กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่
นายเสน่ห์ กรรณสูตร อุปนายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบปัญหารุมเร้ามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำต่อเนื่อง เช่น ในปี 2549 ราคาไข่ไก่เฉลี่ยอยู่ที่ 1.66 บาท ขาดทุนกันตลอดทั้งปี ส่วนราคาไข่ไก่ในปี 2550 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.90 บาท คาบเกี่ยวระหว่างขาดทุนกับเท่าทุน และตลอดครึ่งปี 2551 นี้ ราคาเคยสูงขึ้นไปถึง 2.50 บาทในระยะสั้นๆ แต่สุดท้ายก็อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 2.00 บาทในปัจจุบัน และโอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นนั้นเป็นไปได้ยากมาก ราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยมากตั้งแต่ปี 2549 — 2550 สะท้อนให้เห็นความเป็นไปของราคาต้นทุนที่ขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ต้นทุนการผลิตของปี 2551 นั้นสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แต่ราคาขายกลับขยับจากปี 2550 เพียงเล็กน้อย ไม่สอดคล้องกับราคาต้นทุนอย่างที่ควรจะเป็น
ปัญหาด้านต้นทุนการผลิตเป็นประเด็นสำคัญที่สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักแก่เกษตรกร เนื่องจากการขยับขึ้นของราคาน้ำมันมีผลโดยตรงต่อพืช กลุ่มข้าวโพด กากถั่วเหลือง และมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชอาหารสัตว์ ที่ถูกแย่งไปผลิตพลังงานทดแทน ส่งผลกระทบต่อเนื่องให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ราคาข้าวโพดมีการปรับจากกิโลกรัมละ 9.90 บาท เป็น 11.50 บาท ( 7 ก.ค. 51) ภายในเวลาเพียง 3 วัน ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่รุนแรงกว่าทุกครั้งในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ส่วนกากถั่วเหลืองจากราคากิโลกรัมละ 11-12 บาท ขึ้นเป็น 20 บาท และอาจจะได้เห็นราคาข้าวโพดพุ่งขึ้นไปที่กิโลกรัมละ 14.50 บาท และกากถั่วเหลืองที่กิโลกรัมละ 24-25 บาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนไข่ไก่ ที่ในขณะนี้อยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.10 บาท ในเร็วๆ นี้
“หากภาครัฐจะเร่งช่วยเหลือผู้เลี้ยงไก่ไข่ก่อนที่จะถึงวาระสุดท้าย ก็คงจะทำให้เหตุการณ์ไม่เลวร้ายจนเกินเยียวยา เพราะถ้าต้นทุนการผลิตไข่ไก่พุ่งขึ้นไปถึง 3.10 บาทจริงๆ ขณะที่ราคาไข่ไก่ไม่สามารถขยับตัวได้มากนัก เชื่อว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่คงต้องล้มหายตายจากไปอุตสาหกรรมนี้อีกมากทีเดียว” นายเสน่ห์กล่าวและว่าปกติไข่ไก่เป็นสินค้าประจำครัวเรือน หาซื้อง่าย ราคาถูก แต่ปัจจุบันผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้กำลังการบริโภคลดลงไปถึง 15%
ทั้งนี้ การช่วยเหลือของภาครัฐที่อุปนายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่กล่าวถึง ก็คือการผลักดันแนวทางการแก้ปัญหาไข่ของ Egg Broad ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และหนึ่งในนั้นก็คือการเร่งนำเสนอ โครงการไข่โรงเรียน นักเรียนกินไข่ เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาอนุมัติและนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งจะสามารถช่วยให้เกิดการบริโภคไข่ไก่ในปริมาณที่สูงขึ้น และช่วยให้เด็กไทยได้มีโปรตีนบริโภคอย่างทั่วถึงในคราวเดียวกัน ส่วนในภาคของประชาชนทั่วไป รัฐบาลก็ควรเร่งรณรงค์บริโภคไข่ไก่ในวงกว้างอย่างจริงจังและทั่วถึง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่อีกทางหนึ่ง
เสน่ห์ กรรณสูตร
โทร. 081-865-7333