บทสัมภาษณ์ เพชรทาย วงษ์คำเหลา โปรดิวเซอร์ “ว้อ...หมาบ้ามหาสนุก”

ข่าวบันเทิง Wednesday July 2, 2008 14:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--สหมงคลฟิล์ม
Q เป็นอย่างไรบ้างกับบทบาทโปรดิวเซอร์ครั้งแรก
แหม...อย่าไปเรียกว่าเป็นโปรดิวเซอร์เลย มันดูกระดากสำหรับผม เรียกว่าเป็นผู้ดูแลเป็นที่ปรึกษา และช่วยดูเรื่องบทภาพยนตร์ดีกว่า มันดูยิ่งใหญ่ไปนะคำว่าโปรดิวเซอร์เนี่ย จริงๆ ในเรื่องนี้ก็ดูในส่วนของแก็กต่างๆ คอยกำหนดเส้นเรื่องของหนังเรื่องนี้
Q พูดถึงไอเดียของ “ว้อ...หมาบ้ามหาสนุก”
คือผมเล่นหนังผีตลกมาเยอะมาก ไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ครั้นว่าจะทำหนังผีด้วยก็จะไปซ้ำทางกับที่มีออกมาอยู่ในตอนนี้ ก็เลยปิ๊งว่าลองไปวิ่งหนีอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผีดีมั้ย ก็เลยคิดว่าลองเปลี่ยนเป็นหมาดีมั้ย ซึ่งไอเดียนี้คิดไว้นานแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ เคยเล่าให้พี่ปรัชฟังตั้งแต่สมัยถ่ายองค์บากภาคแรก คือในหนังเรื่องนี้จะมีกลิ่นของสไตล์หนังอย่าง ทอมแอนด์เจอรี่ บ้านผีปอบ บ้านผีเปิบ บุปผาราตรี แต่นำมาเล่าในแบบฉบับที่เราถนัด
Qพูดถึง บรรจง สินธนมงคลกุล ในฐานะผู้ที่มากำกับโปรเจกต์ในฝันของเรา
จงเขาจะรู้แนวทางตลกของเรา คือลุยงานมาด้วยกันสมัยทำแหยมฯ มีปัญหาอะไรหน้ากองจะคุยจะช่วยกันคิดตลอด เรียกว่าเป็นมือขวาผู้รู้ใจเลย เขาเป็นคนที่เก่งมีไอเดียมุกใหม่ๆ มาเสนอตลอดพอเราให้โปรเจกต์นี้ไปทำก็ต้องมีการคุยกันอยู่หลายรอบ เพื่อให้มองไปในแนวทางเดียวกัน และตัวเขาก็มีความตั้งใจที่จะทำโปรเจกต์ในฝันของเราเรื่องนี้ให้เป็นภาพออกมาให้ดีที่สุด
Q ในส่วนของแก๊กหรือมุกต่างๆ ในเรื่องนี้ เราได้วางแนวทางไว้อย่างไรบ้าง
ก็ประชุมกันอยู่สิบกว่าครั้ง ก็จะเน้นเรื่องมุกเรื่องการเล่าเรื่อง ก็คุยกับจงว่าเราต้องไปแบบนี้นะ มุกต้องไปแบบนี้นะ เราต้องมีเส้นเรื่องที่แข็งไว้ก่อน ส่วนเรื่องมุกเดี๋ยวให้นักแสดงตลกเขาไปแตก ก็มีทั้งพี่ค่อม พี่ชูศรี บอล เชิญยิ้ม เขาเซียนเรื่องมุกอยู่แล้ว เพราะหนังเรื่องนี้เป็นแบบบ้านๆ อยู่แล้ว เล่าเรื่องแบบสบายๆ
Q พูดถึงนักแสดงนำสี่ขาในเรื่องนี้
