กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--กบข.
กบข. เผยสถานการณ์ราคาน้ำมัน-เงินเฟ้อพุ่ง สะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดเงินตลาดทุน มั่นใจปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เป็นปัจจัยสำคัญ
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปี ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกแขนงในวงกว้างทั่วโลก ทำให้อัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้นตามอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะสูงถึงร้อยละ 9-10 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงสุดในรอบ 10 ปี จะเห็นได้ว่าเงินเฟ้อไม่ได้มีผลกระทบต่อสภาวะทางด้านเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนด้วย
ทั้งนี้ หากภาวะราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จะยิ่งส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ และไม่เป็นผลดีต่อตลาดเงินตลาดทุน ทั้งนี้ เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตทุกภาคส่วน และเมื่อต้นทุนการผลิตสูง ราคาสินค้าหรือบริการต่างๆ ก็จะยิ่งปรับตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนหรือผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ได้จึงมีการปรับราคาสินค้าขึ้นตามต้นทุนที่เปลี่ยนไป ดังจะเห็นได้จากการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่สำคัญหลายรายการ ที่เป็นการส่งผ่านภาระของราคาสินค้าไปให้กับผู้บริโภค ทำให้กำลังซื้อลดลง
ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก ทำให้มีการเคลื่อนย้ายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่กองทุนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น พร้อมๆ กับคอยติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับเปลี่ยนหรือกระจายการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องผลตอบแทนของการลงทุนนั้น เนื่องจาก กบข.เป็นกองทุนเงินออมระยะยาว จึงให้ความสำคัญกับผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนระยะสั้นและพิจารณาเป็นค่าเฉลี่ย เช่น ค่าเฉลี่ย 3 ปี 5 ปี 10 ปี เพราะเงินของสมาชิก กบข. จะเป็นเงินออมระยะยาวอยู่กับกองทุนเฉลี่ยเวลาประมาณ 12 ปี และนับตั้งแต่จัดตั้ง กบข. ในปี 2540 เป็นต้นมาได้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยร้อยละ 8.2 ต่อปี
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ยุวพร นนท์ภาษโสภณ
กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ( กบข.)
Government Pension Fund
Tel. 02-636-1000 Ext.263 , 01-612-2322
Fax. 02-636-1691