กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กระทรวงไอซีที
กระทรวงไอซีที เริ่มโครงการสำรวจสถานภาพปัจจุบันของการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์(e-Government) ประเทศไทย หวังได้ข้อมูลการใช้บริการผ่านเว็บไซต์หน่วยงานภาครัฐมาจัดทำทิศทางการพัฒนา e-Government แบบก้าวกระโดด เชื่อทำให้โครงการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับนานาประเทศได้จริง
นายธานีรัตน์ ศิริปะชะนะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เผยว่า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้เปิดตัวและเริ่มดำเนินโครงการสำรวจสถานภาพปัจจุบันของการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ เป็นที่ปรึกษาโครงการฯ เพื่อสำรวจสถานภาพปัจจุบันของการให้บริการผ่านเว็บไซต์ที่ให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐ ด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูง การศึกษาและวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้ใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ของภาครัฐ และการจัดประชุมระดมความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยผลที่ได้จะนำมาออกแบบแนวทางการสร้างและยกระดับสมรรถนะของรัฐบาลในการบริการประชาชนให้สูงขึ้นตามทิศทางการพัฒนา e-Government แบบก้าวกระโดด ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการผลักดันแนวทางการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง อันจะนำประเทศไทยไปสู่ความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและในเวทีสากลในที่สุด
“ในการประเมินและสำรวจความก้าวหน้าการดำเนินงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทยเมื่อปี 2547 เกี่ยวกับการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐระดับกรมหรือหน่วยงานเทียบเท่า รวม 267 หน่วยงาน พบว่าทุกหน่วยงานราชการมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง แต่เว็บไซต์ส่วนใหญ่ยังเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารเป็นหลักและไม่มีหน่วยงานใดที่ให้บริการทางเว็บไซต์แบบบูรณาการข้ามหน่วยงาน (e-Service Integration) เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีการพัฒนาระบบเครือข่ายสารสนเทศเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศผ่านระบบอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตของหน่วยงานตนเองแต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่น”
นายธานีรัตน์ฯ กล่าวในตอนท้ายว่า กระทรวงไอซีที คาดว่าการสำรวจในครั้งนี้จะพบการพัฒนาเว็บไซต์ ที่สร้างระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการหน่วยงานภาครัฐทั้งภาคเอกชน ประชาชน ภาคธุรกิจ และหน่วยงานรัฐด้วยกันในระดับที่สูงขึ้น เพราะกระทรวงฯ ได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนและใช้สารสนเทศร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อให้บริการบนพื้นฐานความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพอย่างจริงจังมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าข้อมูลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ จะช่วยสร้างความพร้อมให้กับหน่วยงานรัฐในการยกระดับการให้บริการประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจไปสู่อีกขั้นที่มีประสิทธิผลมากขึ้นและมีมาตรฐานการให้บริการที่ทัดเทียมกับระดับสากล ซึ่งจะช่วยให้ความก้าวหน้าโดยรวมของประเทศอยู่ในระดับที่โดดเด่นไม่แพ้นานาอารยประเทศ