กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
เครื่องบินโบอิ้ง 747 เป็นตระกูลเครื่องบินยอดนิยมที่ผู้โดยสารทั่วโลกจดจำได้ในทันทีและเป็นเครื่องบินขนาด 400 ที่นั่งตระกูลเดียวในโลก เครื่องรุ่น 747-400 เป็นเครื่องบินที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีสมรรถนะสูง โดยเป็นเครื่องบินที่รวมพัฒนาการทางด้านพลศาสตร์เหนือกว่า เครื่องบิน 747 รุ่นเดิม ซึ่งรวมทั้งการเพิ่มปีกขนาดเล็กเพื่อลดกำลังฉุด การใช้วิทยาการด้านอิเล็กทรอนิกส์การบินและพื้นที่ห้องนักบินแบบใหม่ เครื่องบิน 747 เหมาะกับโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคในปัจจุบัน โดยให้บริการครอบคลุมสนามบินมากกว่า 210 แห่งทั่วโลก ทั้งยังเป็นเครื่องบินบรรทุกสินค้าที่ดีที่สุดและเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่เร็วที่สุดในโลก
พิสัยบินไกลขึ้น ความจุมากขึ้น และรายได้เพิ่มขึ้น
เครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล 747 คือ 747-400 อีอาร์ (เอ็กซ์เทนดิด เรนจ์) มีทั้งแบบที่เป็นเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินบรรทุกสินค้า แม้ว่าจะมีขนาดเท่ากับเครื่องบินรุ่น 747-400 ในปัจจุบัน แต่ 747-400 อีอาร์ มีความจุ (ทั้งผู้โดยสารและสินค้า) มากกว่าเดิม 747-400 อีอาร์ เข้าสู่บริการในเดือนพฤศจิกายน 2545 โดยสายการบินแควนตัสสั่งจองเครื่องรุ่นนี้จำนวน 6 ลำ โบอิ้งเปิดตัวเครื่องบินบรรทุกสินค้า 747-400 อีอาร์ เฟรทเทอร์ ด้วยยอดสั่งจองจากบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ลีส ไฟแนนซ์ คอร์ปอเรชั่น (ไอแอลเอฟซี) จำนวน 5 ลำ โดยลำแรกในจำนวนนี้เข้าสู่บริการในเดือนตุลาคม 2545
747-400 อีอาร์ เป็นเครื่องบินที่ตอบสนองตามความต้องการของลูกค้าที่อยากได้เครื่องบิน 747-400 แบบที่มีคุณสมบัติทันสมัยและสามารถนำมารวมกับฝูงบินที่มีอยู่ได้อย่างลงตัว 747-400 อีอาร์ สามารถแบกน้ำหนับขณะขึ้นบินได้เพิ่มขึ้นเป็น 910,000 ปอนด์ (412,770 กิโลกรัม) ซึ่งมากกว่าเครื่องบิน 747-400 รุ่นเดิมถึง 35,000 ปอนด์ (15,876 กิโลกรัม) ทำให้ผู้ประกอบการบินได้ไกลกว่าเดิม 410 ไมล์ทะเล (760 กิโลเมตร) หรือแบกน้ำหนักได้มากขึ้น 15,000 ปอนด์ (6,800 กิโลกรัม) ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเพิ่มเติม หรือการจุผู้โดยสารเต็มลำจำนวน 416 คน
เครื่องบินโดยสาร 747-400 อีอาร์ มีพิสัยบิน 7,670 ไมล์ทะเล (14,250 กิโลเมตร) เครื่องบินบรรทุกสินค้า 747-400 อีอาร์ ที่แบกน้ำหนักขึ้นบินสูงสุด 910,000 ปอนด์ (412,770 กิโลกรัม) มีพิสัยบิน 4,970 ไมล์ทะเล (9,200 กิโลเมตร)
โครงสร้างภายในใหม่แบบโบอิ้ง ซิกเนเชอร์
