กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น
TWZ ดีเดย์ เทรดพาร์ใหม่ 10 สตางค์/หุ้น วันที่ 7 ก.ค.นี้ 'พุทธชาติ รังคสิริ' หวังเป็นการช่วยเพิ่มสภาพคล่อง หนุนนักลงทุนเข้ามาซื้อขายคึกคักทะลุพันราย พร้อมยืนยันไม่หวั่นเงินเฟ้อทำแรงซื้อตก เหตุเตรียมแผนออกสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ รับมือไว้เรียบร้อยแล้ว มั่นใจสิ้นปียังปั๊มรายได้เข้าเป้า 5,000ลบ. ได้สำเร็จ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดเพิ่มเป็น 12-15%
นายพุทธชาติ รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (TWZ) กล่าวถึงการดำเนินการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์)จากเดิมหุ้นละ 1 บาทเป็นหุ้นละ 0.10 บาท โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้หลักทรัพย์ TWZ ซื้อขายในระบบซื้อขายหลักทรัพย์ตามมูลค่าที่ตราไว้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2551 นี้ ซึ่งคาดว่าจำนวนหุ้น TWZ ที่เข้าหมุนเวียนในกระดานเพิ่มขึ้น จะทำให้สภาพคล่องปรับเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกันได้ โดยที่ผ่านมา TWZ มีหุ้นหมุนเวียนในกระดานจำนวน 24.34% จากจำนวนหุ้นรวม 240 ล้านหุ้น
'เราหวังว่าการแตกพาร์เหลือ 10 สตางค์ต่อหุ้น จะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายย่อยให้เข้ามาซื้อขายหุ้นให้คึกคักมากขึ้น ตามจำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดานที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะทำให้มีผู้ถือหุ้นรายย่อยเพิ่มขึ้นเกิน 1,000รายได้ เพราะตามปกติการแตกพาร์จะทำให้สภาพคล่องดีขึ้นอยู่แล้ว'
ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้ถือหุ้นรายย่อย TWZ ณ วันที่ 8 เมษายน 2551 มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) 281 ราย มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในกระดาน 24.34% จากจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 240 ล้านหุ้น โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ นายพุทธชาติ รังคสิริ ถือหุ้นจำนวน 76,800,000 หุ้น คิดเป็น 32.00% และนางปิยะนุช รังคสิริ ถือ 67,200,000 หุ้น คิดเป็น 28.00%
เขากล่าวต่อว่าในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท โดย 10% จะมาจากการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อของตัวเอง (เฮ้าส์แบรนด์) ทั้งแบรนด์ TWZ และ NOKTEL โดยคาดหวังว่าจะทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ อยู่ที่ 30% หรือคิดเป็นยอดขายเฉลี่ย 50,000 เครื่องต่อเดือน สนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้น (margin) ปรับขึ้นอยู่ที่ระดับ 12-15% เนื่องจากสินค้าเฮ้าส์แบรนด์จะมีมาร์จิ้นสูงกว่าสินค้าที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 8-10%
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุในปัจจุบัน รวมทั้งเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น กดดันให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว และมีผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนนั้นไม่รู้สึกกังวลต่อปัจจัยดังกล่าวมากนัก เนื่องจาก TWZ ได้เตรียมความพร้อมรับเหตุการณ์ไว้แล้ว โดยการปรับสินค้าที่จัดจำหน่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของผู้บริโภค และในช่วงครึ่งปีหลังวางแผนที่จะออกสินค้าเฮ้าส์แบรนด์เพิ่มอีกประมาณ 15 รุ่นจากปัจจุบันมีจัดจำหน่ายอยู่ประมาณ 13-14 รุ่น ส่งผลทำให้ภายในสิ้นปี 2551จะมีสินค้าเฮ้าส์แบรนด์รวมกว่า 30 รุ่น
'แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างประหยัดขึ้น แต่ก็ไม่รู้สึกกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายโทรศัพท์ของบริษัท เนื่องจากเราได้ปรับการจัดจำหน่ายสินค้า โดยเน้นที่ราคาไม่สูงนัก และเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่มเน้นระดับล่างและกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ซึ่งบริษัทมองว่ายอดการจำหน่ายทั้งโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมในปีนี้จะยังคงขยายตัวได้ดี เพราะตลาดมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากยอดผู้ใช้ใหม่และการซื้อโทรศัพท์ใหม่เพื่อทดแทนเครื่องเก่า ประกอบกับขณะนี้การพัฒนาของเทคโนโลยี อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น หูฟังไร้สายก็มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้ตลาดมือถือยังขยายตัวได้อยู่' นายพุทธชาติ กล่าวในที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 02-5549395 , 089-4888337