กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--เอ.พี.ฮอนด้า
ยอดรวมการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ของครึ่งปีแรก ตลาดรวมสามารถทำได้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับครึ่งปีที่แล้วซึ่งถ้ามองตัวเลขการขายแล้ว แนวโน้มครึ่งปีหลังทิศทางน่าจะดีขึ้นส่วนหนึ่งเนื่องมาจากช่วงปลายปีผู้ผลิตหลายๆค่ายมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าในฐานะผู้นำทางการตลาดคาดว่าตลาดรวมปี 48 น่าจะอยู่ที่ตัวเลข 2,100,000 คัน และด้วยการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รถจักรยานยนต์จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ผู้ใช้กลับมาให้ความสำคัญมากขึ้น และจะสามารถผลักดันยอดขายทะลุตามเป้าได้
นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารบริษัทเอ.พี.ฮอนด้า จำกัด รายงานสภาพการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มียอดการจำหน่ายรวมทุกยี่ห้อตั้งแต่เดือน ม.ค.- มิ.ย. สูงถึง 1,037,635 คัน โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมียอดจำหน่ายที่ 1,031,577 คัน เพิ่มขึ้น 6,058 คัน ในอัตรา 101% โดยเป็นยอดจำหน่ายรวมในเดือนมิถุนายน ที่ 182,440 คัน ซึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีปริมาณการจำหน่าย 178,880 คัน ปรากฎว่ามียอดการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 3,560 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตของตลาดร้อยละ 2
จากการวิเคราะห์สภาพการจำหน่ายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์มีจำนวนลดลงจากเดือนที่แล้วจากจำนวน 196,599 คันในเดือนพฤษภาคม ลดลงเหลือ 182,440 คันในเดือนมิถุนายน ซึ่งถ้ามองสภาพการขายโดยรวมตั้งแต่ต้นปีในแต่ละเดือนยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และถ้ามามองอย่างเจาะข้อมูล ในการจำหน่ายของเดือนเมษายนทุกยี่ห้อจะตกเกือบทั้งหมด สาเหตุน่าจะมาจากเดือนเมษายนซึ่งเป็นเทศกาลวันสงกรานต์มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันทำให้วันเวลาในการขายน้อยลง พอมาถึงเดือนพฤษภาคม ยอดการจำหน่ายรวมเพิ่มสูงขึ้น 65,422 คัน เมื่อเปรียบเทียบจากเดือนเมษายน และล่าสุดในเดือนมิถุนายนตลาดรวมลดลงจากเดือนพฤษภาคมอยู่ 14,119 คัน อาจเป็นผลเนื่องมาจากสภาพการซื้อที่เพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมค่อนข้างมาก จึงน่าจะเป็นการผันผวนการซื้อขายแต่ละเดือนซึ่งถ้ามองตัวเลขของภาพรวม 6เดือนแรกถือว่าปกติใกล้เคียงกับครึ่งปีก่อนหน้านี้
นอกจากนี้แล้วในสภาวะที่น้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากกลางปีที่แล้วราคาน้ำมันอยู่ที่ 20 บาทต่อลิตร ล่าสุดราคาน้ำมันทะยานขึ้นสู่หลัก 25 บาทต่อลิตร ฮอนด้าคาดว่าในครึ่งปีหลังตลาดรถจักรยานยนต์จะคึกคักมากขึ้นโดยที่รถจักรยานยนต์จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ผู้ใช้จะหันมาใช้กันมากขึ้นกับสภาวะน้ำมันแพง และที่ผ่านมารถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้พัฒนาคิดค้นสินค้ารุ่นต่างๆที่ผลิตออกมาจำหน่ายจะให้ความสำคัญเน้นในเรื่องของความประหยัดมาโดยตลอดจะเห็นได้จากการพัฒนาในรุ่น ฮอนด้าเวฟ 125 ที่ประหยัดเพิ่มขึ้นอีก 30% และล่าสุดฮอนด้าเวฟ125i ใหม่ กับระบบหัวฉีดรุ่นแรกของประเทศไทยที่สามารถพัฒนาให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น กับการสั่งจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เผาไหม้อย่างหมดจด ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้ ด้วยเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในเรื่องของความประหยัด จึงทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์และคุ้มค่ามากขึ้นในสภาพเศรษฐกิจน้ำมันแพง ซึ่งก็เป็นแนวทางหนึ่งที่สอดคล้องกับภาครัฐที่รณรงค์การใช้น้ำมันอย่างประหยัด
สำหรับตัวเลขยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเดือนที่ผ่านมา รถแบบครอบครัวมีจำนวน 148,703 คัน คิดเป็นร้อยละ 82 รถแฟมิลี่สปอร์ตมียอดจำหน่าย 12,785 คัน คิดเป็นร้อยละ 7 รถแบบสปอร์ตมียอดจำหน่าย 1,094 คัน คิดเป็นร้อยละ 1 รถสกู๊ตเตอร์มียอดจำหน่าย 13,303 คัน คิดเป็นร้อยละ 10
ในส่วนของรายละเอียดยอดการจำหน่าย รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามีปริมาณจำหน่าย 125,997 คันเทียบเท่าอัตราครองตลาด 69 % ยามาฮ่า 27,320 คัน อัตราการครองตลาด 15% ซูซูกิ 18,088 คัน อัตราการครองตลาด 10 % ไทเกอร์ 6,608 คัน อัตราการครองตลาด 4% คาวาซากิ 2,806 คัน อัตราการครองตลาด 2% เจอาร์ดี 856 คัน และอื่น 765 คัน
ที่มาข้อมูล: กรมขนส่งทางบก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ที่
จุฑามาศ อินปริงกานันท์ , ประชา จันทร์คง
แผนกส่งเสริมการจำหน่าย บ.เอ.พี.ฮอนด้า จก.
โทร. 027576111 ต่อ 2502, 2503 หรือ 0-1920-6830,0-1905-3624--จบ--