ม.อัสสัมชัญร่วมทุน ดิจิคราฟต์ปั้น “ มหาวิทยาลัยเสมือนจริงแห่งแรกของเมืองไทย !

ข่าวทั่วไป Thursday July 10, 2008 11:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ดิจิคราฟต์
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญร่วมกับบริษัท ดิจิคราฟต์ จำกัด เปิดตัว “U-Town” มหาวิทยาลัยเสมือนจริงแห่งแรกของไทยพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการศึกษา สร้างประสบการณ์นอกห้องเรียนผ่านโลกออนไลน์แบบสนุกสนานและ ปลอดภัยถือเป็นการผสานระหว่างความบันเทิงและการเรียนรู้ได้อย่างลงตัว ชี้ปัจจัยหนุนจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและการส่งเสริมการใช้ไอทีจากภาครัฐ ตั้งเป้าเป็นแหล่งความรู้ และต่อยอดเชิงธุรกิจในรูปแบบอี-คอมเมิร์ซ โดยทุ่มงบราว 15 ล้านบาท แบ่งงานเป็น 3 เฟส พร้อมเปิดตัว 2 พรีเซ็นเตอร์คนรุ่นใหม่ “โต๋” และ “เบเบ้”
ภราดาบัญชา แสงหิรัญ อธิการบดื มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มการใช้งานออนไลน์ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มเป็น 9,320,000 คน ส่งผลให้มูลค่าตลาดเกมออนไลน์สูงกว่า 2,700 ล้านบาทในปี 2550 และมีอัตราการโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี อีกทั้งการสนับสนุนและส่งเสริมด้านไอทีจากภราดาภาครัฐ และตลาดการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊คมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถือเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเชื่อมต่อเข้าสู่โลกออนไลน์ ดังนั้นมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญร่วมกับบริษัทดิจิคราฟต์สร้างสังคมออนไลน์แบบเสมือนจริงด้วยแนวคิด “U-Town” (University Town) คือ มหาวิทยาลัยเสมือนจริงแห่งแรกของไทยบนโลกออนไลน์ ซึ่งจะใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ที่เป็นสังคมปลอดภัย และสร้างสรรค์ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ดิจิคราฟต์ จำกัด โดยการร่วมทุนระหว่าง 2 องค์กรด้วยงบประมาณ 15 ล้านบาท
“สำหรับ U-Town มีลักษณะของสังคมออนไลน์เสมือนจริง สร้างในรูปแบบ3 มิติ หรือ 3D-Virtual Community Online โดยสร้างในแบบของเกมส์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะนักศึกษา และผู้ใหญ่ที่ต้องการเรียนรู้ในโลกออนไลน์ โดยเข้าไปที่ www.utown.in.th ซึ่งจะเป็นประตูแรกที่นักศึกษาและผู้สนใจสามารถเข้าสู่โลกการศึกษาเสมือนจริงนี้ โดยเว็บไซต์นี้มีหน้าที่เพื่อจัดระบบข้อมูลและการลงทะเบียน (Register System), การสร้างระบบกระทู้ถาม-ตอบ (Web Board), การประกาศกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลของแต่ละสถาบันการศึกษาที่รวมอยู่ใน U-Town ด้วย”
นายวิวัฒน์ วงศ์วราวิภัทร์ ประธานกรรมการ บริษัท ดิจิคราฟต์ จำกัด ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในการนำร่องจัดทำโครงการ U-Town โดยได้รับโจทย์จากทางมหาวิทยาลัยฯ และทางบริษัทฯ ก็มีแนวคิดที่จะทำคอมมูนิตี้ในรูปแบบดังที่กล่าวข้างต้นและทำให้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น รูปแบบของ U-Town ไม่ใช่มีเพียงการเรียนการสอนแบบในชั้นเรียนและเว็บไซต์คอมมูนิตี้เท่านั้น แต่จะเป็นแหล่งเชื่อมโยงโลกของการศึกษาและโลกธุรกิจเข้าไว้ด้วยกัน