นาร่าเป็นหมาที่น่ารัก และก็เป็นนักแสดงที่เก่งนะ จริงๆ ผมเป็นคนกลัวหมานะ แต่ที่บ้านก็เลี้ยงโกลเด้นไว้ตัวนึง มันชอบเรียกขโมยเข้าบ้าน ตอนแรกที่เจอนาร่าก็รู้สึกกลัว เพราะตัวมันดำๆ ใหญ่ๆ แบบเดียวกับตัวที่เคยกัดผมในชิงร้อยชิงล้านมาแล้ว แล้วดันมาจากฟาร์มเดียวกันอีก เจอกันตอนแรกก็ยังเกรงใจๆ อยู่ แต่พอรู้ว่าเขาเชื่องก็เลยเริ่มโอเค ซึ่งในเรื่องน่ะเขาต้องเล่นเป็นหมาน่ากลัว ซึ่งนาร่าทำหน้าที่ของมันได้สุดยอดมาก
Qพูดถึงในส่วนของนักแสดงที่พี่หม่ำเองก็มีส่วนในการดีไซน์คาแรกเตอร์ด้วย
การคัดเลือกตัวละครสำคัญมากกับภาพยนตร์ ถ้ามันไม่แมทซ์กับภาพยนตร์นะ จะทำให้เนื้อหนังของเราอ่อนลง ฉะนั้นแล้วเขียนบทเสร็จปั๊บเนี่ยะ เปิดอ่านๆๆๆ แล้วก็นึกๆ ควรจะเป็นใครๆ เอาใครมาเล่นเป็นตัวนี้ดี คนนี้ใช่ คนอื่นไม่ใช่ เหมือนว้อเหมือนกัน อันไหนที่นึกได้ก่อนก็ติ้กไว้เลย อันไหนนึกไม่ได้ก็เปิดอ่านไปก่อน อ่านไปแต่ละซีนๆ ทีนี้เราก็ดูหนังดูละครก็จะเห็นเออเอาคนนี้มาเล่น นั่นเป็นเพราะว่าตัวเราเห็นภาพทั้งหมดออกมาแล้ว
อย่างเราก็รู้ว่าตัวละครนี้ต้องเป็นพี่ค่อม แล้วเนื้อเรื่องที่จะต้องเป็นเพื่อนพระเอก ต้องเป็นพี่ศรี แล้วก็ตุ๊กกี้ ทั้ง3 ตัวเนี่ยะต้องเป็นตัวชงให้พระเอกดูดีนางเอกดูดี แล้วมันต้องกลืนกันทั้งหมดด้วย เพราะอย่างแจ้งที่เล่นเรื่องแหยมยโสธร(รับบทเป็นยอดชายอาเฮ้ย) ก็ยังถือว่ายังไม่ใช่ดาราเก๋าซะขนาด ตุ๊กกี้เองก็ยังถือว่าใหม่ ออร์แกนนางเอกแหยมก็ยังถือว่าใหม่ เราก็เลยต้องหาตัวมาคุมไว้ซึ่งที่ทางของบทของตัวละครก็จะถูกกำหนดถูกวางเอาไว้ไปในทิศทางที่เราวางแผนเอาไว้
Qสีสันความฮาของว้อฯจะมีความเหมือนหรือแตกต่างจากเรื่องแหยมฯอย่างไรบ้าง
ก็จะแตกต่างกันตรงที่แหยมจะดูย้อนยุค มุกก็เลยไปในทางนั้น แต่อย่างของว้อฯจะทันสมัยกว่า แต่การเดินเรื่องสบายๆ มุกที่ดูเฉิ่มๆ ซื่อๆ ก็ยังคงเดิมอยู่เหมือนกับแหยมฯ
Qจนถึงตอนนี้โปรเจ็คต์หนังเรื่องแรกในฐานะโปรดิวเซอร์เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง โดยรวมๆแล้วว้อหมาบ้ามหาสนุกก็เป็นหนังบ้านๆ ดูแล้วสบายใจ ตัวผมเองก็รู้สึกว่าพอใจ ได้คุณจงผู้กำกับที่เคยมาช่วยผมในแหยมยโสธร มาถ่ายทอดไอเดียความคิดที่เราจะบอกจะนำเสนอออกไปก็เป็นหนังดูง่ายๆสบายๆ
Qคนดูจะได้อะไรจาก “ว้อ...หมาบ้ามหาสนุก
คนดูก็จะได้ฮาไปกับมุกบ้านๆ ดูง่ายสบายตาซึ่งเป็นแนวทางการเล่าเรื่องที่เราถนัด ไปดูหนังที่มีหมาเป็นตัวป่วน ตัวแสบ สร้างความโกลาหลให้กับคนในหมู่บ้าน เชื่อว่าทุกคนจะได้รับความสุขไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