กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สรุปการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำปี 2547 มูลค่าซื้อขายรวมสูงถึง 5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ส่วนมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึงประมาณ 20,000 ลบ. ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมคิดเป็นประมาณ 4.5 ล้านล้านบาท ขณะที่ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงราว 14% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งในและต่างประเทศ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมในปี 2547 ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2547 มีจำนวน 5,012,968.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 342,686.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 (ปี 2546 มีมูลค่า 4,670,281.49 ล้านบาท)
ในขณะที่การซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมีมูลค่า 20,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.66 จากปี 2546 ที่มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 18,908.02 ล้านบาท โดยราคาต่อกำไรของตลาด (P/E) อยู่ที่ 9.34 เท่า
ด้านมูลค่าการซื้อขายแยกตามประเภทของผู้ลงทุนนั้น ปรากฏว่าทั้งผู้ลงทุนสถาบันภายในประเทศและผู้ลงทุนต่างประเทศต่างมียอดซื้อสุทธิที่ 3,972.99 และ 4,189.83 ล้านบาทตามลำดับ สำหรับผู้ลงทุนรายบุคคลภายในประเทศมียอดขายสุทธิเท่ากับ 8,162.83 ล้านบาท
ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ปิดทำการ ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2547 ที่ระดับ 664.46 จุด ลดลง 107.69 จุดหรือร้อยละ 14 จากสิ้นปี 2546 ที่ระดับ 772.15 จุด โดยดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 581.61 จุด ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2547 และสูงสุดที่ระดับ 794.01 จุด ณ วันที่ 12 มกราคม 2547 โดยในปี 2547 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 4,497,101.96 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.11 เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวม ณ สิ้นปี 2546 ที่ระดับ 4,789,857.03 ล้านบาท
“แม้ว่าภาวะการซื้อขายโดยรวมจะมีมูลค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ SET Index กลับปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 14 เนื่องมาจากปัจจัยทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ การผันผวนของค่าเงิน และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ปัจจัยภายในประเทศเช่น การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก และสถานการณ์การก่อการร้ายในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลลบต่อการลงทุนด้วยเช่นกัน และล่าสุดยังมีเหตุการณ์ภัยพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ในช่วงปลายปี ซึ่งมีผลกระทบต่อการซื้อขายหลักทรัพย์เล็กน้อย อย่างไรก็ดี หากประเมินเทียบกับปี 2545 หรือในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ นับว่ายังขยายตัวในอัตราที่สูงคือกว่าร้อยละ 85 ทีเดียว
ในขณะที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯงวด 9 เดือนแรกของปี 2547 ได้สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดีของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งมีกำไรสุทธิรวมสูงถึง 325,405.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2546 ที่มีกำไรสุทธิรวม 226,465.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 44” นายกิตติรัตน์กล่าว
ในปี 2547 มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้น 36 บริษัท รวมเป็นทั้งสิ้น 439 บริษัท และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เพิ่มขึ้น 14 บริษัท รวมเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่จำนวน 24 บริษัท บริษัทที่มีการซื้อขายสูงสุดในปี 2547 5 อันดับแรกได้แก่ 1)บมจ.ปตท 2)บมจ.ธนาคารกรุงเทพ 3) ใบสำคัญแสดงสิทธ์อนุพันธ์ในหุ้นสามัญเดิมของ ธนาคารนครหลวงไทย 4) บมจ.ธนาคารกรุงไทย 5) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--