เบื้องต้น U-Town จะมุ่งเจาะไปที่กลุ่มนักศึกษาเป็นหลัก และในอนาคตทางบริษัทฯ จะจัดทำแพลตฟอร์มให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบของ U-Town ด้วย ฉะนั้นนอกจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ U-Town จะเป็นนักศึกษาจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว และยังมองกลุ่มเป้าหมายรอง (Secondary Target) ในกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ที่ 15 - 18 ปี ซึ่งจะเป็นกลุ่ม Potential Target ที่จะเข้ามาทดลองและเรียนรู้การใช้ชีวิตของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงเข้าไปชมบรรยากาศสถานที่ อาคารเรียนต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่ตัวเองสนใจได้เสมือนกับเข้ามาสัมผัสการเรียนจริง นอกจากนี้ U-Town ยังจะเปิดโอกาสให้กับกลุ่ม First Jobber จนถึงกลุ่มคนวัยทำงานแล้วได้มีโอกาสเข้าร่วมสังคมนี้อีกด้วย โดยการสมัครเข้ามาเป็นพลเมืองใน U-Town สามารถใช้สิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ แต่จะมีการกำหนดขอบเขตของสิทธิที่พลเมืองในระดับต่างๆ สามารถกระทำได้
U-Town Citizen หรือ พลเมืองใน U-Town แบ่งเป็นหลายประเภทด้วยกัน โดยจะมีการจำกัดสิทธิในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ U-Town เป็นโลกเสมือนจริงสีขาวที่มีระเบียบวินัยและมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับพลเมืองใน U-Town โดยนักศึกษาหรืออาจารย์ในสถาบันจะสามารถใช้ ID Code ในการสมัครเป็นพลเมืองได้ทันที ในส่วนของบุคคลทั่วไปก็จะสามารถใช้เลขที่บัตรประชาชนเพื่อมาสมัครเป็นพลเมืองของ U-Town ในระดับต่างๆได้เช่นกัน ซึ่งระดับของพลเมืองใน U-Town จะแบ่งออกได้ 7 ระดับได้แก่ 1.AUS — นักศึกษาเอแบคปัจจุบัน 2.AUI - อาจารย์เอแบคปัจจุบัน 3.AUO — คณะทำงานของเอแบค 4.VIP - พลเมืองระดับพิเศษ 5.UM- U-Town Master 6.U - พลเมือง U-Town ที่ลงทะเบียนและสามารถยืนยันตัวตนในโลกจริงได้ 7.G -พลเมือง U-Town ที่ลงทะเบียนแต่ไม่สามารถยืนยันตัวตนในโลกจริงได้ 8.V- ผู้มาเยี่ยมชม, แขกที่ไม่ได้ลงทะเบียน โดยที่พลเมืองในระดับที่ 1-7 จะได้รับสิทธิในการสร้างตัวตนเสมือนจริงของตนเอง โดยตกแต่งหน้าตาหรือเลือกเสื้อผ้ารวมทั้งการเลือกเครื่องแต่งกายตามสไตล์ของตนเองได้ตามใจชอบ และยังสามารถจับจ่ายซื้อของหรือใช้สิทธิของตนเองในระดับย่อยต่างๆได้แตกต่างกันไปอีกด้วย ส่วนกลุ่มที่ 8 จะเป็นเพียงผู้เข้ามาเยี่ยมชมทั่วไป
“U-Town เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่งของการใช้ชีวิตจริง ภายใต้สโลแกน “Another World of Life” ในโลกของ U-Town จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้เสมือนจริงที่สุด เพราะบนโลกของ U-Town จะมีทั้งส่วนที่จำลองจากสถานที่ๆ มีอยู่จริงในปัจจุบัน เช่น อาคารเรียน บรรยากาศทั่วไปภายในมหาวิทยาลัย และส่วนที่สร้างขึ้นจากจินตนาการ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม หรือ Downtown ที่จะเป็นเสมือนแหล่งรวมความบันเทิงของพลเมืองใน U-Town รวมไปถึงระบบพื้นฐานต่างๆที่โลกจริงมี เช่นระบบเงินตราของตัวเอง (Monetary System) ระบบวันเวลาตามจริง (Day-Time System)ระบบฤดูกาล” นายวิวัฒน์ กล่าว
