กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้าใน 8 ประเทศมั่นใจโรลส์-รอยซ์ เลือกเครื่องยนต์เทรนท์ 60

ข่าวยานยนต์ Monday July 14, 2008 17:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
บริษัท โรลส์-รอยซ์ จำกัด แถลงลูกค้าใน 8 ประเทศไว้วางใจเลือกเครื่องยนต์เทรนท์ 60 นับรวมถึงการสั่งซื้อชุดอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าเทรนท์ 60 เพิ่มจำนวน 3 ชุด จากลูกค้าเดิมในประเทศเบลเยียมและออสเตรเลีย
กลุ่มธุรกิจพลังงานในประเทศฮังการี สาธารณรัฐเชค สหราชอาณาจักร รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และประเทศนิวคาลิโดเนียในแถบมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ ได้ยืนยันการสั่งจองนวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ 60 จำนวน 27 เครื่อง เมื่อการสั่งจองทั้งหมดได้ยืนยันทำเป็นสัญญาสั่งซื้อ ซึ่งรวมถึงการสั่งซื้อจากประเทศเบลเยียมและออสเตรเลีย มูลค่าของธุรกิจอาจสูงกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดตามราคาจากรายการราคาในปัจจุบัน
บริษัทผลิตไฟฟ้าแห่งเบลเยียม หรือ เอสพีอี กำลังดำเนินการติดตั้งชุดอุปกรณ์กำเนิดกระแสไฟฟ้า 2 ชุดที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เทรนท์ 60 ซึ่งสั่งซื้อไว้เมื่อปี พ.ศ. 2549 เพื่อใช้ในสถานีพลังงานแฮม ใกล้กับเมืองเกนต์ และได้วางใจเลือกเครื่องยนต์ระบบเชื้อเพลิงคู่เทรนท์ 60 Wet Low Emission (WLE) เพิ่มจำนวน 2 เครื่อง สำหรับสถานีพลังงานแองเกลอร์ ที่เมืองลีแยช แคว้นวัลโลเนีย
แบ๊บค็อก แอนด์ บราวน์ พาว์เวอร์ (หรือชื่อเดิม อลินทา เอ็นเนอร์จี) ในประเทศออสเตรเลีย ได้สั่งซื้อเครื่องยนต์ระบบเชื้อเพลิงคู่เทรนท์ 60 เครื่องที่ 2 สำหรับจ่ายพลังงานให้แก่เหมืองแร่เหล็กในพื้นที่ห่างไกล เหมืองแร่ดังกล่าวดำเนินงานโดยบริษัทเหมืองแร่บีเอชพี บิลลิทัน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างประเทศอังกฤษและประเทศออสเตรเลีย และเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดในโลก เหมืองแร่ดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมืองขุดแร่นิวแมน ในแถบพิลบาราทางออสเตรเลียตะวันตก
บริษัทพัฒนาโครงการพลังงานของสหรัฐอเมริกา 2 บริษัท ได้สั่งจองเครื่องยนต์ระบบเชื้อเพลิงคู่เทรนท์ 60 WLE จำนวน 18 เครื่อง เพื่อใช้ในโครงการผลิตพลังงานต่างๆ ที่บริษัทจะดำเนินการในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย
การสั่งจองที่มากที่สุดจำนวนทั้งสิ้น 10 เครื่อง มาจากบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งที่อยู่ในประเทศบัลติมอร์ แต่สถานที่ติดตั้งยังไม่ได้รับการเปิดเผย นอกจากนี้ผู้ประกอบการธุรกิจพลังงานแห่งหนึ่งในอีสต์โคสต์ยังได้ระบุความประสงค์สั่งซื้อเครื่องยนต์จำนวน 8 เครื่อง
การสั่งจองเครื่องยนต์อีก 9 เครื่องที่เหลือ มาจากหน่วยงานสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าและบริษัทด้านโครงการพลังงานต่างๆ ในสาธารณรัฐเชค ฮังการี สหราชอาณาจักร ประเทศนิวคาลิโดเนียที่เป็นดินแดนของฝรั่งเศสในแปซิฟิคใต้ และรัสเซีย—ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการสั่งซื้อเครื่องยนต์เทรนท์จากทางยุโรปกลาง
