กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--พีอาร์ พลัส ทู
การผนวกรวมซอฟต์แวร์ครั้งใหม่เพื่อการมองเห็นการดำเนินงานแบบครบวงจร และกระบวนการจัดการทางธุรกิจแบบเรียลไทม์ บริหารโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพในห้องศูนย์ข้อมูลและระบบภายในอาคารได้ในแพล็ตฟอร์มเดียว
อเมริกัน เพาเวอร์ คอนเวอร์ชั่น คอร์ปอเรชั่น (เอพีซี) ผู้นำธุรกิจด้านพลังงานสำรองฉุกเฉินและระบบควบคุมความเย็น ในเครือของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยแผนผนวกรวมแพล็ตฟอร์มการบริหารจัดการซอฟต์แวร์ของเอพีซีและทีเอซีเข้ากับซอฟต์แวร์การจัดการพลังงานของ IBM Tivoli Monitoring โดยเอพีซีและทีเอซี ในเครือของชไนเดอร์ อิเล็กทริค ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานระดับโลก จะดูแลในส่วนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ และระบบการจัดการอาคาร ทั้งนี้แผนการดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะทำให้แพล็ตฟอร์มการจัดการของโปรแกรม InfraStruXure Central ของเอพีซี ระบบการจัดการอาคารของทีเอซี และซอฟต์แวร์ของ IBM Tivoli Monitoring สามารถแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญร่วมกันได้ อันได้แก่ การแจ้งเตือน ประวัติ ข้อมูล และข้อมูลการติดตามสินทรัพย์ด้านไอที ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นการดำเนินงาน ควบคุม และทำงานแบบอัตโนมัติได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กร โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของห้องศูนย์ข้อมูลและระบบอาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในขณะที่รักษาระดับการบริการด้านไอทีไว้
ด้วยการรวมโปรแกรม InfraStruXure Central ของเอพีซีและทีเอซีเข้ากับซอฟต์แวร์ IBM Tivoli Monitoring ผู้ดูแลระบบก็สามารถที่จะดู เทียบเคียง และวางโครงร่างการประสานของกระบวนการธุรกิจ และสินทรัพย์ด้านไอทีให้เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพที่สำคัญได้ ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและลดความเสี่ยง ยกระดับความพร้อมใช้งานของระบบดาต้าเซ็นเตอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานได้
“เมื่อเราผนวกรวมโปรแกรมของเราเข้ากับซอฟต์แวร์ IBM Tivoli Monitoring เรียบร้อยแล้ว ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของกระบวนการนั้น และระบบการจัดการอาคารโดยใช้วิธีอิงกับข้อมูลที่ได้ และรับรู้ถึงวิธีการปรับใช้โครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพ" คุณ จอห์น ดิปิปโป รองประธาน อาวุโส เอพีซี ดาต้าเซ็นเตอร์ โซลูชั่น กล่าว
ด้านสจวร์ต แม็คเออร์วิน ผู้อำนวยการฝ่ายตลาดที่มีศักยภาพใหม่ของไอบีเอ็ม ทิโวลี กล่าวแสดงความเห็นว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ผู้ร่วมงานอย่างเอพีซีและทีเอซี ในฐานะที่มีส่วนร่วมกับความพยายามของไอบีเอ็มเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถบริหารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกันเป็นทีม เราก็จะมีความสามารถในการจัดการที่ครอบคลุม และสามารถนำเสนอเครื่องมือที่เหมาะสมแก่ลูกค้าเพื่อใช้ในการจัดการ และควบคุมการใช้พลังงาน และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ได้สูญเสียการบริการทางธุรกิจที่สำคัญแต่อย่างใดเลย”
