กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ชี้แจงว่า จากปัญหาแอลพีจีในสถานีบริการเกิดการขาดแคลนและบางสถานีบริการขึ้นป้ายแอลพีจีหมดนั้น ปตท. ขอยืนยันว่าได้มีการจ่ายแอลพีจีให้แก่ลูกค้าของ ปตท. และ ผู้ค้ามาตรา 7 ตามที่กรมธุรกิจพลังงานเป็นผู้กำหนดในปริมาณปกติเสมอมา โดยก่อนหน้านี้ 1-2 วัน อาจมีปัญหาการขนส่งแอลพีจี จากคลังก๊าซเขาบ่อยาที่ศรีราชามายังคลังก๊าซบางจากล่าช้า จากความแออัดของท่าเรือ เนื่องจากเป็นท่าเรือขนส่งทั้งภายในและต่างประเทศหลากหลายผลิตภัณฑ์ร่วมกัน แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้มีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จึงทำให้ปริมาณสำรองและความสามารถในการจ่ายก๊าซอยู่ในระดับปกติ อีกทั้งในสัปดาห์หน้าแอลพีจีที่นำเข้าจากต่างประเทศจะมาเพิ่มเติมอีก 22,000 ตัน และคาดว่าจะมีการทยอยนำเข้าตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้มีปริมาณแอลพีจีจำหน่ายในประเทศอย่างเพียงพอ
ปัจจุบันการใช้แอลพีจีในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากประมาณ 3 ล้านตัน ในปีที่ผ่านมา เป็น 3.5 ล้านตันในปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 14.2% โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการใช้ในรถยนต์ ถึง 22.7% สาเหตุจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นตามภาวะตลาดโลก และประชาชนหันมาใช้แอลพีจีทดแทนเพิ่มขึ้นสูงเกินกว่าปกติ โดยปัจจุบันราคาในตลาดโลกอยู่ที่ 905 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน แต่รัฐฯกำหนดให้โรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ ในประเทศขายเพียง 332 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งเท่ากับผู้ผลิตรับภาระอยู่ประมาณเกือบ 600 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน และหากโครงสร้างราคายังคงเป็นเช่นในปัจจุบัน ในอนาคตก็อาจทำให้เกิดปัญหาถังเก็บจ่ายรองรับการนำเข้าของ ปตท. ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ
อนึ่ง ปตท. มีสถานีบริการแอลพีจีเพียง 36 แห่ง จาก 236 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนเพียง 15% ขณะที่มีส่วนแบ่งตลาดในภาคขนส่ง 7% ที่เหลือเป็นของผู้ค้ามาตรา 7 อื่น และขอยืนยันว่าปัญหาแอลพีจีที่ขาดแคลนนี้ ปตท. ไม่ได้กักตุน
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โทร.0-2537-2157 โทร.0-2537-2174