กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--ธนชาต
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มั่นใจตลาดหุ้นไทยยังดี รุกธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดภายในสิ้นปี 51 เพิ่มเป็น 4% ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจในช่วงปลายปีนี้มีแผนจะยื่นไฟล์ลิ่งบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไออีก 3-4 บริษัท พร้อมเตรียมเปิดสาขาใหม่เดือนนี้อีก 2 สาขา จากเดิมที่มี 32 สาขา สูงเป็นอันดับ 3 ในอุตสาหกรรมบริษัทหลักทรัพย์
หลังประสบความสำเร็จจากการนำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำไปโรดโชว์ต่างประเทศ โดยเมื่อวันที่ 11-13 มิถุนายน นำธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ไปโรดโชว์ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ และวันที่ 23-27 มิถุนายน นำ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ไปโรดโชว์ในกลุ่มประเทศยุโรป ที่อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเป็นอย่างดี บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จึงประกาศรุกธุรกิจเต็มที่ในครึ่งปีหลัง 2551
นางอัศวินี ไตลังคะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (Ms. Asvini Tailanga,Managing Director, Thanachart Securities Public Company Limited ) กล่าวว่า “ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง จะส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความเคลื่อนไหวที่ ค่อนข้างจะผันผวน แต่ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันกลับสูงถึง 19,804.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 13,627.11 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ ธนชาตยังคงมั่นใจว่าพื้นฐานของหุ้นไทยยังคงดีอยู่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีต่อนักลงทุนได้
ทั้งนี้ในระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาบริการต่าง ๆ ของบริษัทอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 4.49% เป็นอันดับที่ 5 ในขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (มกราคม —มิถุนายน) อยู่ที่ 3.78% เป็นอันดับที่ 9 สูงขึ้นจากปีก่อนซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 3.44% ในขณะเดียวกันบริษัทได้พัฒนาระบบต่าง ๆ อยู่เสมอ บริษัทจึงมีลูกค้านิยมส่งคำสั่งซื้อขายด้วยตนเองผ่านทางอินเตอร์เน็ตมากขึ้น บริษัทจึงมีสัดส่วนของลูกค้าที่ซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ประมาณ 15% และส่วนแบ่งทางการตลาดของการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต (มกราคม — พฤษภาคม) ก็ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 3.68%
ในปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งหมดประมาณเกือบ 30,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 9% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในปี 2551 ไว้ที่ 4% และยังคงตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าต่างประเทศและสถาบันในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีสาขาทั้งหมด 32 สาขา ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ทั้งสาขาเต็มรูปแบบและแบบที่อยู่รวมกับธนาคารธนชาต บริษัทจึงสามารถให้บริการคลอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิด 2 สาขาใหม่เพิ่มเติมที่จามจุรี สแควร์ และถนนเสือป่า ในเดือนกรกฎาคมนี้
ส่วนธุรกิจด้านวาณิชธนกิจนั้น ในขณะนี้บริษัทเพิ่งเสร็จสิ้นการขายหุ้นกู้ของบริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการจัดอันดับ (เรทติ้ง) A- จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) โดยได้เสนอขายให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน — 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกหุ้นกู้ของธนาคารธนชาต มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในช่วงปลายปีนี้ บริษัทมีแผนจะยื่นไฟล์ลิ่งบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดเอ็มเอไออีก 3-4 บริษัท และยังมีงานเกี่ยวกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์อีก 2 กองอีกด้วย
ทั้งนี้เพื่อเป็นการชักชวนให้นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ธนชาตได้นำบริษัทจดทะเบียนชั้นนำไปโรดโชว์ต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ โดยเมื่อวันที่ 11-13 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ธนชาตนำธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ไปโรดโชว์ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ และในระยะเวลาถัดมาคือช่วงวันที่ 23-27 มิถุนายน ธนชาตได้นำ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ไปโรดโชว์ในกลุ่มประเทศยุโรป ที่อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเป็นอย่างดี
เผยแพร่ข่าวโดย
ฝ่ายผู้ลงทุนสัมพันธ์
บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-217-8888 ต่อ 5838