พื้นที่ภายในห้องโดยสารของเครื่องบิน 747-400 มีลักษณะใหม่แบบโบอิ้ง ซิกเนเชอร์ ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่ให้พื้นที่กว้างขวางและบรรยากาศที่สบาย แต่การนำเอาที่เก็บสัมภาระเหนือหัวที่เป็บแบบเฉพาะสำหรับเครื่องตระกูล 777 มาปรับใช้ ยังช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้วย นอกจากนี้ พื้นที่ห้องน้ำที่ปรับปรุงใหม่จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้โดยสารอย่างแน่นอน
โดยรวม ผู้โดยสารที่ใช้บริการเครื่องบิน 747-400 จะเพลิดเพลินกับพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมถึงร้อยละ 15 ให้ขนสัมภาระขึ้นเครื่องได้ทั้งกระเป๋าล้อเลื่อน คอมพิวเตอร์แบบพกพา และสัมภาระอื่นๆ ที่เก็บสัมภาระใหม่ได้รับการออกแบบให้รองรับกระเป๋าล้อเลื่อนได้เพิ่มขึ้นอีก 30% พื้นที่ชั้นลอยภายในเครื่อง 747-400 เพิ่มความจุสัมภาระ โดยผู้โดยสารมีพื้นที่เก็บกระเป๋าที่หิ้วขึ้นเครื่องได้มากกว่าเดิมเกิน 100%
โครงสร้างภายในแบบโบอิ้ง ซิกเนเชอร์ นี้เป็นมาตรฐานบนเครื่อง 747-400อีอาร์ และปรับใช้กับเครื่องรุ่น 747-400 บางลำที่อยู่ในระหว่างการผลิต โบอิ้งยังมอบแพ็กเกจพิเศษที่เปิดโอกาสให้สายการบินต่างๆ นำเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 จำนวนมากกว่า 460 ลำที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันเข้าร่วมโครงการปรับปรุงพื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่ชั้นลอยแบบใหม่
มาตรฐานแห่งความสำเร็จที่ปฏิวัติวงการบิน
เครื่องบิน 747-400 มีพิสัยบินไกลขึ้น ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าเดิม ลดเสียงรบกวนและประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการได้มากกว่าเครื่องบิน 747 รุ่นก่อนๆ เครื่องบิน 747-400 มีพิสัยบินประมาณ 7,260 ไมล์ทะเล (13,450 กิโลเมตร) และเป็นเครื่องบินขนาดสองช่องทางเดินที่มีค่าใช้จ่ายต่อที่นั่งต่อไมล์ต่ำที่สุด เครื่องบินรุ่นนี้มีอัตราความน่าเชื่อถือสูงเกือบ 99%
โบอิ้งส่งมอบเครื่อง 747-400 ลำแรกให้กับนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ในปี 2532 และถ้านับจากการส่งมอบเครื่องในตระกูล 747 เป็นครั้งแรกในปี 2512 โบอิ้งส่งมอบเครื่องบิน 747 ไปแล้วทั้งสิ้น 1,356 ลำ นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2547 เป็นต้นมา ลูกค้า 41 รายสั่งจองเครื่องบินรุ่น 747-400 จำนวน 660 ลำ ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้กลายเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประวัติศาสตร์ เครื่องบินตระกูล 747 ได้รับความนิยมอย่างสูงและยาวนานเพราะมีค่าใช้จ่ายต่ำ เป็นเครื่องรุ่นที่ได้รับเลือกให้บินในตลาดที่มีการจราจรทางอากาศหนาแน่น มีความสะดวกสบาย และมีความยืดหยุ่นเหมาะสำหรับการให้บริการทั้งในเส้นทางบินระยะสั้น ระยะกลางและระยะไกล