มร. แดเนียล เพดเลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โรลส์-รอยซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ลูกค้าจากทั่วโลกต่างให้ความสนใจนวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ เนื่องด้วยเป็นเครื่องยนต์ที่มีระบบวัฏจักรrพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและความหนาแน่นกำลังสูง ข้อดีนี้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านการดำเนินงานและการติดตั้งลดลง และให้มูลค่ารวมตลอดอายุการใช้งานที่มากขึ้นแก่ลูกค้า
“จนถึงปัจจุบัน โรลส์-รอยซ์ได้จำหน่ายและรับการสั่งจองเครื่องยนต์เทรนท์ให้แก่ผู้ปฏิบัติการด้านพลังงานจาก 17 ประเทศทั่วโลก เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ไม่เพียงแต่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าว่าสามารถจ่ายพลังงานได้มากกว่า แต่ยังปล่อยมลภาวะต่างๆ น้อยกว่า ซึ่งนับเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม”
มร. เพดเลย์ ยังกล่าวเสริมว่า “ชุดอุปกรณ์ผลิตพลังงานที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เทรนท์ 60 ปฏิบัติการอยู่กับหน่วยงานสาธารณูปโภคไฟฟ้าและอุปกรณ์ผลิตพลังงานความร้อนร่วมที่ดำเนินเครื่องสม่ำเสมอ (co-generation base load applications) ที่มีการปฏิบัติงานนับรวมเกิน 8,000 ชั่วโมงต่อปี ทั้งนี้ รวมถึงตลาดสาธารณูปโภคไฟฟ้าที่มีความต้องการระดับสูงและระดับกลาง ทำให้ชุดอุปกรณ์พลังงานเทรนท์ 60 เป็นเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ใช้ได้กับอุปกรณ์ผลิตพลังงานทุกรูปแบบ”
ลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ในประเทศแคนาดา ชิลี จีน เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมัน อิสราเอล กาตาร์ และรัฐชาร์จาห์ ล้วนมีการสั่งซื้อชุดเครื่องกำเนิดพลังงานเทรนท์
เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ได้รับการพัฒนาให้เป็นเครื่องผลิตพลังงานและอุปกรณ์ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ต่างๆ โดยมีต้นแบบมาจากเครื่องยนต์อากาศยานเทรนท์ 800 ระบบ 3 เพลา ซึ่งสร้างแรงขับได้กว่า 95,000 ปอนด์ เครื่องยนต์เทรนท์ 800 เกือบ 450 เครื่อง ได้ปฏิบัติการให้แก่อากาศยานพาณิชย์มากว่า 11 ล้านชั่วโมง และนวัตกรรมเครื่องยนต์อากาศยานทุกรุ่นได้ปฏิบัติการอยู่ในฟากฟ้ารวมกันมากว่า 26 ล้านชั่วโมง
หมายเหตุสำหรับสื่อมวลชน
เกี่ยวกับเครื่องยนต์เทรนท์ 60
1. เครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์เทรนท์ 60 มีลักษณะร่วมหลายอย่างมาจากเครื่องยนต์อากาศยานที่เป็นต้นแบบ และใช้เทคโนโลยีระบบสามเพลาซึ่งเป็นนวัตกรรมเอกลักษณ์ของโรลส์-รอยซ์ หลักการวิศวะกรรมของการออกแบบเทคโนโลยีระบบสามเพลา ได้แก่ ระบบแรงดันต่ำ หรือ แอลพี (Low Pressure) ระบบแรงดันกลาง หรือ ไอพี (Intermediate Pressure) และระบบแรงดันสูง หรือ เอชพี (High Pressure) ซึ่งแต่ละระบบประกอบด้วยเครื่องอัดอากาศและใบพัดเทอร์ไบน์ต่างๆ ที่ติดอยู่กับเพลาแต่ละตัว เพลาทั้งสามสามารถปฏิบัติการด้วยความเร็วสูงสุดแบบแอโรไดนามิก เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ระบบแอลพีของเครื่องยนต์อากาศยาน เทรนท์ 60 สามารถปฏิบัติการได้ 3,000 หรือ 3,600 รอบต่อนาที (rpm) ระบบไอพี 7,500 รอบต่อนาที และระบบเอชพี 10,000 รอบต่อนาที
