SET in the City 2005 บรรลุเป้า นักลงทุนเข้าใจ-เข้าถึงการลงทุน ผู้ชมงานกว่า1แสนคน

ข่าวทั่วไป Monday November 21, 2005 15:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
มหกรรมการลงทุนครบวงจร SET in the City 2005 สำเร็จตามเป้า สร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนไทย นักลงทุนแห่ซื้อกองทุนรวมกว่า 150 ล้านบาท เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น 5,000 ราย จากยอดผู้เข้าชมงานกว่า 1 แสนคน
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผย ถึง งานมหกรรมการลงทุนครบวงจร ครั้งที่ 4 หรือ SET in the City 2005 ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคารจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 17-20 พฤศจิกายน 2548 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิดหลัก “30ปีตลาดทุนไทย ครบทุกเงื่อนไขการลงทุน” ที่มุ่งเน้นให้ผู้ลงทุนรับรู้ข้อมูลและ เข้าใจการลงทุนในหุ้น พันธบัตร ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์และกองทุนรวมว่า ประสบความสำเร็จ เป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วันรวมทั้งสิ้นกว่า 1 แสนราย
ผู้เข้าชมงานยังให้ความสนใจต่องานมาก เนื่องจากมีกิจกรรมที่จัดขึ้นมากมายและหลากหลาย โดยในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มีนักลงทุนสนใจซื้อหน่วยลงทุนสูงมาก คิดเป็นมูลค่า 150 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนบริษัทหลักทรัพย์(บล.)นั้น มีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นจำนวนมากถึง 5,000 บัญชี
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า มหกรรมการลงทุนครบวงจร บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดงานและ
สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาช่องทางการลงทุน เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้อย่างครบถ้วน ตลอดจนบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำให้นักลงทุนเข้าใจถึงการกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปยังหลายตลาด
“งานมหกรรมการลงทุนครบวงจร หรือ SET in the City 2005 นับว่าบรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนให้กับนักลงทุน ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการลงทุนในกองทุนรวมที่มีมูลค่าสูงถึง 150 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา สะท้อนว่านักลงทุนมีความเข้าใจในเรื่องของการลงทุนมากขึ้น ว่าสิทธิประโยชน์จากการลงทุนมีมากมาย เช่น อัตราผลตอบแทนที่สูง 3-4 % นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอีกด้วย”
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ปัจจุบันช่องทางในการให้ความรู้แก่นักลงทุน ผู้ที่สนใจทั่วไปเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนนั้น มีมากขึ้นจากเดิม รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯเองได้จัดให้มีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสาขาของโบรกเกอร์ที่เพิ่มขึ้น ก็จัดว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าถึงตลาดทุนไทยได้อย่างเต็มที่
ในปีนี้นักเรียน นิสิต นักศึกษายังให้ความสนใจเข้าชมงานจำนวนมาก ต่อเนื่องจากปีก่อน จากการที่ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานศึกษา 21 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่ต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการออม การลงทุน และการบริหารเงิน
สำหรับกิจกรรม ที่จัดโดยหน่วยงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai), ตลาดตราสารหนี้,ตลาดอนุพันธ์, บริษัท เซ็ทเทรด ดอทคอม จำกัด ,บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด(TSD) , สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน(TSI) รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต) และตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า(AFET) ได้รับความสนใจเช่นกัน
ทางด้านบลจ. นั้น ถือว่า ประสบความสำเร็จในการแนะนำรวมทั้งเผยแพร่ข้อมูลกองทุน LTF และ RMF ที่ออกใหม่ เช่น กองทุนคุ้มครองเงินต้น รวมทั้งกองทุนใหม่ๆ ประเภทอื่น อาทิ กองทุนตราสารหนี้ กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
นอกจากนี้โบรกเกอร์ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันแบบใหม่ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้บริการซื้อขายได้ทุกที่ ทุกช่องทาง เช่น การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต การซื้อขายผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ Pocket PC รวมทั้งยังได้เตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ SET 50 Index Futures ที่ให้รายละเอียดด้านการเปิดบัญชีซื้อขายอนุพันธ์ ตลอดจนวิธีการซื้อขายอย่างครบถ้วน
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การเสริมสร้างความรู้ให้กับนักลงทุน และประชาชนทั่วไปในครั้งต่อไป จะเปลี่ยนจาก SET in the City ไปสู่ Thai Investors’s Day หรือ “วันตลาดนัดผู้ลงทุนไทย” ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ต้นเดือน ตลอดทั้งปี โดยครั้งแรกกำหนดจัดวันที่ 3-4 ธันวาคม 2548 ซึ่งกิจกรรมภายในงานจะมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านการลงทุน และบริการจากโบรกเกอร์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