ประสิทธิภาพด้านพลศาสตร์ที่พัฒนายิ่งขึ้น
เครื่องบินรุ่น 747-400 มีพัฒนาการด้านพลศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดเหนือกว่าเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ในตระกูล 747 นั่นคือ การขยายปีกให้ยาวกว่าเดิมด้วยขนาด 6 ฟุต (1.8 เมตร) และเพิ่มปีกแนวตั้งขนาดเล็กสูง 6 ฟุตที่หันหน้าออกนอกตัวเครื่องเล็กน้อย พัฒนาการดังกล่าวช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงและขยายพิสัยบินของเครื่องให้ไกลขึ้น
ปีกขนาดเล็กช่วยให้เครื่องบินรุ่นนี้กางปีกได้กว้างกว่าเดิม แต่ยังอยู่ในระยะที่สนามบินมาตรฐานกำหนด ทั้งปีกขนาดเล็กและการขยายส่วนปลายปีกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงต่อระยะทางบินได้ประมาณ 3% ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากตลอดระยะอายุขัยของเครื่องบิน ปีกขนาดเล็กดังกล่าวมีความทนทาน น้ำหนักเบาและทำจากวัสดุประเภท กราไฟท์-อีพ็อกซี่ ซึ่งใช้กับเครื่องบินโบอิ้งรุ่นใหม่ ปีกที่ทำจากอลูมิเนียมและวัสดุผสมประเภทนี้ลดน้ำหนักเครื่องบินรุ่นนี้ได้ถึง 60 ปอนด์ (27 กิโลกรัม) เมื่อเทียบกับโครงสร้างปีกที่ใช้อะลูมิเนียมทั้งหมด
วัสดุประกอบโครงสร้างที่พัฒนายิ่งขึ้น
การใช้วัสดุที่พัฒนายิ่งขึ้นทำให้เครื่องบิน 747-400 มีน้ำหนักเบา พื้นในห้องโดยสารที่เคยใช้แบบที่เป็นโลหะ ก็เปลี่ยนเป็นพื้นซึ่งผลิตด้วยวัสดุผสมกราไฟท์ที่มีความเหนียวและน้ำหนักเบา
เบรคที่ทำจากคาร์บอนเป็นอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐานสำหรับล้อที่ใช้ในการนำเครื่อง 747-400 ลงจอดทั้ง 16 ล้อ เบรคดังกล่าวมีคุณสมบัติในการดูดรับพลังงานและมีความทนทานยิ่งกว่าเดิมและมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิมประมาณ 1,800 ปอนด์ (816 กิโลกรัม)
เครื่องบินรุ่น 747-400 ยังมีน้ำหนักเบากว่าเครื่องรุ่นก่อนๆ ถึง 4,200 ปอนด์ (1,900 กิโลกรัม) โดยใช้โลหะผสมอะลูมิเนียมที่มีความทนทานกว่าเดิม โลหะผสมดังกล่าวใช้ผลิตพื้นผิวส่วนปีก ระแนงปีก และชยาแกนปีกด้านล่าง
ห้องควบคุมการบิน
ห้องนักบินบนเครื่อง 747-400 มีความยืดหยุ่นสูงแบบเดียวกับที่ใช้กับเครื่องบินทุกรุ่นในฝูงบินของโบอิ้ง
ในปลายปี 2545 โบอิ้งนำหน้าจอแสดงผลแบบ แอลซีดี มาใช้กับเครื่องบิน 747-400 ใหม่ทุกลำ หน้าจอดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือสูงและมีสมรรถนะมากขึ้นเพื่อรองรับฟังก์ชั่นใหม่ที่จะนำมาเสริมเพิ่มเติมในอนาคต
ระบบแสดงตำแหน่งเครื่องยนต์และแจ้งเตือนลูกเรือ (Engine Indicating and Crew Alerting System - EICAS) สามารถเรียกตรวจสอบสถานะหรือโครงสร้างหลักของระบบต่างๆ ให้ปรากฏบนหน้าจอแอลซีดีได้ตลอดเวลา ลูกเรือจะรับทราบสภาพเครื่องยนต์ของเครื่องบินตลอดเที่ยวบิน ก่อนหน้านี้ ข้อมูลดังกล่าวจะมีแต่พนักงานซ่อมบำรุงเท่านั้นที่รับรู้ได้เมื่อเครื่องลงแล้ว
