กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--อาร์เอส
จบลงไปด้วยความมันส์ โดนใจชาวร็อกไปเต็มๆ สำหรับคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ ของวงร็อกระดับประเทศ 2 วง อย่าง “Silly Fools” (ซิลลี่ ฟูลส์) ซึ่งประกอบไปด้วย “เบนจามิน ทัฟเนล (ร้องนำ), ต้น — จักรินทร์ จูประเสิรฐ (กีต้าร์), หรั่ง — เทวฤทธิ์ ศรีสุข (เบส), ต่อ — ต่อตระกูล ใบเงิน (กลอง)” และ “Ebola” (อีโบล่า) ซึ่งมี “เอ๋ — กิตติศักดิ์ บัวพันธ์ (ร้องนำ), กอล์ฟ — วรรณิต ปุณฑริกาภา (กีต้าร์), โอ๋ — สุรพงษ์ บัวพันธ์ (กีต้าร์), เอ — เชาวลิต ประสงค์สิน(เบส), พัน — พงษ์พันธุ์ โพธินิมิตร (กลอง)” กับคอนเสิร์ต “Silly Fools Ebola One-Way Concert” (ซิลลี่ ฟูลส์ อีโบล่า วัน-เวย์ คอนเสิร์ต) ซึ่งจัดขึ้นที่ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อวันก่อน
บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เพราะนอกจากชาวร็อกหลายพันคน ที่ได้เดินทางมารวมตัวกัน เพื่อรอเวลาได้ดูคอนเสิร์ตที่พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอกันมานาน นอกจากนั้นก็ยังมีเหล่าศิลปิน ไม่ว่าจะเป็น “เพทาย พลอยมีค่า, นุ่น — รมิดา ประภาสโนบล, กราฟ วงแบล็ค วานิลลา,วงวิวาเช่,วงอินเฟมัส,หวิว,วงไอน้ำ” ก็มาร่วมมันส์ไปกับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ และเมื่อได้เวลา ทุกคนต่างทยอยเดินเข้าไปในฮอลล์ เพื่อที่จะพบกับความมันส์ที่รออยู่ข้างหน้า เมื่อถึงเวลา เสียงดนตรีดังขึ้น พร้อมกับการเปิดตัวของ “อีโบล่า” ที่มาพร้อมกับเพลง “แสงสว่าง” และ “วิถีทาง” ชาวร็อกต่างส่งเสียงเฮลั่นสนั่นฮอลล์ ต้อนรับความมันส์กับศิลปินที่พวกเขารอคอย หลังจากที่ทุกคนได้โดดกันไปเต็มที่แล้ว “อีโบล่า” ก็ได้ส่งเพลง “เข็มทิศ” มาให้ชาวร็อกได้โยกตัวแบบเบาๆ และตามมาด้วยเพลง “การจากลา” ซึ่งแค่อินโทรขึ้น ทุกคนก็ปรบมือต้อนรับ พร้อมเสียงร้องตามที่ลั่นสนั่นฮอลล์ แต่เพื่อไม่ให้เสียชื่อของ “อีโบล่า” ความสะใจได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมเสียงของดนตรีที่หนักแน่น อย่างเพลง “เหตุเพราะ” “ความเป็นไป” “สักวัน” หลังจากนั้นก็จัดได้ว่าเป็นช่วงพักเหนื่อย “อีโบล่า” ส่งเพลงช้าๆมาให้ทุกคนได้พักกัน กับเพลง “กลับสู่จุดเริ่มต้น” พร้อมการโยกตัวตามของชาวร็อก เสียงเฮได้ดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อ “อีโบล่า” ร้องเพลง “สิ่งที่ฉันเป็น” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเพลงประจำตัวของวง “อีโบล่า” กันเลียทีเดียว ในช่วงท้ายของเพลงนี้ แฟนชาวร็อกได้มีเซอร์ไพรส์ เมื่อ “ต้น” มือกีต้าร์ของวง “ซิลลี่ ฟูลส์” ได้ออกมาแจมโซโล่ในช่วงท้ายเพลง ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนเพลงได้ไม่น้อย และเพื่อเป็นการส่งท้ายความมันส์ของ “อีโบล่า” ทั้งหมดจึงปล่อยมา 3 เพลงรวด “ไม่มีวันตาย” “SURVIVOR” และ “GET OUT” เรียกได้ว่าสะใจชาวร็อกกันไปเลยทีเดียว แต่ความมันส์ สะใจยังไม่ได้หมดแค่นั้น เมื่อมีเสียงดนตรีดังขึ้น เสียงเฮของคนดูก็ดังตามไปด้วยพร้อมกับการโดดแบบไม่ยั้ง เมื่อ 4 ชาวร็อกอย่าง “ซิลลี่ ฟูลส์” เปิดตัวออกมาด้วยเพลงจังหวะมันส์ๆอย่าง “สตรีหมายเลข 1” “เราเป็นคนเลือกเอง” และ “เหนื่อยแล้ว” หลังจากนั้น “ซิลลี่ ฟูลส์” ก็ให้แฟนเพลงได้พักหายใจหายคอกันไปกับเพลงช้าๆอย่าง “พัก” และ “รั้งรอ” เสียงดนตรีแห่งความสะใจกลับมาอีกครั้ง เมื่อเพลง “STAY AWAY” ดังขึ้น พร้อมกับตามติดมาด้วยเพลง “อีกครั้ง” หลังจากนั้น แฟนเพลงชาวร็อกทุกคนก็อึ้ง ทึ่งไปกับช่วง “GROOVE OF DRUM” ซึ่งเป็นการประชันกลอง โชว์ฝีมือกันระหว่างมือกลองคุณภาพอย่าง “ต่อ” มือกลองของ “ซิลลี่ ฟูลส์” กับ “พัน” มือกลองจาก “อีโบล่า” ควบคู่ไปกับซาวน์ของเครื่องดนตรีชนิดอื่น หลังจากการโชว์นี้จบ เสียงปรบมือก็ดังลั่น เรียกได้ว่า ประทับใจคนดูไปแบบเต็มๆ และไม่นาน เสียง “ไวโอลิน” ก็ดังขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวของ “เบน” นักร้องนำ “ซิลลี่ ฟูลส์” ที่ออกมาด้วยมาดเท่ห์ๆ พร้อมโชว์การ เล่น “ไวโอลิน” ให้แฟนๆได้ชม จัดได้ว่าเป็นโชว์พิเศษจริงๆ เพราะ “เบน” ไม่เคยเล่นที่ไหนมาก่อน หลังจากนั้น ก็นำเข้าสู่เพลง “ไกล” และ “ไม่พอเพียง” และจังหวะของดนตรีก็แรงขึ้น เมื่อเข้าสู่เพลง “คุณกร่าง” แฟนเพลงของ “ซิลลี่ ฟูลส์” ก็ได้ส่งเสียงฮือฮา เมื่อ “ซิลลี่ ฟูลส์” เปิดตัวแขกรับเชิญพิเศษ “เต้ย — กอบภพ ใบแย้ม” อดีตมือกลองของ “ซิลลี่ ฟูลส์” ที่วันนี้ ได้มาร่วมตีกลองกับมือกลองคนปัจจุบัน อย่าง “ต่อ” ในเพลง “สู้ไม่ได้” ซึ่งได้ “เบน” และ “เอ๋” นักร้องนำของทั้ง 2 วง มารับหน้าที่ถ่ายทอดเพลงนี้ และเวลาก็เดินทางมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายของคอนเสิร์ต เมื่อ “หรั่ง” สุดยอดมือเบสจากวง “ซิลลี่ ฟูลส์” ออกมาในช่วง “SWEET MELODY” พร้อมโชว์ลีลาการบรรเลง “เบส” ให้ทุกคนในฮอลล์ได้ชมกัน พร้อมตามติดมาด้วยเพลง “โง่” เพลงช้าๆซึ้งๆที่ได้น้ำเสียงกินใจของ “เบน” มาถ่ายทอดให้ทุกคนได้ฟัง และทุกอย่างก็จบลง หลังจาก “ซิลลี่ ฟูลส์” ได้มอบความมันส์ให้ทุกคนอีกครั้ง ด้วยเพลง “เราเป็นคนเลือกเอง” พร้อมกับการปิดฉากลงด้วยวงร็อกระดับประเทศทั้ง 2 วง ได้ออกมาโค้งขอบคุณแฟนเพลง เป็นการอำลา ซึ่งทั้งหมดก็ได้เสียงปรบมือจากชาวร็อกดังลั่นสนั่นฮอลล์ เพราะจัดได้ว่า เป็นคอนเสิร์ตที่มันส์ สะใจ โดนใจชาวร็อกจริงๆ”