หนุนชาวบ้านเตรียมพร้อม ก่อนภัยพิบัติธรรมชาติมาเยือน

ข่าวทั่วไป Tuesday July 22, 2008 07:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--สสส.
สสส.หนุนชาวบ้าน ดำเนินโครงการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติโดยชุมชน เริ่มต้นที่หมู่บ้านน้ำท่วมซ้ำซาก ในอ.น้ำพอง ขอนแก่น ชาวบ้านนับร้อยลอกสวะออกจากบึงกลางชุมชน เพื่อให้น้ำระบายได้ดี ชี้ภัยธรรมชาติเกิดได้ทุกเวลา แต่การสูญเสียลดได้ ถ้ารู้จักป้องกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ ชาวชุมชนโนนหนองลาด บ้านโนนเชือก ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และชาวบ้านในพื้นที่รอบๆ บึงปากเขื่อน ต.บ้านขาม ประมาณ 100 คน ได้ร่วมกันกำจัดสวะในบึงปากเขื่อน เนื่องจากในช่วงฤดูฝนของทุกปี น้ำจากทั่วทุกสารทิศได้ไหลมายังบึง ทำให้ปริมาณน้ำขึ้นสูงจนเอ่อท่วมไร่นา หากกำจัดสวะที่กีดขวางทางน้ำออกไป ก็จะทำให้น้ำระบายออกได้ดียิ่งขึ้น
นายสวาท อุปฮาด แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า กิจกรรมกำจัดสวะในครั้งนี้ ดำเนินตามโครงการการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติโดยชุมชน ของมูลนิธิพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อลดการสูญเสีย เพราะที่ผ่านมานั้น ชาวบ้านโนนหนองลาด ประสบกับปัญหาน้ำท่วมทุกปี ท่วมแต่ละครั้งจะท่วมขังหลายวัน เฉลี่ยแล้วประมาณ 40 วัน บางปีท่วมนานถึง 100 วันทีเดียว ทำให้นาข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย
"ที่ผ่านมา พวกเราช่วยเหลือตัวเองมาตลอด ไม่มีหน่วยงานรัฐมาสนใจ ความช่วยเหลือต่างๆ ก็ไม่มีมา เมื่อได้รับการติดต่อจากมูลนิธิพัฒนาที่ยั่งยืนให้เข้าร่วมโครงการฯ จึงยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าถ้าชาวบ้านเตรียมการและป้องกันไว้ก่อน น่าจะลดการสูญเสียลงได้บ้าง" แกนนำชาวบ้านกล่าว
นายสวาท เสริมว่า บ้านโนนหนองลาดจัดเป็นชุมชนที่ถูกลืมอย่างแท้จริง นอกจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว ชาวบ้านยังไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร ถนนเข้าหมู่บ้านอยู่ในสภาพทรุดโทรม เป็นหลุมบ่อ และยังไม่มีไฟฟ้าใช้ แม้ว่าทางการจะมาติดตั้งแผงโซลาร์เซลส์ให้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีปัญหาในเรื่องเอกสารสิทธิ์ในที่ทำกิน ทั้งๆ ที่มีการร้องขอหลายครั้งแล้ว
ทางด้านนายโจนาธาน ช็อตต์ ผู้ประสานงานโครงการการจัดการภัยพิบัติธรรมชาติโดยชุมชน ของมูลนิธิพัฒนาที่ยั่งยืน โดยได้รับการสนับสนุนจาก สสส. กล่าวว่า กิจกรรมที่ชาวบ้านร่วมกันทำในวันนี้ เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ นั่นคือการส่งเสริมให้ชาวบ้านตระหนักรู้ถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง จนกระทั่งนำไปสู่การร่วมมือกันเพื่อป้องกันภัยที่อาจจะเกิดขึ้น
นายช็อตต์ กล่าวต่อไปว่า จากภัยพิบัติครั้งร้ายแรงก่อนหน้านี้ เช่น ภัยสึนามิในภาคใต้ บอกให้เรารู้ว่า หน่วยงานราชการและองค์กรเอกชนต่างๆ ไม่สามารถช่วยเหลือชาวบ้านได้ ชาวบ้านจะต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน ดังนั้นจึงต้องสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น ชุมชนต้องเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาทั้งหมด
"เราไม่รู้ว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ที่เราพอจะรู้ คือภัยธรรมชาติจะเกิดถี่ขึ้น เนื่องจากภาวะโลกร้อนและการเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญภัยพิบัติที่รุนแรงไม่ได้เกิดจากมนุษย์ แต่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์" นายช็อตต์ กล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
น้องนาว 081-1203073
พี่แดง 081-5537553

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