กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--สวทช.
ในประเทศไทย โรคมะเร็งปอด นับเป็นโรคที่พบมากและเป็นสาเหตุการตายในอันดับต้นๆ ที่พบมากทั้งในเพศชายและหญิงโดยสาเหตุการเกิดโรคประมาณ 80-90% เกิดจากการสูบบุหรี่ หากแต่จากสถิติผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในผู้หญิงกลับพบว่า ผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดหลายคนแต่ไม่พบประวัติสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูบบุหรี่ อีกทั้งไม่มีประวัติสัมผัสกับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพ
อย่างไรก็ดี ล่าสุดผลการวิจัยการประเมินควันธูปต่อผลกระทบสุขภาพของประชาชน โดยนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้า ไอ ซี ยู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่าในธูปมีสารก่อมะเร็งถึง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน เบนโซเอไพรีน โดยตัวอย่างผลการวัดปริมาณสารเบนซีนในบริเวณวัดที่มีการจุดธูปมากนั้นพบสูงถึง 94 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่เกณฑ์ความปลอดภัยกำหนดไว้ไม่เกิน 1.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ส่วนที่ชุมชนแถวมาบตาพุดพบเพียง 2.2- 3.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่สำคัญผลการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพพบว่ามีฤทธิ์ทำลายสารพันธุกรรม (DNA) ซึ่งความผิดปกติแรกเริ่มของการเกิดโรคมะเร็งเกิดขึ้นจากการแตกหักของสาย DNA นอกจากนี้ยังพบว่าธูป 1 ตัน จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับ 1 ใน 3 ของน้ำหนักธูปทีเดียว
ทั้งนี้เพื่อให้สาธารณชนได้ตระหนักถึงภัยที่แฝงมากับควันธูป พร้อมทั้งร่วมกันหาแนวทางในการป้องกันและระมัดระวังในการใช้ธูปมากขึ้น ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงได้จัดงานเสนอผลวิจัยปลดล็อคประเด็นร้อน เรื่อง “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ขึ้นในวันอังคารที่ 29 กรกฎาคม 2551 เวลา 13.30-15.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร สวทช. ถ.พระรามที่ 6
กำหนดการ
13.30 น. เปิดงานเสวนาปลดล็อคประเด็นร้อน
โดย พิธีกร
13.40 น. เสนอผลวิจัย “ สารก่อมะเร็ง ภัยเงียบที่มากับควันธูป”
โดย นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้า ไอ ซี ยู โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
ดำเนินรายการโดย นายจุมพล เหมะคีรินทร์
14.40 น. สรุป/ตอบข้อซักถาม
15.00 น. ปิดการแถลงข่าว
สำรองที่นั่งได้ที่ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ไทย ส่วนงานกลาง สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โทรศัพท์ 0 2564 7000 ต่อ 1460, 1461 หรือ 081-6256899 โทรสาร 0 2564 7000 ต่อ 1482 e-mail : thaismc@nstda.or.th