กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--สสท.
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย(สสท.) ร่วมกับ คณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย (TBCSD) สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (SVN) และ บริษัทเครือซิเมนต์ไทย (SCG) ร่วมกันแถลงจุดยืนผลักดันให้ภาคธุรกิจดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (corporate social Responsibility) อันเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้วิกฤติโลกร้อน
ศาสตราจารย์ ดร. สนิท อักษรแก้ว ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เปิดเผยว่า สถาบันฯ จะจัดสัมมนาวิชาการในวาระครบรอบ 15 ปีสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในประเด็น “ภาวะโลกร้อนในบริบทของสังคมไทย” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ณ ศูนย์การประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี “การจัดงานสัมมนาวิชาการ ในครั้งนี้ได้น้อมนำแนวพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและวิกฤติโลกร้อน ด้วยวิถีพอเพียง ทั้งนี้ จะมีการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงรับมือโลกร้อน” โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา รวมทั้งการเสวนากลุ่มย่อยเพื่อแก้วิกฤติโลกร้อน ตลอดทั้งวัน” การจัดงานสัมมนาวิชาการในวาระครบรอบ 15 ปี สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ได้รับเกียรติจาก นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานกิตติมศักดิ์ สภาสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในพิธีมอบทุนการศึกษาและรางวัลประกวดภาพวาดและบทกวีแก่เยาวชน ในโอกาสรำลึกถึง ดร.ธีระ พันธุมวนิช อดีตประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ผู้บุกเบิกเรื่องโลกร้อน และ ศ.ดร. ไพจิตร เอื้อทวีกุล ประธานสภาสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนา
นอกจากการแสดงจุดยืนเพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤติโลกร้อนในวันนี้แล้ว ในช่วงบ่ายของวันสัมมนาเครือข่ายองค์กรภาคธุรกิจ CSR จะได้มีการนำเสนอข้อมูลกิจกรรมและโครงการธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม เพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันในการฝ่าวิกฤติโลกร้อน อันจะนำไปสู่การแก้ไขวิกฤติโลกร้อนอย่างเป็นรูปธรรม ดร.ไชยยศ บุญญากิจ รักษาการผู้อำนวยการบริหาร คณะกรรมการนักธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและมีส่วนผู้ทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ดังนั้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจหลายองค์กร โดยเฉพาะสมาชิกของ TBCSD ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย จึงทำโครงการ CSR มากขึ้น เพื่อร่วมกันดูแลรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาวิกฤติโลกร้อน ที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชากรโลกอย่างมาก ทั้งเรื่องการเกิดพายุรุนแรง ฝนแล้งหนักในบางพื้นที่ เกิดโรคระบาดตามมาเนื่องจากการแพร่พันธุ์ของแมลง รวมทั้งผลกระทบกับผลผลิตอาหารลดลง “โครงการ CSR ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจ ดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องตามร่างมาตรฐาน ISO 26000 ที่กำหนดองค์ประกอบหลักของความรับผิดชอบต่อสังคม 7 ประการ คือ ธรรมาภิบาลขององค์กร หรือมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี การคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน การมีข้อปฏิบัติที่ดีด้านแรงงาน การดูแลสิ่งแวดล้อม การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม การใส่ใจต่อผู้บริโภค และการส่งคืนสู่ชุมชนและสังคม”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-503-3333 โทรสาร. 02-504-4826-8