กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--โซเวอเรน ฮอสปิตัลลิตี โฮลดิ้งส์
โซเวอเรน ฮอสปิตัลลิตี โฮลดิ้งส์ (Soverreign Hospitality Holdings : SHH) บริษัทด้านการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว พักผ่อน และอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นบริษัทอิสระในเครือ เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ป (M.A Kharafi Group : CAKG) แห่งคูเวต ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ประกาศกลยุทธ์รุกธุรกิจระดับโลกด้วยการเข้าซื้อ ให้สนับสนุนการเงิน และพัฒนาสินทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม อสังหาริมทรัพย์ และท่องเที่ยวทั้งในไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลกที่มีศักยภาพสูง
มร. โมฮัมเมด ฟาห์มี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซเวอเรน ฮอสปิตัลลิตี โฮลดิ้งส์ หรือ SHH กล่าวว่า “เรามีเป้าหมายที่จะขยายเครือข่ายธุรกิจเชิงยุทธศาสตร์ทั้งในไทยและทั่วโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากเอ็ม. เอ. คาราฟี กรุ๊ป เพื่อต่อยอดจากผลงานความสำเร็จ และสายสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มพันธมิตร เราเชื่อว่าการขยายธุรกิจครั้งใหญ่ของเราจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพสูงทั้งในตลาดเกิดใหม่และตลาดพัฒนาแล้วได้เป็นอย่างดี”
ปัจจุบัน SHH เป็นเจ้าของผู้ดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท 21 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีห้องพักรวมกันกว่า 4,000 ห้อง อยู่ในอียิปต์ แอฟริกาใต้ แกมเบีย ซีเรีย เลบานอน และแอลเบเนีย รวมทั้งกำลังพัฒนาอีกหลายโครงการในลิเบีย เซเนกัล เอธิโอเปีย และมอริเตเนีย
บริษัทฯ กำลังวางลู่ทางขยายการลงทุนในตลาดเกิดใหม่และตลาดพัฒนาแล้วทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยจะใช้วิธีให้การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อการพัฒนา หรือซื้อกิจการ และส่งเสริมการบริหารจัดการเชิงรุก ในอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯ คาดว่าจะเปิดตัวโครงการโรงแรม รีสอร์ท และอสังหาริมทรัพย์ในเครือเพิ่มขึ้นอีก 32 แห่ง จำนวนทั้งสิ้น 5,800 ห้อง หลังจากโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ 11 แห่ง ซึ่งมีห้องพักรวมกว่า 1,800 ห้องเสร็จสมบูรณ์
นอกจากจะบริหารโรงแรมด้วยตนเองแล้ว SHH ยังได้เซ็นสัญญาว่าจ้างเครือโรงแรมชื่อดังให้มาช่วยบริหารบางส่วน เช่น โฟร์ซีซั่นส์โฮเต็ลส์แอนด์รีสอร์ทส์, อินเตอร์คอนติเนนตัลโฮเต็ลส์กรุ๊ป, ไฮแอทอินเตอร์เนชั่นแนล, โรตานาโฮเต็ลส์แอนด์รีสอร์ทส์, สตาร์วู้ดโฮเต็ลส์แอนด์รีสอร์ทส์, และซิกซ์เซนเซ็สสปา รวมทั้งกำลังหาลู่ทางร่วมมือระยะยาวกับพันธมิตรอื่นในลักษณะเดียวกันเพื่อให้บริษัทฯ มีโรงแรมหลากหลายทั่วโลกให้ลูกค้าเลือกได้สะดวก
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าพัฒนาหลายโครงการ ได้แก่ การร่วมมือเครือ อินเตอร์ คอนติเนนตัล เพื่อเปิดโรงแรมไฮแอทรีเจนซี โออูบาย บนถนนโกลเดนรูท ที่เมืองจอร์จ แอฟริกาใต้ ภายในต้นปี 2553
เมื่อเร็วๆ นี้ SHH ยังได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์คอนติเนนตัลโฮเต็ลส์กรุ๊ป เข้าพัฒนาโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2553 โดย เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ป จะเป็นผู้พัฒนาโครงการ ซึ่งจะเป็นโครงการครบวงจรแห่งเดียวในกรุงดามัสกัส ที่มีทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ อาคารสำนักงาน ศูนย์ประชุมระดับโลก ห้องบอลรูม ร้านค้า เฮลท์คลับ และสปา