ชุดรวมโซลูชั่นซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ปรับปรุงใหม่ของเอพีซีนี้ทำให้สามารถจัดการกับโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพด้านไอทีได้ทั่วทั้งบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับพื้นห้อง ระบบไฟฟ้า การระบายความร้อน การวางสายเคเบิล และการป้องกันการคุกคามระบบ โปรแกรม InfraStruXure Central ของเอพีซีจะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการสนับสนุน และป้องกันช่วงระยะเวลาที่เครื่องหยุดทำงานได้ โดยสามารถแก้ปัญหาทางด้านกายภาพและสภาวะแวดล้อมได้อย่างรวดเร็ว
“โปรแกรม InfraStruXure Central ช่วยเพิ่มระดับการมองเห็น และควบคุมการดำเนินงานให้กับเราเป็นอย่างมาก” เดวิด ชอว์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายบริการศูนย์ข้อมูลของบริษัท ซิสเตอร์ ออฟ เมอร์ซี เฮลธ์ ซิสเต็ม ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่กล่าว และเสริมว่า “โครงสร้างพื้นฐานของระบบข้อมูลเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับความสามารถของเราในการสร้างคุณภาพสูงสุดด้านการดูแลรักษาสุขภาพ โปรแกรม InfraStruXure Central มีทั้งเครื่องมือในการตรวจสอบติดตาม และการรายงานเกี่ยวกับการจัดการที่จำเป็นเพื่อการรักษาพื้นฐานของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานของเรา โปรแกรมนี้ทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องขอบเขตความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ และยังจัดการกับสภาวะการหยุดชะงักของพลังงานได้ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาการขาดกระแสไฟฟ้าสำหรับให้บริการ ด้วยการใช้ระบบการแจ้งเตือนร่วมกับซอฟต์แวร์ IBM Tivoli Monitoring เราสามารถที่จะเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นถึงแอพพลิเคชันต่างๆ ที่สำคัญต่อภารกิจของเรา ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาได้ และขณะเดียวกันก็สามารถพิจารณาหาวิธีการดำเนินการที่ดีที่สุดในการขจัดปัญหาช่วงเวลาที่เครื่องไม่สามารถทำงานได้”
โซลูชันที่เกิดจากการรวมซอฟต์แวร์ของเอพีซี ทีเอซี และ IBM Tivoli Monitoring เข้าด้วยกันนั้น ทำให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการในข้อต่อไปนี้ได้
-- ตรวจหาและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้าและระบบระบายความร้อนได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ด้านไอที และโปรแกรมทางธุรกิจที่สอดคล้องกันซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
-- ติดตามความเคลื่อนไหว การเพิ่มเติม และการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ด้านไอทีในทางกายภาพ
-- ใช้ไฟฟ้า ระบบระบายความร้อน และความจุของตู้แร็คให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมๆ กับการปรับขนาดสภาพแวดล้อมด้านไอทีให้เหมาะสม
-- คาดการณ์ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาช่วงเวลาที่เครื่องหยุดทำงานที่อาจเกิดขึ้น สืบเนื่องจากฮาร์ดแวร์เสีย หรือเกิดปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบไฟฟ้า
-- ติดตามประวัติข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ด้านไอที และความต้องการด้านไฟฟ้าและการระบายความร้อนที่เป็นผลตามมา เพื่อที่จะนำกลยุทธ์สำหรับการบริหารดาต้าเซ็นเตอร์ไปใช้ได้ดียิ่งขึ้นสำหรับทั้งปัจจุบันและในอนาคต
-- ผนวกรวม และรวมฟังก์ชันในการรักษาความปลอดภัยของห้องศูนย์ข้อมูลไว้ที่ส่วนกลาง เช่น การควบคุมการเข้าถึง การติดตามการบุกรุก และการจัดการระบบกล้องวิดีโอระบบดิจิตัล
