กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--ท่าอากาศยานไทย
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จะครบรอบการดำเนินงาน 29 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 นี้ โดย พลอากาศโท ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานของ ทอท.ในเรื่อง การให้บริการปริมาณจราจรทางอากาศ ผลการดำเนินการ ทางด้านการเงิน แนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ระยะที่ 2 ความคืบหน้าการแก้ปัญหา ทสภ.ตลอดจนความคืบหน้าการดำเนินงานชดเชยผลกระทบด้านเสียง และแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาค
พลอากาศโท ชนะ กล่าวว่า ปริมาณจราจรทางอากาศของ ทอท.ในช่วง 8 เดือน (ตุลาคม 2550 — พฤษภาคม 2551) ปีงบประมาณ 2551 ท่าอากาศยานของ ทอท.6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงราย และสุวรรณภูมิ มีปริมาณเที่ยวบินขึ้น - ลงรวม 277,526 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2550 คิดเป็นร้อยละ 6.36 ให้บริการผู้โดยสารรวม 41,476,074 คน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 9.25 และมีปริมาณขนส่งสินค้าเข้าออก 901,153 ตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.24 โดยท่าอากาศยานดอนเมืองและ ทสภ.ให้บริการเที่ยวบินขึ้นลงรวมกันเท่ากับ 216,199 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วคิดเป็นร้อยละ 5.33 มีจำนวนผู้โดยสารรวม 33,102,614 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.92 และขนส่งสินค้าเข้าออกจำนวน 863,585 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.73
สำหรับผลการดำเนินการด้านการเงินงวด 6 เดือน (ตุลาคม 2550 — มีนาคม 2551) ปีงบประมาณ 2551 นั้น ทอท.มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 11,476.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีงบประมาณ 2550 จำนวน 2,425.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.79 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 8,484.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 506.92 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.35 กำไรจากการดำเนินงานรวม 2,991.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,918.17 ล้านบาท หรือร้อยละ 178.70 กำไรสุทธิ จำนวน 3,498.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,154.05 ล้านบาท หรือร้อยละ 160.19 กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.45 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.94
ส่วนแนวทางการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 (ปี 2551 — 2557) ทอท.ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนา ทสภ.ระยะที่ 2 (ปี 2551 — 2557) ต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศและท่าอากาศยาน ซึ่งมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อ 21 เมษายน 2551 ให้ความเห็นชอบแล้ว โดยคณะกรรมการฯ เห็นชอบให้ ทอท.จัดทำรายละเอียดแผนการลงทุนระยะที่ 2 เพื่อเสนอกระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ซึ่งขณะนี้ ทอท.กำลังจัดทำรายละเอียด ซึ่งเมื่อเสร็จแล้วจะนำเสนอให้คณะกรรมการ ทอท.พิจารณาก่อนเสนอกระทรวงคมนาคมต่อไป การแก้ปัญหาการแก้ปัญหาต่างๆ ของ ทสภ.นั้น ในเรื่องของจำนวนห้องน้ำไม่เพียงพอ ทสภ.ได้ปรับปรุงเพิ่มเติมโดยมีเป้าหมาย จำนวน 208 ห้อง ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 97 ห้อง งานปรับปรุงพื้นที่ห้องผู้โดยสารขาเข้า เพื่อแยกพื้นที่ผู้โดยสารกับผู้มารับผู้โดยสารให้ชัดเจน และเป็นการป้องปรามมิให้กลุ่มบุคคลภายนอกเข้ามากระทำการหาผลประโยชน์ในรูปมิจฉาชีพ โดยจะเริ่มทดลองการจัดรูปแบบ passenger flow บริเวณ โถงขาเข้าใหม่ ในวันที่ 30 มิถุนายน 2551 นี้ การปรับปรุงการบริการบริเวณห้องผู้โดยสารขาออก ตลอดจนการเปลี่ยนรูปแบบการตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระแบบรวมศูนย์ (Centralized Security Screening) เพื่อตรวจค้นบุคคลและสัมภาระของผู้โดยสารที่ ทสภ.ซึ่งจะจัดทำทั้งบริเวณอาคารผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ต้องรอการอนุญาตจากกรมการขนส่งทางอากาศและหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องก่อน นอกจากนี้ ยังมีการจัดระเบียบยานพาหนะและกำหนดจุดจอดรถประเภทต่างๆ อีกด้วย
สำหรับปัญหาความเสียหายพื้นที่ทางวิ่ง (Runway) และทางขับ (Taxilane and Taxiway) ณ ทสภ.นั้น ทอท.ได้มีการปรับปรุงซ่อมแซมอย่างเป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อให้พื้นผิวสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้น ทอท.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาหาสาเหตุของความเสียหาย และข้อเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร โดยให้มีผลกระทบต่อการให้บริการอากาศยานน้อยที่สุด ซึ่งปัจจุบัน ที่ปรึกษาฯ อยู่ระหว่างการจัดทำรายงาน Draft Final and Check Report