งานออกแบบภายใน
พื้นที่ภายในตัวเครื่อง 747-400 แบบใหม่ พัฒนาขึ้นจากพื้นที่ภายในตัวเครื่อง 747-400 แบบเดิมที่ผู้โดยสารพึงพอใจอยู่แล้ว โดยโบอิ้งปรับโครงสร้างภายในห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและดึงดูดใจผู้โดยสารมากขึ้น เพดานและผนังปรับปรุงใหม่ให้ดูโล่งสบายโดยใช้วัสดุน้ำหนักเบา พื้นที่จุสัมภาระของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 15.9 ลูกบาศก์ฟุต (0.4 ลูกบาศก์เมตร) ในแต่ละช่องขนาด 60 นิ้ว (152 เซนติเมตร) หรือ 2.9 ลูกบาศก์ฟุต (0.08 ลูกบาศก์เมตร) ต่อคน
วัสดุลามิเนทที่นำมาใช้ใหม่ได้รับการออกแบบเพื่อให้มีความทนไฟได้อย่างที่โบอิ้งต้องการ ส่วนผสมจากเธอร์โมพลาสติกช่วยลดควันและระดับความเป็นพิษในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ และแผงเพดานบนชั้นลอยทำจากโพลิเอสเตอร์แบบใหม่และวัสดุที่ก่อรูปขึ้นจากแผ่นฟีนอล แทนที่จะใช้วัสดุโพลิเอสเตอร์แบบเดิม
ส่วนที่พักลูกเรือใช้พื้นที่ด้านหลังตัวเครื่องเหนือห้องน้ำ พื้นที่บริเวณดังกล่าวสามารถจุที่นอนได้ 8 เตียงและที่นั่ง 2 ที่ โดยให้ความเป็นส่วนตัวและความสบายสำหรับลูกเรือที่พ้นหน้าที่ให้บริการ การย้ายพื้นที่พักผ่อนสำหรับลูกเรือมาไว้บริเวณดังกล่าวทำให้สามารถเพิ่มที่นั่งสร้างรายรับได้อีก 10 ที่
กระบวนการผลิตที่ทันสมัยสำหรับศตวรรษที่ 21
เครื่องบิน 747-400 ใช้กระบวนการประกอบเครื่องบินขั้นสูงเพื่อรับประกันคุณภาพ ลดรอบระยะเวลาส่งมอบ และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายในการผลิต
เมื่อเร็วๆ นี้ โบอิ้งเพิ่งเสร็จสิ้นการพัฒนากระบวนการออกแบบและสร้างเครื่องบิน 747-400 ให้มีความทันสมัย ภาพร่างทางวิศวกรรมของตัวเครื่องขนาดใหญ่มากกว่า 10,000 ภาพ ถูกแปลงให้เป็นข้อมูลระบบดิจิตัล เพื่อให้สามารถผลิตแต่ละส่วนได้อย่างถูกต้องแม่นยำ กลุ่มข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้โบอิ้งนำกระบวนการระบบเลเซอร์มาใช้ประกอบแผงส่วนผิวด้านหน้าได้
ตระกูลเครื่องบินที่หลากหลาย
เครื่องบิน 747-400 มีทั้งแบบเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินขนส่งสินค้า ช่วยให้สายการบินลูกค้าดำเนินธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่นสูงสุด
เครื่องบินโดยสาร:
เครื่องบิน 747-700 เป็นเครื่องบินพิสัยไกลระดับพรีเมียมที่มีขนาดที่พอเหมาะสำหรับทั้งสายการบินและผู้โดยสาร เครื่องบินรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มมูลค่าให้กับการดำเนินธุรกิจและยังเพิ่มความจุด้วยรุ่น 747-700 อีอาร์ ที่มีอัตราค่าใช้จ่ายต่อที่นั่งต่ำที่สุด
เครื่องบินขนส่งสินค้า:
