บลูสโคป สตีล จับมือสมาคมสถาปนิกสยามฯ จัดสัมมนาเรื่อง อนาคตของการออกแบบอย่างยั่งยืนสำหรับอาคารสมัยใหม่ในพื้นที่เขตร้อนชื้น โดยมีสถาปนิกชื่อดังจากออสเตรเลียร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ

ข่าวอสังหา Tuesday July 1, 2008 16:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสีของไทย ร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดสัมมนาเรื่อง อนาคตของการออกแบบอย่างยั่งยืนสำหรับอาคารสมัยใหม่ในพื้นที่เขตร้อนชื้น โดยมีมร. โทน วีลเลอร์ สถาปนิกชื่อดังผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นไวโรนา สตูดิโอให้เกียรติเป็นวิทยากรพิเศษในงานสัมมนาดังกล่าว
มร. ไมค์ กันดี ประธาน บริษัท บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การออกแบบอย่างยั่งยืนเป็นแนวคิดเกี่ยวกับการออกแบบและก่อสร้างบ้านและอาคารในแนวทางที่ช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจและสังคมในการก่อสร้าง การใช้ชีวิต และการบำรุงรักษาอาคารใหม่ๆ ในฐานะที่ครองความเป็นผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมก่อสร้างมานานหลายปี บลูสโคป สตีลจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เหล็กสำหรับการก่อสร้างที่ทนทานต่อสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นของไทยได้อย่างดี”
“ด้วยการออกแบบอย่างดีเยี่ยมและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กอันโดดเด่น ที่ผลิตด้วยวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ 100% อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบซิงคาลุม (ZINCALUME) และเหล็กเคลือบสีคลีน คัลเลอร์บอนด์ (Clean COLORBOND) ของบลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) ช่วยให้เจ้าของอาคารสามารถประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล็กของบลูสโคป สตีล นอกจากจะมีความแข็งแกร่ง น้ำหนักเบา และทนทานต่อการสึกกร่อนได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังมีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนได้เป็นเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล็กเคลือบสีคลีน คัลเลอร์บอนด์ซึ่งได้รับการเคลือบสีด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรด เพื่อสะท้อนความร้อนออกจากพื้นผิวหลังคา”
ผลิตภัณฑ์เหล็กดังกล่าวได้ผ่านการทดสอบในภาคสนามว่า มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน โดยมีคุณสมบัติกักเก็บความร้อนต่ำ จึงคลายความร้อนได้รวดเร็วขึ้นแม้ในค่ำคืนที่มีอากาศร้อน ช่วยให้อากาศภายในบ้านเย็นสบาย ดังนั้น ในการออกแบบบ้าน สิ่งที่นักออกแบบจะต้องคำนึงถึง คือ ความโน้มเอียงของโครงสร้าง วัสดุที่ใช้มุงหลังคา ฉนวนกันความร้อน และรูปทรงของหลังคา ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานภายในบ้าน เช่นเดียวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องพิจารณาถึงสลากระบุระดับการประหยัดพลังงาน
ส่วนในวันที่มีอากาศร้อน หลังคาที่ทำด้วยเหล็กเคลือบซิงคาลุมจะเก็บกักความร้อนน้อยกว่าหลังคากระเบื้องคอนกรีตประมาณ 2.5 — 6 องศาเซลเซียส และสำหรับบ้านที่ไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อน แต่มีหลังคาที่ใช้เหล็กเคลือบซิงคาลุมจะช่วยประหยัดค่าไฟจากการเปิดใช้เครื่องปรับอากาศได้สูงถึง 63% เมื่อเทียบกับบ้านที่มีหลังคากระเบื้องคอนกรีต
“ผลิตภัณฑ์เหล็กของบลูสโคปมีความทนทานเป็นเยี่ยม ทั้งยังช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติและลดการใช้พลังงาน เพื่ออนาคตอันสดใสและยั่งยืนของประชาคมโลกสืบต่อไป” มร. กันดี กล่าว
ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบซิงคาลุม และเหล็กเคลือบสีคลีน คัลเลอร์บอนด์มีอัตราส่วนความแข็งแรงต่อหนึ่งหน่วยน้ำหนักสูงกว่าวัสดุหลังคาทั่วไป ทำให้สามารถยืดระยะพาดโดยไม่มีเสาค้ำยันได้ยาวขึ้น และใช้โครงสร้างในการรองรับตัวหลังคาน้อยลง เนื่องจากน้ำหนักของตัวหลังคาที่เบากว่า จึงลดต้นทุนในการขนส่ง ทั้งยังส่งผลให้มีการใช้พลังงานลดลงอันเป็นผลเนื่องมาจากการลดจำนวนเที่ยวการขนส่งเหล็กไปยังสถานที่ก่อสร้าง จึงช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ลดการเกิดมลพิษ ลดวัสดุที่นำมาใช้ก่อสร้าง และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ
“ผลิตภัณฑ์เหล็กดังกล่าวของบลูสโคป สตีลได้รับการออกแบบให้รองรับการรื้อถอนเพื่อนำกลับมาประกอบสำหรับการใช้งานใหม่ในรูปแบบเดิม เพื่อรองรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ จึงช่วยประหยัดต้นทุนและพลังงานที่ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนในการนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว
กลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย” มร. กันดี กล่าวปิดท้าย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ศรีเบญจา หรือ สาธิดา
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ โทร 02 252 9871
อีเมล์ sribenja.s@abm.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