นอกจากนี้ เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ทสภ.ได้เปิดให้บริการเขตปลอดอากรในส่วนของคลังสินค้าเพิ่มมูลค่าแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2551 และได้พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์กับกรมศุลกากร และยังพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้า แบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการควบคุมการเข้าออกในคลังสินค้าอีกด้วย
สำหรับ ปัญหาการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) ณ ทสภ.นั้น ทอท.ได้ดำเนินการบริหารจัดการรถแท็กซี่เอง โดยใช้พนักงานของ ทอท.ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2551 เป็นต้นมา อีกทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการที่อาคารผู้โดยสารจากชานชาลาอาคารผู้โดยสารชั้น 1 เป็นชั้น 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2550 การจัดทำประวัติผู้ขับรถแท็กซี่ และการออกระเบียบปฏิบัติและบทลงโทษสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่รับ — ส่งผู้โดยสาร ณ ทสภ.ตลอดจนจัดฝึกอบรมภาษาอังกฤษและมารยาทในการให้บริการ เพื่อให้ การบริการรถแท็กซี่ ณ ทสภ.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อ ทอท.และชื่อเสียงของประเทศไทยโดยรวม
นอกจากนี้ ทอท.ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการอำนวยความสะดวก ด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ทสภ.ในชั้นต้น ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ ทอท.ช่วยตรวจสอบเอกสารและให้คำแนะนำผู้โดยสารให้กระจาย ไปยังช่องตรวจลงตราของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ว่าง รวมทั้งประสาน ตม.ให้จัดเจ้าหน้าที่
มานั่งตรวจลงตราให้ครบทุกเคาน์เตอร์ โดยเฉพาะในช่วงผู้โดยสารหนาแน่น นอกจากนี้ ทอท.ยังมีความคืบหน้าการดำเนินงานชดเชยผลกระทบด้านเสียงของ ทสภ.โดย ทอท. ได้จ่ายค่าชดเชยในส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ NEF มากกว่า 40 เพื่อให้ไปดำเนินการปรับปรุงอาคาร เองแล้ว จำนวน 185 อาคาร เป็นเงิน 45.64 ล้านบาท และเตรียมทำสัญญาซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 25 อาคาร ที่ดิน 20 แปลง เป็นเงิน 151.83 ล้านบาท ซึ่ง ทอท.จะดำเนินการซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เป็นจำนวน 10 หลังก่อน ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 นี้ ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ NEF 30 — 40 ทอท.ได้จ่ายค่าชดเชยให้สถานที่อ่อนไหวต่อผลกระทบด้านเสียงนำเงินไปปรับปรุงอาคารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศเองแล้ว จำนวน 11 แห่ง เป็นเงิน 190.48 ล้านบาท ทั้งนี้ รวมจำนวนเงินชดเชยทั้งหมดที่ ทอท.ได้จ่ายไปแล้ว เป็นเงิน 236.12 ล้านบาท
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคในความดูแลของ ทอท.นั้น ทอท.กำลังเร่งดำเนินงานตามแผนพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ในส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ คือ งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ทั้งนี้ เมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี จากเดิม 3.5 ล้านคนต่อปี ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการทำแนวทางพัฒนาในระยะยาวปีงบประมาณ 2552 — 2554 เสร็จแล้ว โดยจะมี การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ ให้รองรับผู้โดยสารได้ 11.5 ล้านคนต่อปี จากเดิม 6.5 ล้านคนต่อปี การก่อสร้างอาคารคลังสินค้าใหม่ และงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและขั้นตอนของโครงการต่างๆ ขณะเดียวกัน การพัฒนาท่าอากาศยานเชียงราย (ทชร.) กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานสำหรับ Code D (A-300) เพิ่มขึ้นอีก 1 หลุมจอด รวมเป็นพื้นที่ก่อสร้างลานจอดอากาศยานใหม่ประมาณ 8,400 ตารางเมตร และก่อสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์จำนวน 9 หลุมจอด ซึ่งจะทำให้ ทชร.มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ 12 หลุมจอด เป็นต้น
พลอากาศโท ชนะ กล่าวปิดท้ายว่า ผู้บริหารและพนักงาน ทอท.ทุกคน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ ทอท. ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต เชียงราย และสุวรรณภูมิ ยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาทุกประการให้ลุล่วง ตลอดจนยึดมั่นที่จะเดินหน้าทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการท่าอากาศยานของ ทอท.ด้วยความรวดเร็ว สะดวกสบาย และปลอดภัย อยู่บนมาตรฐานสากล รวมทั้งมุ่งมั่นในการพัฒนา ทสภ.ให้เป็นระดับ World Class Airport เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
สำนักสื่อสารองค์กร
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2535-1042, 0-2535-2663
โทรสาร 0-2535-4099, E-mail : aot_media@yahoo.com