2. ข้อแตกต่างหลักระหว่างเครื่องยนต์เทรนท์ 60 และอากาศยานเครื่องยนต์เทรนท์ 800 อยู่ที่เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ไม่มีคอร์ดกว้างขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงลมตรงส่วนเทอร์ไบน์แอลพีที่ริมเครื่องยนต์ แต่ใช้เครื่องอัดอากาศแอลพีแบบ 2 จังหวะ ที่มีระบบปรับทางเข้าของลมแทน เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ยังคงใช้หลักของเครื่องยนต์อากาศยาน ทั้งส่วนเครื่องอัดอากาศไอพี เครื่องอัดอากาศเอชพี และเทอร์ไบน์
3. เครื่องยนต์เทรนท์ 60 สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 64 เมกกะไบต์ ด้วยการใช้ประสิทธิภาพของวัฏจักรพื้นฐานแค่ร้อยละ 42 นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในความสามารถด้านการจ่ายพลังงานและประหยัดเชื้อเพลิง โดยสามารถสร้างประสิทธิภาพความร้อนได้สูงกว่าและผลิตพลังงานได้มากกว่าเครื่องยนต์ที่มีพื้นฐานจากเครื่องยนต์อากาศยานรุ่นก่อนๆ
4. เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนตรงของอุปกรณ์กำเนิดพลังงานไฟฟ้าโดยมีแรงหมุนถึง 3,600 รอบต่อนาที เพื่อสร้างการเดินเครื่อง 60 เฮิร์ตซ์ (รอบต่อวินาที) และ 3,000 รอบต่อนาทีเพื่อสร้างการเดินเครื่อง 50 เฮิร์ตซ์ เพราะเครื่องยนต์เทรนท์ 60 ทำหน้าที่เป็นหน่วยขับเคลื่อนตรง จึงทำให้ไม่ต้องมีฟรีพาวเวอร์เทอร์ไบน์และเกียร์ทดหลักแยกต่างหาก จึงเป็นการลดค่าอุปกรณ์ การเปลี่ยนจาก 50 เฮิร์ตซ์ เป็น 60 เฮิร์ตซ์ อาศัยแค่การเปลี่ยนใบพัดเครื่องอัดอากาศแบบแอลพีเท่านั้น แต่ทั้งสองแบบไม่ได้มีความแตกต่างกันด้านลักษณะภายนอก
5. เครื่องยนต์เทรนท์ 60 ได้รับการออกแบบให้ตรงกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด และใช้ระบบกระบวนการเผาไหม้แบบ Dry Low Emission (DLE) หรือ Wet Low Emission (WLE) นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งเทคโนโลยี Inlet Spray Intercooling (ISI) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพลังงานให้สูงถึง 64 เมกกะวัตส์ เทคโนโลยีนี้ใช้ละอองน้ำเพื่อลดอุณหภูมิของเครื่องตลอดทั้งสามขั้นตอนเครื่องอัดอากาศ
6. การติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 60 เข้ากับชุดอุปกรณ์สำหรับการผลิตไฟฟ้าแบบครบชุดหรือกับอุปกรณ์ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ต่างๆ จะทำให้หน่วยปฏิบัติงานได้รับพลังงานแบบออนไลน์ได้รวดเร็ว เป็นชุดรวมอุปกรณ์ที่มีค่าใช้จ่ายขั้นต้นต่ำ การออกแบบมาให้เป็นชุดรวมอุปกรณ์ ไม่เพียงแต่ทำให้ติดตั้งได้เร็ว แต่ยังทำการบำรุงรักษาภาคสนามได้ง่ายอีกด้วย
7. ชุดอุปกรณ์กำเนิดพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทรนท์ 60 ได้ดำเนินงานอยู่ในหน่วยงานสาธารณูปโภคไฟฟ้าและอุปกรณ์ผลิตพลังงานความร้อนร่วมที่ดำเนินเครื่องสม่ำเสมอ (co-generation base load plant) ซึ่งการปฏิบัติงานนับรวมเกิน 8,000 ชั่วโมงต่อปี นับรวมถึงตลาดสาธารณูปโภคไฟฟ้าที่มีความต้องการระดับสูงและระดับกลาง
เกี่ยวกับโรลส์-รอยซ์, แบ๊บค็อก แอนด์ บราวน์ พาว์เวอร์ และ เอสพีอี