747-700 เฟรทเทอร์ เป็นเครื่องบินพาณิชย์ขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยมีค่าใช้จ่ายต่อตันต่อไมล์ที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์เครื่องบินขนส่งสินค้า โดยสามารถขนส่งได้มากกว่าและบินได้ไกลกว่าเครื่องบินชั้นนำของคู่แข่งถึงสองเท่า เครื่องบิน 747-700 อีอาร์ เฟรทเทอร์ มีคุณสมบัติโดยรวมที่เหนือกว่าทั้งด้านความจุ พิสัยบินและความเร็ว เครื่องบิน 747-400 เฟรทเทอร์มาตรฐานที่แบกน้ำหนักสูงสุดขณะขึ้นบิน 875,000 ปอนด์ (396,900 กิโลกรัม) สามารถบรรทุกสินค้าได้ 124 ตัน (113,000) บินได้ไกล 4,450 ไมล์ทะเล (8,240 กิโลเมตร) เครื่องรุ่น 747-400 อีอาร์ เฟรทเทอร์ สามารถแบกน้ำหนักสูงสุดขณะขึ้นบินระดับ 910,000 ปอนด์ (412,770 กิโลกรัม) ทำให้สามารถบินได้ระยะทางเพิ่มขึ้น 525 ไมล์ทะเล (972 กิโลเมตร) หรือสามารถบรรทุกน้ำหนักเพิ่มเติมได้อีก 22,000 ปอนด์ (9,980 กิโลกรัม) ในเที่ยวบินพิสัยไกลโดยแบกน้ำหนักขณะขึ้นบินเต็มพิกัด
747 แอ็ดวานซ์
ปัจจุบัน โบอิ้งกำลังร่วมมือกับลูกค้าเพื่อพัฒนาเครื่องบินโดยสารและเครื่องบินบรรทุก สินค้ารุ่น 747 แอ็ดวานซ์ ซึ่งจะมีสมรรถนะเยี่ยมกว่าเดิมด้วยการใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์แบบเดียวกับเครื่องตระกูล 787 เครื่องยนต์แบบดังกล่าว คือ จีอีเอ็นเอ็กซ์ (GEnx) ซึ่งเป็นเทคโลโลยีด้านกำลังขับเคลื่อนสำหรับเครื่องบินพาณิชย์ที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ช่วยให้บินได้เงียบกว่าเดิมและลดการปล่อยอากาศเสีย ทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงกว่าและบินได้เร็วกว่าเครื่องบินรุ่นใดๆ ด้วยความเร็ว 0.86 มัค 747 แอ็ดวานซ์ จะเป็นเครื่องบินเจ็ตรุ่นเดียวในตลาดเครื่องบินขนาด 400-500 ที่นั่งโดยมีพิสัยบิน 8,000 ไมล์ทะเล (14,816 กิโลเมตร) และเป็นเครื่องบินที่คุ้มที่สุดในตลาดเครื่องบินขนาดใหญ่
คุณสมบัติทางด้านเทคนิคของเครื่อง 747-400 อีอาร์
ผู้โดยสารโครงสร้างห้องโดยสารแบบ 3 ชั้น 416 คน
โครงสร้างห้องโดยสารแบบ 2 ชั้น 524 คน
สินค้าบรรทุก* 5,599 ลบ. ฟุต (158.6 ลบ. เมตร) หรือ 4,837 ลบ. ฟุต (137 ลบ. เมตร)
เครื่องยนต์ แพรทท์แอนด์วิธนี่ย์ 4062
(อัตราเร่งสูงสุด) 63,300 ปอนด์ (281.57 กิโลนิวตัน)
เจเนอรัล อีเล็กทริค ซีเอฟ6-80ซี2บี5เอฟ
62,100 ปอนด์ (276.23 กิโลนิวตัน)
ความจุเชื้อเพลิงสูงสุด ** 63,705 ยู.เอส. แกลลอน (241,140 ลิตร)
แบกน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 910,000 ปอนด์ (412,770 กก.)
พิสัยบินสูงสุด 7,670 ไมล์ทะเล (14,205 กม.)
คู่เมืองบินหลัก: นิวยอร์ก-ฮ่องกง, ลอสแอนเจลิส-เมลเบิร์น, ริโอเดอจาเนโร-เพิร์ธ
ความเร็วเดินทางปกติ 0.855 มัค
(ที่ระดับ 35,000 ฟุต) 567 ไมล์ต่อชั่วโมง (913 กม./ชม.)
มิติพื้นฐานของเครื่อง
ระยะขยายปีก 211 ฟุต 5 นิ้ว (64.4 ม.)
ความยาวโดยรวม 231 ฟุต 10 นิ้ว (70.6 ม.)
