กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--
สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ โดย พ.ต.อ. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ได้จัดกิจกรรมปฏิบัติการ ตำรวจไทย สุขภาพดีมีสุข ( Happy Police Good Health) ขึ้น ที่ห้องประชุม อาคารล๊อกโฮม โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาโครงสร้างร่างกายและกระดูกสันหลัง จากสถาบันดีสปายน์ ไคโรแพรคติก มาตรวจรักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอาการปวดหลัง และโรคเครียด ซึ่งเป็นการรักษาแนวใหม่โดยไม่ใช้ยาคือ ใช้มือจัดการกับปัญหาโครงสร้างกระดูกสันหลัง ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังได้จัดทีมนักกายภาพบำบัด มาสอนเทคนิคการออกกำลังกาย ลดความเครียด บริหารอารมณ์ขัน สร้างสมาธิ และเพิ่มความอดทนต่อคำร้องเรียน และคำวิจารณ์ต่างๆ ของประชาชน พ.ต.อ. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้กำกับ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เปิดเผยว่า จากการสำรวจสุขภาพตำรวจที่สถานีเมื่อเร็วๆนี้ พบว่า ส่วนใหญ่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ โดยโรคยอดฮิตก็คือ อาการปวดหลัง ปวดศรีษะ และโรคเครียด ซึ่งถึงแม้ว่าทางสถานีจะได้มีนโยบายส่งเสริมการดูแลสุขภาพ จัดแพทย์มาตรวจเช็คร่างกายประจำปี แต่จากลักษณะการทำงาน และความไม่ตื่นตัวด้านการป้องกันดูแลสุขภาพ และการเลือกที่จะทนต่อความเจ็บป่วย และความเจ็บปวดมากกว่าจะรีบไปรักษาร่างกาย หรือหาทางแก้ไข จึงทำให้ตำรวจมีปัญหาสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เปิดเผยอีกด้วยว่า ตำรวจในกลุ่มที่ทำงานนอกสถานี คือ ตำรวจจราจร ที่ต้องยืนโบกรถทั้งวัน วันละหลายชั่วโมง ปัญหาสุขภาพที่พบคือ จะมีอาการปวดหลัง ปวดคอ และปัญหากระดูกสันหลังเสื่อม โดยจากสภาพการทำงานที่ต้องทำงานหนัก ภายใต้อากาศร้อน และควันพิษ และปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ยังทำให้ตำรวจเป็นโรคเครียด ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการปวดต่างๆมีมากขึ้น ส่วนตำรวจที่ทำงานในสถานี ก็เจอปัญหาคล้ายๆ กันเนื่องจากสภาพการทำงานที่ต้องนั่งพิมพ์สำนวน ข้อร้องเรียนต่างๆ เป็นเวลานาน ก็ทำให้เป็นโรคปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดแขน จากผลการสำรวจสุขภาพตำรวจประมาณ 50 คน เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า กว่า 95% ระบุว่ามีอาการปวดหลัง ปวดคอ และเครียดมากที่สุด รองลงมาคือ ประมาณ 85% มีอาการปวดคอ ปวดเข่า ปวดแขน ส่วนโรคอื่นๆที่พบก็คือ อาการปวดร้าวชาลงขา ความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะ ภูมิแพ้ และไซนัส ผู้กำกับการตำรวจนครบาลทองหล่อ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมปฏิบัติการตำรวจไทย สุขภาพดี มีสุข (Happy Police Good Health) เป็นกิจกรรมหนึ่งของนโยบายส่งเสริมสุขภาพเชิงรุกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการให้ความรู้ สนับสนุนการออกกำลังกาย และการแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาพตำรวจ ด้านดร.ทอม สมิธ ไคโรแพรคเตอร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบโครงสร้างกระดูกสันหลัง และระบบประสาท ของสถาบันดีสปายน์ ไคโรแพรคติก กล่าวว่า จากสภาพการทำงานที่เร่งรีบอยู่ตลอดเวลาของตำรวจ การไม่ดูแลสุขภาพ มีอารมณ์ขันน้อย ส่งผลทำให้สุขภาพโดยรวมของตำรวจแย่ โดยจากการตรวจสุขภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาจะพบว่าการทำงานของโครงสร้างร่างกาย และระบบประสาทไม่สัมพันธ์กัน อันเนื่องมาจากชีวิตที่เร่งรีบตลอดเวลา ซึ่งชีวิตที่เร่งรีบอาจทำให้เกิดอาการเครียด ยิ่งมีความเครียดมากเท่าไหร่การทำงานต่างๆ ภายในร่างกายก็ยิ่งสับสน ร่างกายจึงส่งสัญญาณออกมาเป็นอาการปวดต่างๆ ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็จะมีอาการสะสม และจะเป็นหนักมากขึ้น จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน สำหรับแนวทางป้องกันแก้ไขนั้น สถาบันดีสปายน์ไคโรแพรคติก ระบุว่า สิ่งแรกที่ตำรวจอาจจะต้องหันมาดูแล ก็คือ การหันมาดูแลเครื่องแบบ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่เสื้อและกางเกงที่รัดเกินไป ทำให้ระบบเส้นประสาท กล้ามเนื้อ อยู่ในสภาพหดเกร็งตลอดเวลา นอกจากนี้ควรมีการออกกำลังกายพิเศษเพื่อลดความเครียด บริหารอารมณ์ขัน ท่าละ 25-50 ครั้ง และควรดื่มน้ำให้ได้ปริมาณวันละ 3 ลิตร เพื่อให้ร่างกายมีความชุ่มชื่น และช่วยทำให้สารนำสื่อประสาทในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล อีกทั้งควรฝึกหัวเราะบ่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข และควรฝึกลดภาระและการทำงานของสมอง โดยให้การอภัยตนเองทุกวัน ก็จะทำให้อาการเครียดต่างๆ ทุเลาลง