ซีเอสพี สตีล เซ็นเตอร์ ศูนย์บริการเหล็กครบวงจร เผยผลประกอบการปี 2548 รายได้พุ่งกว่า 52%

ข่าวทั่วไป Friday December 9, 2005 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ซีเอสพี สตีล เซ็นเตอร์ ศูนย์บริการเหล็กครบวงจรเผยผลประกอบการปี 2548 รายได้พุ่งกว่า 52%พร้อมเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
นายวีรศักดิ์ ชัยสุพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทในปี 2548 ในระยะ 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม — กันยายน) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,142.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.65% จากงวดเดียวกันของปี 2547 ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม 1,403.6 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34.64 ล้านบาท โดยเมื่อหักค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร บริษัทฯ มีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 เท่ากับ 67.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ประมาณ 95.18%
“ในปี 2547 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จอีกปีหนึ่งของซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ ที่สามารถทำยอดขายและผลกำไรเพิ่มขึ้นมาได้ในระดับที่ค่อนข้างดี สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัท ได้มีนโยบายปรับกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจ จากเดิมที่ซื้อมาขายไปสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นชนิดม้วนเท่านั้น เป็นศูนย์บริการเหล็กและผู้ผลิตท่อเหล็กรีดเย็น ที่มุ่งเน้นให้การบริการแปรรูปเหล็กแผ่นชนิดม้วน การให้บริการจัดหาเหล็กแผ่นชนิดม้วนทุกประเภทจากทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าตามประเภทและขนาดที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนั้นยังให้บริการแปรรูปเหล็กตามความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันนโยบายในการบริการมุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ โดยบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานด้านการจัดการ ISO 9001 : 2000 จาก Bureau Veritas Quality International และ มอก.528-2540 จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งยังมุ่งเน้นการให้บริการจัดส่งที่รวดเร็วและตรงต่อเวลา โดยใช้รถบรรทุกของบริษัทในการขนส่งให้แก่ลูกค้าโดยตรง และยังมีบริการหลังการขายเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและสามารถแก้ปัญไขปัญหาให้แก่ลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีด้วย”
นอกจากนั้นแล้ว ในช่วง 9 เดือนของปี 2548 ที่ผ่านมานั้น บริษัทมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายเหล็กแผ่นชนิดม้วนและเหล็กแผ่นชนิดแปรรูป ให้แก่ ผู้ค้าส่ง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งอุตสาหกรรมต่างๆเหล่านี้มีแนวโน้มเติบโตขยายตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ได้มียอดการผลิตจนถึง 1 ล้านคันแล้วในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายวีรศักดิ์ กล่าว
นายวีรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ได้เตรียมการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในเดือนธันวาคม ศกนี้ เพื่อระดมทุนมาขยายกิจการเพื่อเป็นศูนย์บริการเหล็กครบวงจร และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณวงจันทร์ ตั้งทรงศักดิ์ และคุณประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
โทร. 0-2204-8221 และ 0-2204-8216 หรือ
0-9127-2089 และ 0-1586-2813--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