใจว่าอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจดับเพลิง แต่ในความเป็นจริงได้ย้ายมาเป็นหน่วยงานหนึ่งของกทมแล้วคือสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งหากไม่มีการประชาสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์และสถานที่ที่ประชาชน ควรรับทราบในการแจ้งเหตุอาจทำให้ขั้นตอนของการประสานงานแต่ละหน่วยงานมีปัญหาได้ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์งบฯการท่องเที่ยวของกทม.ซึ่งมีหลายแห่งที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสร้างใหม่และมีความสำคัญแต่ยังไม่คอยมีใครรู้จัก อย่างไรก็ดีนายประเดิมชัยได้ตั้งข้อสังเกตว่าแนวทางในการประชาสัมพันธ์นั้นต้องมีรูปแบบที่ชัดเจน และต้องมีความต่อเนื่องด้วย เพราะถ้าทำอย่างขาด ๆ หาย ๆ ก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร
ประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนการทำงานของกองประชาสัมพันธ์ในปัจจุบันนั้นตนคิดว่ามีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้ว แต่การประชาสัมพันธ์ที่จะประสบผลสำเร็จได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่ว่ามีความพร้อมด้านบุคลากรแต่ขาดงบประมาณก็ไม่มีประโยชน์ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ต้องควบคู่กันไป ทั้งบุคลากร งบประมาณ รวมทั้งแผนการทำงานที่ชัดเจนด้วย สำหรับแนวทางการพิจารณางบประชาสัมพันธ์ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการฯได้แยกงบฯประชาสัมพันธ์ออกไปสู่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก็มีกองประชาสัมพันธ์ของกทม.อยู่แล้ว ตนคิดว่าผู้บริหารควรที่จะทบทวนว่าแผนการประชาสัมพันธ์ควรจะรวมอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เพราะหากกระจายไปต่างคนต่างทำก็จะทำให้เกิดการทำงานซ้ำซ้อนและรูปแบบแผนการทำงานก็ไม่ออกมาทิศทางเดียวกัน และจะทำให้ผู้ที่รับผิดชอบการทำงานกระจายออกไปด้วย โดยตนเห็นว่าการที่จะปรับเสริมศักยภาพหรือเพิ่มศักยภาพให้กับกองประชาสัมพันธ์ให้เป็นสำนักงานนั้น คณะกรรมการฯเห็นด้วยอยู่แล้วเพียงแต่อยากให้งานทั้งหมดมารวมเป็นแผนงานเดียวกันอยู่ในเนื้องานเดียวกัน รวมทั้งการสร้างทีมงานให้มีประสิทธิภาพก็จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--