1. โรลส์-รอยซ์ เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านระบบพลังงานและบริการ เพื่อการใช้งานทั้งภาคพื้นดิน ท้องทะเล และทางอากาศ ภาคส่วนธุรกิจของโรลส์-รอยซ์ อันประกอบด้วยธุรกิจการบินพาณิชย์ การบินกลาโหม การเดินเรือ และธุรกิจด้านพลังงาน
2. จากประสบการณ์การปฏิบัติการรวมกันแล้วถึง 160 ล้านชั่วโมง ได้มีการสั่งซื้อชุดอุปกรณ์แก๊สเทอร์ไบน์สำหรับอุตสาหกรรมของโรลส์-รอยซ์กว่า 4,000 เครื่อง จากลูกค้าใน 80 ประเทศทั่วโลก
3. โรลส์-รอยซ์มุ่งมั่นและพัฒนาในการปรับปรุงด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยแต่ละปีโรลส์-รอยซ์ได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในทางธุรกิจในการวิจัยและพัฒนา เป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านปอนด์ โดยสองในสามของการลงทุนด้านเทคโนโลยีพื้นฐานมีวัตถุประสงค์เพื่อลดมลภาวะทางเสียงรวมถึงการปล่อยมลพิษอื่นๆ
4. ยอดขายของโรลส์-รอยซ์อยู่ที่ 7.4 พันล้านปอนด์ โดยร้อยละ 55 มาจากรายได้การให้บริการหลังการขาย บริษัทประกาศยอดการสั่งจองจนถึงสิ้งปี 2550 อยู่ที่ 45.9 พันล้านปอนด์ โดยร้อยละ 30 คือบริการหลังการขาย ตัวเลขทั้งหมดนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวต่างๆ ในอนาคต
5. แบ๊บค็อก แอนด์ บราวน์ พาว์เวอร์ หรือ บีพีพี (ชื่อเดิมคือ อลินทา เอ็นเนอร์จี) เป็นหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณูปโภค ซึ่งทำหน้าที่บริการให้แก่นักลงทุนในการจัดหาพอร์ตโฟลิโอของการกำเนิดไฟฟ้าแบบ “pure play” กลยุทธ์การลงทุนของบีบีพีคือการหาหนทางให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนสูงและเพิ่มมูลค่าการลงทุนระยะยาว พอร์ตโฟลิโอของบีบีพีรวมไปถึงศูนย์ปฏิบัติการทางพลังงาน 7 ศูนย์ ซึ่งรวมถึงศูนย์ผลิตพลังงานแบบเดินเครื่องสม่ำเสมอ ศูนย์ผลิตพลังงานระดับสูงและระดับกลาง ขณะนี้กำลังมีการสร้างศูนย์ผลิตพลังงานเพิ่มเติม
6. เอสพีอี เป็นผู้ผลิตและผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่เป็นอันดับสองของประเภทเบลเยียม ซึ่งดำเนินการอยู่ในโรงผลิตไฟฟ้า โรงพลังงานกังหัน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ และอุปกรณ์พลังงานชีวมวลและแก็สชีวภาพในทั้ง 21 ศูนย์ทั่วแคว้นแฟลนเดอร์สและวัลโลเนีย เอสพีอีเป็นผู้จัดหาทั้งพลังงานไฟฟ้าและแก็สเพื่อถิ่นที่พักอาศัยและเพื่อตลาดการค้าภายใต้ชื่อการค้า ลูมินัส
รูปและสื่อประกอบ
สำหรับข้อมูลภาพถ่าย สามารถดาวน์โหลดได้จาก Rolls-Royce Media Room สำหรับข้อมูลในรูปแบบไฟล์วิดิทัศน์ สามารถรับชมได้จาก Newsmarket ทั้งนี้ ผู้ใช้งานครั้งแรก กรุณาลงทะเบียน และหากมีข้อสงสัยประการใด กรุณาติดต่อ Journalist Help
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการความคิดเห็นจากผู้บริหาร กรุณาติดต่อ:
ธรณ ชัชวาลวงศ์, สรัณศรี ประวัติพัฒนากูล
ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน ประเทศไทย
โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 118, 208
โทรสาร: 0-2627-3545
Email: tchatchavalvong@th.hillandknowlton.com, sprawatpattanakul@th.hillandknowlton.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