บีโอไอรุกดึงการลงทุนให้ได้ตามเป้า 6 แสนล้าน ระดมสำนักงานต่างประเทศวางแผนเชิงรุก

ข่าวทั่วไป Monday July 28, 2008 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--บีโอไอ
บีโอไอ มั่นใจยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในปีนี้จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ 6 แสนล้านบาท พร้อมระดมหัวหน้าสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศวางแผนเชิงรุกดึงดูดการลงทุน เลขาธิการ บีโอไอระบุ จะมีโครงการขนาดใหญ่ยื่นขอรับส่งเสริมในช่วงครึ่งปีหลัง
นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)ในปีนี้ ว่า จะยังคงเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ คือ 600,000 ล้านบาท แม้ว่ามูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก 2551 จะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่าในช่วงครึ่ง ปีหลังจะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่อีกหลายโครงการมายื่นขอรับส่งเสริม หลังจากนั้นจะมีโครงการขนาดเล็กที่ตามโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าวเข้ามาอีก ขณะนี้จึงมั่นใจว่ามูลค่าการขอรับส่งเสริมของทั้งปี 2551 จะไม่ลดลงไปจากที่ประมาณการไว้ 600,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 21 — 25 กรกฎาคม บีโอไอได้จัดประชุมหารือถึงแผนการชักจูงการลงทุนเชิงลึก ร่วมกับหัวหน้าสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนต่างประเทศทั้ง 7 แห่งทั่วโลก ประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ กรุงโตเกียว และโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นิวยอร์ก และลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ปารีส ประเทศฝรั่งเศส แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และแผนชักจูงการลงทุนเชิงลึก ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปีนี้
สำหรับการขอรับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2551) แม้ว่ามูลค่าเงินลงทุนจะลดลงประมาณ 13% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่จำนวนโครงการที่ขอรับส่งเสริมมีจำนวนใกล้เคียงกันคือ 640 โครงการ แสดงให้เห็นถึงความสนใจของกลุ่มนักลงทุนต่อการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง
สาเหตุที่ทำให้มูลค่าเงินลงทุนแตกต่างกันเพราะในช่วง 6 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา มีโครงการขนาดใหญ่มูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไปขอรับส่งเสริมจำนวน 38 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุน 144,000 ล้านบาท ในขณะที่โครงการที่ขอรับส่งเสริมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีโครงการขนาดใหญ่เพียง 29 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 123,100 ล้านบาทเท่านั้น
ด้านนายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบมูลค่าเงินลงทุนของโครงการที่ขอรับส่งเสริมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จะเห็นว่าแม้จะต่ำกว่าช่วง 6 เดือนแรกของปี 2550 แต่สูงกว่ามูลค่าขอรับส่งเสริมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 165,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เกิดจากจากปัจจัยภายนอก เช่น ผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม การชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน และภาวะเงินเฟ้อ อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ดังนั้น ประเทศไทยจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าว โดยการปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุน ให้พร้อมรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และรองรับการลงทุนในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