ความสูงของหาง 63 ฟุต 8 นิ้ว (19.4 ม.)
ความกว้างของห้องโดยสาร 20 ฟุต (6.1 ม.)
คุณสมบัติทางด้านเทคนิคของเครื่อง 747-400
ผู้โดยสารโครงสร้างห้องโดยสารแบบ 3 ชั้น 416 คน
โครงสร้างห้องโดยสารแบบ 2 ชั้น 524 คน
สินค้าบรรทุก *** 6,025 ลบ. ฟุต (170.5 ลบ. เมตร) หรือ 5,332 ลบ. ฟุต (151 ลบ. เมตร)
เครื่องยนต์ แพรทท์แอนด์วิธนี่ย์ 4062
(อัตราเร่งสูงสุด) 63,300 ปอนด์ (281.57 กิโลนิวตัน)
โรลส์ รอยซ์ อาร์บี211-524เอช2-ที
59,500 ปอนด์ (264.67 กิโลนิวตัน)
เจเนอรัล อีเล็กทริค ซีเอฟ6-80ซี2บี5เอฟ
62,100 ปอนด์ (276.23 กิโลนิวตัน)
ความจุเชื้อเพลิงสูงสุด 57,285 ยู.เอส. แกลลอน (216,840 ลิตร)
แบกน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 875,000 ปอนด์ (396,890 กก.)
พิสัยบินสูงสุด 7,260 ไมล์ทะเล (13,450 กม.)
คู่เมืองบินหลัก: ลอสแอนเจลิส-ฮ่องกง, ลอสแอนเจลิส-ซิดนี่ย์, สิงคโปร์-ลอนดอน
ความเร็วเดินทางปกติ 0.855 มัค
(ที่ระดับ 35,000 ฟุต) 567 ไมล์ต่อชั่วโมง (913 กม./ชม.)
มิติพื้นฐานของเครื่อง
ระยะขยายปีก 211 ฟุต 5 นิ้ว (64.4 ม.)
ความยาวโดยรวม 231 ฟุต 10 นิ้ว (70.6 ม.)
ความสูงของหาง 63 ฟุต 8 นิ้ว (19.4 ม.)
ความกว้างของห้องโดยสาร 20 ฟุต (6.1 ม.)
* 5,599 ลบ. ฟุต (158.6 ลบ. เมตร) = ที่เก็บแอลดี-1 จำนวน 28 อัน + สินค้าปริมาณมาก; 5,332 ลบ. ฟุต (137 ลบ. เมตร) = แท่นวางสินค้า 4 อัน, ที่เก็บแอลดี-1 จำนวน 14 อัน + สินค้าปริมาณมาก (1 แท่น = 96 นิ้ว x 125 นิ้ว, 244 ซม. x 318 ซม.) ปริมาณความจุนี้จะลดลงสำหรับเครื่องรุ่น 747-400 เพราะมีถังเชื้อเพลิงเพิ่มเติมบริเวณด้านหน้าส่วนบรรทุกสินค้าด้านล่าง ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเครื่อง 747-400 อีอาร์
** มีถังเชื้อเพลงสำรองบริเวณด้านหน้าส่วนบรรทุกสินค้าด้านล่าง ความจุเชื้อเพลิงสำหรับถังเชื้อเพลง 1 ถุง คือ 60,495 ยู.เอส. แกลลอน (228,990 ลิตร)
*** 6,025 ลบ. ฟุต (170.5 ลบ. เมตร) = ที่เก็บแอลดี-1 จำนวน 30 อัน; 5,332 ลบ. ฟุต (151 ลบ. เมตร) = แท่นวางสินค้า 5 อัน, ที่เก็บแอลดี-1 จำนวน 14 อัน + สินค้าปริมาณมาก (1 แท่น = 96 นิ้ว x 125 นิ้ว, 244 ซม. x 318 ซม.)
หากท่านต้องการรายละเอียดอื่นๆ กรุณาติดต่อ คุณจุไรกาญจน์ โทร. 0-2205-6611
สามารถคลิกดูภาพข่าวได้ที่ www.thaipr.net--จบ--