นอกจากนั้น SHH ยังได้เซ็นสัญญากับอินเตอร์คอนติเนนตัลโฮเต็ลส์กรุ๊ป เพื่อพัฒนาโครงการในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล บริเวณชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกาติดมหาสมุทรแอตแลนติก โดย เอ็ม. เอ. คาราฟี กรุ๊ปจะลงทุนกว่า 250 ล้านเหรียญ (8,250 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครบวงจร ซึ่งรวมถึงการก่อสร้างโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลที่จะแล้วเสร็จในปี 2553 โครงการนี้จะมีห้องพัก 250 ห้อง ร้านอาหาร ศูนย์ประชุม ศูนย์บริการนักธุรกิจ ร้านค้าปลีก สปา สระว่ายน้ำ และแพลทฟอร์มสำหรับเล่นน้ำทะเล
บริษัท โซเวอเรน ฮอสปิตัลลิตี โฮลดิ้งส์ หรือ SHH ปัจจุบันมีสินทรัพย์ครบวงจรมูลค่า 800 ล้านเหรียญ (26,400 ล้านบาท) เป็นบริษัทที่ลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยว พักผ่อน และอสังหาริมทรัพย์ มีสำนักงานใหญ่ในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีสำนักงานประจำภูมิภาคในแอฟริกาใต้และอียิปต์ SHH เป็นบริษัทในเครือของ เอ็ม. เอ. คาราฟี กรุ๊ป จากประเทศคูเวต ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำติดอันดับ Fortune 500 ที่มียอดขายปีละ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (132,000 ล้านบาท) มีเครือข่ายธุรกิจใน 25 ประเทศ และว่าจ้างพนักงานกว่า 100,000 คนทั่วโลก
เกี่ยวกับ เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ป
โมฮัมเมด อับดุลโมห์ซิน อัล-คาราฟี แอนด์ ซัน หรือ เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ป เริ่มทำธุรกิจเทรดดิ้งในประเทศคูเวตเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ปัจจุบันเป็นบริษัทนานาชาติที่มีธุรกิจหลากหลายทั่วโลก อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง โรงงานผลิต ระบบไอที การบิน แฟรนไชส์อาหารจานด่วน ธุรกิจด้านการเกษตร อสังหาริมทรัพย์ และโรงแรม
ในยุคที่ธุรกิจก่อสร้างเริ่มบูมจากการจำหน่ายน้ำมันในปี 2499 ฝ่ายธุรกิจก่อสร้างของคาราฟี ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นรายใหญ่อย่างรวดเร็ว มีการขยายตัวรับกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ที่ให้บริการด้านการก่อสร้างอย่างครบวงจร อาทิ ด้านวิศวกรรมโยธา และโครงการก่อสร้าง ด้วยประสบการณ์การร่วมงานกับกลุ่มบริษัทผู้รับเหมาและบริษัทที่ปรึกษาโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลกในกว่า 25 ประเทศ
เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ปเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างระหว่างประเทศเกรดเอ ซึ่งมีผลงานการพัฒนาโครงการในกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (จีซีซี) แอฟริกา แคริเบียน เอเชีย และยุโรปตะวันออก โดยมีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศจีซีซี กลุ่มตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ แอฟริกา และยุโรป
กิจการอื่นในเครือเอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ป ได้แก่ อเมริกาน่า ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจอาหารขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นเจ้าของสายการบิน และร่วมลงทุนในสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่งของคูเวต และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เอ็ม. เอ. คาราฟีกรุ๊ปมีรายได้ปีละกว่า 4,000 ล้านเหรียญ (132,100 ล้านบาท) มีธุรกิจในกว่า 25 ประเทศ และมีพนักงานกว่า 100,000 คนทั่วโลก