สาระพันคำถาม-คำตอบเรื่องผู้ชาย...ที่ผู้หญิงก็ควรรู้

ข่าวทั่วไป Thursday July 3, 2008 10:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
หากคุณเป็นชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีคนที่รักอยู่ในช่วงวัยนี้ คุณอาจอยู่ในความสัมพันธ์ที่ยาวนานมากว่า 10 ปี ดังนั้น ทั้งคู่อาจต่างพยายามมองข้าม “ชีวิตรัก” เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติที่สุด แต่ทั้งคุณและเขาอาจเต็มไปด้วยข้อสงสัยแต่ไม่รู้หรือไม่กล้าจะถามใคร เพราะเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันได้ง่ายๆ
เพื่อให้ความกระจ่างในเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะมาตอบคำถามที่อยู่ในหัวของคุณและเขา แล้วคุณจะรู้ว่าเรื่องเพศไม่ซับซ้อนและน่าอายแต่อย่างใด
1. ดิฉันไม่แน่ใจว่าสามีของดิฉันซึ่งอยู่ในช่วง 40- 50 ปี พักหลังๆมานี้ทำ “การบ้าน” น้อยลงไปมาก เป็นเพราะเขามีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่ที่อยู่กินกันมานานความหวานก็ย่อมจืดจางไปตามปกติ
สำหรับคำถามนี้ นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ แนะนำวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ว่าคุณผู้ชายในวัยนี้มีอาการหรือพฤติกรรมต่อไปนี้หรือไม่
นกเขาไม่ขัน หรือ ขันไม่จบเพลง ติดต่อกันเกิน 2 เดือน หรือมีการเกิดซ้ำ
มีรอบเอวหนาเกิน 90 ซม.
มีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แล้วต่อมาเกิดเหตุการณ์กางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ เนื่องจากอาการปัสสาวะขัด หรือ ปัสสาวะกระปริบกระปรอย
มีอาการซึมเศร้า
หงุดหงิดง่าย
ขี่จักรยานทางไกล หรือขี่มอเตอร์ไซด์เป็นประจำ
สูบบุหรี่
ดื่มแอลกอฮอล์
ออกกำลังกายน้อย
อ่อนเพลีย อยากดื่มน้ำตลอดเวลา รับประทานอาหารได้แต่ผอม
มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
เคยผ่าตัด เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ หรือผ่าตัดไขสันหลัง
เคยได้รับการฉายแสง
หากพบว่า คุณผู้ชายมีปัญหาข้อ 1 ร่วมกับข้ออื่นข้อใดที่เหลือ หรือ พบอาการตั้งแต่ข้อ 2 เป็นต้นไป มากกว่า 3 อาการขึ้นไป แสดงว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหย่อนสมรรถภาพค่อนข้างสูง แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ หากปล่อยไว้เนิ่นนาน อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่างๆ อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคสมองเสื่อมและโรคเบาหวาน
2. แล้วคู่ของผมอยู่กันมาจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร อายุ 60 — 70 ปี แล้ว “นกเขา” จะขันบ้างหรือไม่ขันเลย ก็น่าจะเรื่องธรรมดาใช่หรือไม่
“บางทีคนมักจะคิดว่าอันนี้เป็นธรรมดาของคนแก่ เลยไม่คิดจะมาหาหมอ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะอาจมีโรคอื่นๆ ซ่อนอยู่แต่เริ่มแสดงออกให้เห็นด้วยเรื่องนี้ก่อน แนะนำว่ามาพบแพทย์นะครับ
“ความสุขอยู่กับคุณได้เสมอ” นายแพทย์กวิวัช กล่าว
3. สามีดูจะเข้าข่ายภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จะมีวิธีการรักษาได้อย่างบ้าง ถ้าไม่รักษาจะอันตรายหรือไม่ค่ะ
ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ED สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปหาหมอใกล้บ้านของคุณ ทั้งนี้เพื่อค้นหาว่าอะไรที่เป็นต้นตอของปัญหาของคุณผู้ชาย แล้วจึงเริ่มแก้ปัญหาไปตามลำดับขั้น นายแพทย์กวิวัช ตันติวงษ์ แนะนำว่า “การรักษาเบื้องต้นต้องกำจัดหรือลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ ลดสุรา งดบุหรี่ หรือใช้เวลาคุยปรึกษาปัญหาชีวิตซึ่งเป็นการรักษาทางด้านจิตใจในกรณีที่ปัญหา “นกเขาไม่ขัน” มีสาเหตุจากด้านจิตใจ ซึ่งแพทย์จะช่วยลดความกังวล ที่สำคัญผู้ป่วยไม่ควรเขินอายเมื่อพบหรือสังสัยว่าตนเองเป็นโรค ED ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาที่สะดวกและปลอดภัย ด้วยการใช้ยาในการรักษา (Drug Therapy) ซึ่งมียารับประทานประเภท Vardenafil ยาตัวใหม่ในกลุ่มพีดีอีไฟท์อินฮิบิเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ในขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่เป็น ED ควรได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายด้วยเพราะส่งผลต่อกันและกัน หากมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย ก็จำเป็นจะต้องรักษาควบคู่กันไป โดยการรับฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนทดแทน ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก รวมทั้งประเภทการรักษาด้วยการฉีดซึ่งจะฉีดทุกๆ 3 เดือน จัดเป็นการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ฮอร์โมนเพศชายรูปแบบอื่นๆ ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ถ้าไม่รักษาจะอันตรายหรือไม่ โรค ED จะไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบว่าโรค ED เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่อันตรายต่อชีวิต อาทิ โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยภรรยามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรเป็นผู้ที่เข้าใจเขาที่สุดและแนะนำเขามาพบแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสามีและชีวิตคู่ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง”
4. ผมอายุ 30 ปีกว่าๆ คิดว่าผมยังไม่มีอาการของโรค ED และไม่อยากเป็น ผมควรทำตัวยังไงครับ
นายแพทย์กวิวัช ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า แม้ว่าจะยังไม่เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เราสามารถป้องกัน หรือ ลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ โดยวิธีดังต่อไปนี้
การบริหาร “น้องชาย” ให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา
หยุดสูบบุหรี่
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ลดความเครียดและวิตกกังวล
ผักผ่อนให้เต็มที่
ตรวจร่างกายประจำปี
“ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย และไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงมีความเข้าใจและกล้าเปิดใจ และแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ไม่ควรเก็บไปเครียดเพียงลำพัง และไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมารับประทานหรือใช้เอง เพราะอาจอันตรายเกินแก้ไขได้” นายแพทย์ กวิวัช กล่าวสรุป
ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย:
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
ธรณ ชัชวาลวงศ์ และ เพ็ญศรี เอี่ยมคล้าย
โทรศัพท์ : 0-2627-3501 ต่อ 118, 105 แฟกซ์: 0-2627-3510
อีเมล์ : tchatchavalvong@th.hillandknowlton.com; piem-klai@th.hillandknowlton.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