กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะปลอดหนี้ของบริษัท การมีฝ่ายบริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ยาวนาน ความหลากหลายของสินค้าและยี่ห้อสินค้าที่บริษัทจัดจำหน่าย ความเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ รวมถึงความเป็นผู้นำตลาดในสินค้าที่เป็นธุรกิจหลักคือ ชุดชั้นในสตรี เครื่องแต่งกายบุรุษ และเครื่องสำอาง ทริสเรทติ้งคาดว่านโยบายล่าสุดในการสร้างช่องทางจัดจำหน่ายของตนเองในรูปแบบร้านค้าเฉพาะอย่าง รวมถึงการจัดจำหน่ายผ่านทางช่องทางเดิม ซึ่งประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าย่อย และบางส่วนจาก ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ จะสามารถทำให้บริษัทรักษาสถานภาพทางธุรกิจได้ต่อไป นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงระดับผลกำไรที่ต่ำซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของธุรกิจจัดจำหน่าย รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง และความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มสหพัฒน์ด้วย
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายที่บริษัทจะยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำทางการตลาดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เอาไว้ได้แม้ในภาวะที่มีการแข่งขันสูง โดยนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังยังเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตของบริษัท ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าและดำเนินธุรกิจค้าส่งรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ กิจกรรมหลักของบริษัทคือการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค โดยเฉพาะชุดชั้นในสตรี เสื้อผ้าและเครื่องสำอางภายใต้ยี่ห้อที่หลากหลายมากกว่า 100 ยี่ห้อทั้งที่เป็นยี่ห้อจากต่างประเทศและของบริษัทเอง โดยยี่ห้อจากต่างประเทศที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้บริโภค ได้แก่ Wacoal, Arrow, Lacoste, Guy Laroche, ELLE และ Itokin เป็นต้น ด้วยความสามารถและประสบการณ์ที่ยาวนานของคณะผู้บริหารและการสนับสนุนจากบริษัทผู้ผลิตสินค้าและผู้จัดหา (Supplier) ในกลุ่มสหพัฒน์ ส่งผลให้บริษัทดำรงสถานะความเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของประเทศ และทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการคงตำแหน่งผู้นำในตลาดเป้าหมาย บริษัทเป็นผู้นำตลาดชุดชั้นในสตรีที่เด่นชัดในตลาดระดับกลางถึงบน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดผ่านห้างสรรพสินค้าประมาณ 66% ซึ่งประกอบด้วย Wacoal ซึ่งมีส่วนแบ่งที่มากกว่า 58% และความสำเร็จของสินค้า Lacoste และ Arrow เป็นผลทำให้ยอดขายของเสื้อผ้าบุรุษเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2541 โดยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2545 เป็น 31% ในปี 2550
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล ดำรงนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังมาโดยตลอด ซึ่งพิสูจน์ได้จากการปลอดภาระหนี้มาตั้งแต่ปี 2545 นอกจากนี้ ภาระค้ำประกันที่บริษัทมีต่อบริษัทที่เกี่ยวข้องยังลดลงอย่างต่อเนื่องจากระดับสูงสุดถึง 2,046 ล้านบาทในปี 2540 เหลือ 331 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2551 เนื่องจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชนประกอบกับการที่บริษัทมีนโยบายยกเลิกการจัดจำหน่ายบัตรเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงส่งผลให้ยอดขายของบริษัทลดลง 12.9% ในปี 2550 โดยสินค้าหลักที่มียอดขายลดลง ได้แก่ ชุดชั้นในสตรี (12.9%) เสื้อผ้าบุรุษ (7.3%) และบัตรเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ (55%) ทั้งนี้ การจัดจำหน่ายบัตรเติมเงินเป็นธุรกิจเสริมที่ทำยอดขายในสัดส่วนที่สูงให้แก่บริษัทโดยอยู่ในระดับถึง 8%-9% ในปี 2548-2549 และลดลงเหลือ 5% ในปี 2550 ยอดขายรวมของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2551 ลดลงอีก 4.3% มาอยู่ที่ 2,775 ล้านบาท จาก 2,899 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการหยุดจำหน่ายบัตรเติมเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปลายปี 2550 และอีกส่วนหนึ่งมาจากยอดขายจากธุรกิจหลักของบริษัทซึ่งอยู่ในระดับคงที่ อย่างไรก็ตาม ฐานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งอยู่ โดยบริษัทมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 885 ล้านบาทในปี 2549 และ 863 ล้านบาทในปี 2550 ซึ่งสม่ำเสมอกว่ายอดขายในช่วงเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังกล่าวด้วยว่า นักลงทุนบางรายอาจมีปัญหาในการประเมินธุรกิจแยกเป็นรายบริษัทเนื่องจากโครงสร้างการถือหุ้นระหว่างบริษัทไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มค่อนข้างซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการทำธุรกรรมระหว่างกันของบริษัทในกลุ่มสหพัฒน์นั้นเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์