กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--กยศ.
นายธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า “หลังจากที่กองทุนฯ ได้เปิดให้นักเรียน นักศึกษาเข้าลงทะเบียนเพื่อยื่นความประสงค์ขอกู้ยืมเงิน กยศ. ผ่านทางระบบ e-Studentloan ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม - 30 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมเป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งผลสรุปยอดนักเรียน นักศึกษาที่ลงทะเบียนขอรหัสผ่านมีจำนวนทั้งสิ้น 990,093 ราย มีผู้ที่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานทะเบียนราษฎร์ (MOI) จำนวน 978,241 ราย อย่างไรก็ตาม กองทุนฯ ยังเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษาที่เข้าลงทะเบียนไม่ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายนดังกล่าว และกลุ่มนักเรียน นักศึกษาจำนวนหนึ่งที่ลงทะเบียนขอรหัสผ่านแต่ไม่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ให้นักเรียน นักศึกษาทำหนังสือแจ้งมายังกองทุนฯ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดใบแจ้งความประสงค์ได้ที่ www.studentloan.or.th โดยต้องกรอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ — นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด ชื่อสถานศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ อีกทั้งต้องระบุสาเหตุที่ยื่นกู้ไม่ทันวันดังกล่าว หรือ สาเหตุที่ข้อมูลไม่ถูกต้องด้วย (ถ้าทราบ) และมาส่งหนังสือฉบับจริงด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์จ่าหน้าถึง กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เลขที่ 63 อาคาร 2 ชั้น 16 ซอยทวีมิตร ถนนพระรามเก้า ห้วยขวาง กทม. 10310
การนำระบบ e-Studentloan มาใช้ในกระบวนการขอกู้ยืมเงิน กยศ. ในปีการศึกษา 2551 เป็นปีแรกนั้น ทำให้กองทุนฯ สามารถเริ่มโอนเงินค่าครองชีพให้กับนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเร็วขึ้นกว่าปีที่แล้วที่จะเริ่มโอนในช่วงเดือนสิงหาคมหรือเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เดือน โดยกองทุนฯ ขอแจ้งให้นักเรียน นักศึกษาที่ได้รับสิทธิ์กู้ยืมผ่านแล้วให้รีบเข้าทำสัญญา เพราะหลังจากผู้กู้ยืมทำสัญญาผ่านทางเว็บไซต์แล้วจะได้รับเงินค่าครองชีพเข้าบัญชีของผู้กู้ยืมภายใน 30 วัน และเนื่องจากขณะนี้ทางธนาคารกรุงไทยได้รับสัญญากู้ยืมที่ส่งมาจากสถานศึกษาเพียง 150,000 ราย ดังนั้น เพื่อให้การโอนเงินค่าเล่าเรียนมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น กองทุนฯ ต้องขอความร่วมมือจากสถานศึกษาทุกแห่งเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของระบบ e-Studentloan ทั้งผู้กู้ยืมรายเก่าและรายใหม่ อันได้แก่ การบันทึกกรอบวงเงิน การประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ การตรวจสอบสัญญา การส่งสัญญากู้ยืมและส่งข้อมูลการลงทะเบียนเรียนของผู้กู้ยืมให้ธนาคารกรุงไทยต่อไป โดยหากมีข้อสงสัยให้โทรสอบถามที่ โทร. 02-610 4888” นายธาดากล่าวในที่สุด