กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2551 คณะทำงานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 และ SET100 เพื่อให้ครอบคลุมกรณีมีบริษัทขนาดใหญ่ (Early Entry) เข้ามาจดทะเบียน ให้สามารถนำมารวมคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ได้โดยไม่ต้องรอการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ทุก 6 เดือน (เดือนมกราคม และเดือนมิถุนายน) ทั้งนี้ เพื่อให้ดัชนีสามารถสะท้อนความเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างสมบูรณ์
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณานำบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ใหญ่มาก เช่น มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่าร้อยละ 1 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือมีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ในช่วง 20 ลำดับแรกของหลักทรัพย์ในดัชนี SET 50รวมในการคำนวณดัชนีราคา ณ สิ้นวันที่เริ่มซื้อขายวันแรก และจะนำหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดน้อยที่สุดออกจากการคำนวณ และย้ายหลักทรัพย์ดังกล่าวไปอยู่กลุ่มหลักทรัพย์สำรอง (Replacement List) แทน โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงรายชื่อหลักทรัพย์ให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า” ดร.กอบศักดิ์กล่าว
สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่เกิดจากการปรับโครงสร้างกิจการ การควบรวมกิจการระหว่างบริษัทจดทะเบียนจะไม่ถูกนำมาพิจารณาตามเกณฑ์ใหม่นี้ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ปฏิบัติกรณีการควบรวมกิจการ (Merger and Acquisition) แทน
ดร.กอบศักดิ์กล่าวว่า คณะทำงานฯ ยังได้ปรับปรุงแนวทางการนำหลักทรัพย์เข้าหรือออกจากการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยกรณีการนำหลักทรัพย์เข้ารวมคำนวณดัชนี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะคัดเลือกจากหลักทรัพย์สำรองที่มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุด ส่วนการนำหลักทรัพย์ออกจากการคำนวณดัชนี จะคัดเลือกจากหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี (Constituent stock) ที่มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำที่สุด โดยจะพิจารณาจากราคาปิดล่าสุดของหลักทรัพย์ ก่อนจะประกาศให้ผู้ลงทุนทราบ
นอกจากนี้ คณะทำงานฯ ได้เพิ่มเติมแนวทางการนำหลักทรัพย์ที่ถูกห้ามการซื้อขาย (SP) ติดต่อกันเป็นเวลาตั้งแต่ 20 วันทำการขึ้นไป ออกจากการคำนวณดัชนี SET50 หรือ SET100 อีกด้วย