-- การมองเห็นถึงระบบควบคุมการจัดการอาคารได้ดียิ่งขึ้น เพื่อสามารถควบคุมระดับความร้อน การระบายอากาศ และการปรับอากาศได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เอพีซีคาดว่าลูกค้าจะสามารถใช้โปรแกรม InfraStruXure Central ของเอพีซี ระบบการจัดการอาคารของทีเอซี และซอฟต์แวร์ IBM Tivoli Monitoring โซลูชั่น ได้ทั่วโลกภายในปี 2009 โดยปัจจุบัน ลูกค้าสามารถติดต่อกับบริษัทที่เข้าร่วมแผนนี้ได้ทุกแห่ง เพื่อเริ่มกระบวนการประเมินสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกลยุทธ์ที่ใช้ในห้องศูนย์ข้อมูล เพื่อที่จะจัดการและควบคุมการใช้พลังงาน รวมถึงบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โปรแกรม InfraStruXure Central ของเอพีซีมีวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ววันนี้ โดยสนนราคาจำหน่ายโดยประมาณต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรม InfraStruXure Central และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเอพีซี สามารถค้นหาได้ที่เว็บไซต์ www.apc.com หรือโทรศัพท์ติดต่อที่หมายเลข 800-877-4080
เกี่ยวกับเอพีซี
เอพีซีโดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำธุรกิจและบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉิน และระบบควบคุมความเย็น นำเสนอผลิตภัณฑ์ชั้นนำต่างๆ ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นคุ้มครองและป้องกันการเสียหายของข้อมูล รวมทั้งการเสียหายของฮาร์ดแวร์และการหยุดชะงักของระบบงานให้แก่ตลาดอุตสาหกรรม ศูนย์ข้อมูล องค์กร ธุรกิจตั้งแต่ระดับเล็ก กลาง จนถึงผู้ใช้งานตามบ้าน ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง ประสบการณ์ระดับโลกและเครือข่ายทึ่ครอบคลุมมากกว่า ในบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉินและระบบควบคุมความเย็นของชไนเดอร์ อิเล็คทริค โซลูชั่นของเอพีซีที่ได้นำเสนอให้กับลูกค้าได้รับการออกแบบและติดตั้งภายใต้การวางแผนอย่างเป็นระบบ ด้วยประสิทธิภาพการบำรุงรักษาตลอดการใช้งานอย่างไร้ที่ติ ด้วยนวัตกรรมอันเหนือชั้นกว่า เอพีซีนับเป็นผู้นำริเริ่มนำเสนอโซลูชั่นสำหรับการบริหารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับเทคโนโลยีด้านการคุ้มครอง และป้องกันการเสียหายของข้อมูล
เอพีซี และ เอ็มจีอี ยูพีเอส ซิสเต็มส์ ได้ผนวกกันเมื่อปี พ.ศ. 2550 เพื่อจัดตั้งหน่วยธุรกิจและบริการด้านพลังงานสำรองฉุกเฉิน และระบบควบคุมความเย็นในเครือของชไนเดอร์ อิเล็คทริค โดยเอพีซี และเอ็มจีอี มียอดจำหน่ายทั่วโลกในปีที่เดียวกัน รวมกันถึง 3.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.4 พันล้านยูโร) และมีพนักงาน 12,000 คนทั่วโลก โซลูชั่นของเอพีซี ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำรองกระแสไฟฟ้า (UPS) ระบบทำความเย็นภายในตู้แร็ค ผลิตภัณฑ์ตู้แร็ค การบริการออกแบบวางระบบ และซอฟต์แวร์สำหรับบริหารและจัดการภายในห้องศูนย์ข้อมูล รวมถึงเอพีซี InfraStruXure โซลูชั่นที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการด้านอุตสาหกรรมมากที่สุด ตั้งแต่ระบบไฟฟ้า ระบบทำความเย็น และระบบบริหารจัดการห้องศูนย์ข้อมูลไว้ด้วยกัน พนักงานจำนวน 120,000 คน ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ใน 102 ประเทศ มียอดจำหน่ายรวมทั่วโลกในปี พ.ศ. 2550 สองหมื่นห้าพันล้านเหรียญสหรัฐฯ (17.3 พันล้านยูโร) รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอพีซี สามารถเข้าชมได้ที่ www.apc.com
Pinyaluck Thanasinmontri
Pr Plus Two Co., Ltd.
Tel. 02-158-9107-8 ext. 15, Fax. 02-158-9142
www.prplus2.com