สำหรับแผนในการพัฒนา U-Town แบ่งเป็น 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 ที่นำมาเปิดตัวในวันนี้ โดยนักศึกษามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญสามารถนำรหัสประจำตัวนักศึกษา (ID) มาลงทะเบียนที่ www.utown.in.th และนักศึกษาจะมีหน้าเพจให้ออกแบบความเป็นตัวเองเรียกส่วนนี้ว่า U-Net และมีลักษณะการทำงานคล้ายกับ SNS หรือ Social Network System ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอย่างมากในปัจจุบันเช่น Hi 5 หรือ Facebook แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ U-Net ได้รวบรวมฟังก์ชั่นการทำงานของ Hi 5 และ Facebook ไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งทำให้ U-Net มีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อีกทั้งนักศึกษาที่เป็นสมาชิกยังสามารถใช้เวปไซต์ U-Netในการรับข่าวสารของทางมหาวิทยาลัยได้อีกช่องทางหนึ่ง ส่วนเฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 จะเป็นการเชื่อมตัวภาคการศึกษากับภาคธุรกิจ โดยนักศึกษาหรือบุคคลทั่วไปที่เป็นสมาชิกของ U-Town จะสามารถทำธุรกรรมด้านทะเบียน การเงิน และการซื้อขายสินค้าในรูปแบบของอี-คอมเมิร์ซได้ ซึ่งรูปแบบของการซื้อขายใน U-Town จะมีลักษณะโดดเด่นตรงที่พลเมืองสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าในรูปแบบ 3 มิติ (3D — Virtual) และยังสามารถมีการพูดคุยโต้ตอบ (Interact) กับคนขายได้แบบ Real Time อีกทั้งคนขายสามารถให้ข้อมูลของสินค้านั้น ๆ ได้จริงอีกด้วย และในการซื้อขายจะมีระบบสนับสนุนการชำระเงินทั้งระบบเงินของ U-Town และชำระผ่านบัตรเครดิต ซึ่งในแผนการดำเนินงานจะมีความร่วมมือกับแบรนด์สินค้า ร้านค้าชั้นนำเสมือนกับการเดินเลือกซื้อสินค้าจริงในห้างสรรพสินค้าถือเป็นช่องทางที่จะสร้างรายได้ให้แก่ U-Town นักศึกษาจะมีตัวแทนที่เรียกว่า “อวาตาร์” (Avatar) ที่ออกแบบ ตกแต่งให้เหมือนกับตัวเองได้ และบริษัทฯ ยังคาดหวังว่า U-Town จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์บนโลกออนไลน์.ในอนาคตอีกด้วย”
รวมถึงมีแผนในการเปิดหลักสูตรพิเศษแบบออนไลน์ (Online Course) ใน E-Learning Center หรือแม้แต่การอนุญาตให้นักศึกษาขอจองห้องเพื่อติววิชากันแบบ Real Time ใน E-Classroom ได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถเข้าไปเดินเล่นหรือหาเพื่อนคุยตามสถานที่ต่างๆ, สนุกกับการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงใน Downtown หรือสนุกไปกับ Entertainment Complex ต่างๆ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ชมคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งเที่ยวผับบาร์ (เฉพาะพลเมืองที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีขึ้นไป) ร่วม Party หรือ สนุกกับ Event ต่างๆ ภายใต้กรอบและกฏหมายที่กำหนดขึ้นในเมือง U-Town เป็นต้น กิจกรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้นตลอดเวลา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าร่วมแบบนับไม่ถ้วน ทั้งจากที่บริษัทจัดทำขึ้น และขับเคลื่อนโดยประชากรใน U-Town จัดขึ้นเอง เรียกได้ว่าเป็นสังคมที่มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกแบบไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญ คือ “โต๋” ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร และ “เบเบ้” ธัญชนก ฤทธิ์นาคา ซึ่งเป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญอีกด้วย
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
งานประชาสัมพันธ์ คุณรชต (ต๊ะ) เอี่ยมวรกุล โทร. 089 447 1717
ข้อมูลทางธุรกิจ คุณมณเฑียร (เหวิน) ฉันทศาสตร์รัศมี โทร. 02 641 9400 ต่อ 610 หรือ 081 848 4945

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