กรุงเทพฯ--29 ก.ค.--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
ภาวการณ์ซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทำสถิติสูงสุดอีกครั้งนับตั้งแต่เปิดตลาดทั้งในด้านปริมาณการซื้อขายรวมของ AFET ปริมาณการซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 รวมทั้งปริมาณการซื้อขายแป้งมันสำปะหลัง คือมีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 999 สัญญา แบ่งเป็นปริมาณซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 รวม 775 สัญญา ข้าวขาว 5% 52 สัญญา และแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ รวม 172 สัญญา ผู้จัดการ AFET ชี้ผู้ส่งออกยางหันเข้ามาซื้อขายยางใน AFET มากขึ้น ขณะที่ราคายางพาราปรับตัวสอดคล้องกับตลาดในและต่างประเทศ
นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย หรือ AFET เปิดเผยว่า การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคักอีกครั้ง มีการจับคู่ซื้อขายอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาทำการ จนกระทั่งปิดตลาด มีการซื้อขายรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 999 สัญญา คิดเป็นมูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท จากล่าสุดที่มีการซื้อขายสูงสุดคือวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 จำนวน 906 สัญญา
ในส่วนการซื้อขายล่วงหน้ายางแผ่นรมควันชั้น 3 นั้น มีปริมาณการซื้อขายรวม 775สัญญา โดยสัญญาล่วงหน้าส่งมอบเดือนมกราคม 2549 มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 253 สัญญา สัญญาล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคม 2548 มีปริมาณการซื้อขายสูงรองลงมาอยู่ที่ 236 สัญญา ในส่วนของราคายางล่วงหน้านั้น มีการปรับตัวลดต่ำลง โดยเปลี่ยนแปลงที่ 1.2 — 1.4 บาท/กก. อยู่ที่ราคา 67 — 69.6 บาท/กก.
ในส่วนการซื้อขายแป้งมันสำปะหลังในวันนี้ ก็มีปริมาณสูงสุดนับตั้งแต่มีการเปิดซื้อขายแป้งมันสำปะหลังล่วงหน้า ในวันที่ 25 มีนาคม 2548 เป็นต้นมา มีปริมาณการซื้อขายรวม 172 สัญญา นักวิเคราะห์ต่างคาดกันว่า เกิดมาจากผู้ซื้อขายยางบางส่วนมีความกังวลใจในเรื่องของราคาซื้อขายที่มีความผันผวน จึงหันมาสนใจซื้อขายแป้งมันในตลาดแทน
“การซื้อขายในวันนี้สอดคล้องกับตลาดในและต่างประเทศ โดยนักลงทุนที่พิจารณาภาวะการซื้อขายยางจากข้อมูลในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ อาจมองว่าราคายางปรับตัวสูงขึ้นมามากเกินไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาน่าจะลดลงอีกจึงทำให้ภาวะการซื้อขายยางปรับตัวลดลงทุกสัญญา และเนื่องจากราคาซื้อขายยางแผ่นรวมควันชั้น 3 ใน AFET มีราคาต่ำกว่าราคาส่งออก ที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ทำให้ผู้ส่งออกยางหันเข้ามาซื้อขายยางใน AFET และถือสถานะสัญญาจนถึงกระบวนการ ส่งมอบรับมอบยาง” ผู้จัดการเอเฟท กล่าว
ทั้งนี้ หากราคายางใน AFET ต่ำกว่าราคาส่งออก การเข้ามาล็อกราคา เพื่อประกันความเสี่ยง ก็เป็นทางออกในการประกอบธุรกิจของผู้ส่งออกยางในขณะนี้ได้ และปริมาณการซื้อขาย สินค้าเกษตร ใน AFET ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงว่านักลงทุนให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนใน AFET
เผยแพร่ในนาม ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อเผยแพร่ข่าวกรุณาติดต่อ
คุณ ณ มาดา แสงนิ่มนวล
โทร 0-2263-9827, 0-1684-5420
e-mail : namada@afet.or.th--จบ--