กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--แสนสิริ
แสนสิริ เปิดกลยุทธ์รองรับแผนการตลาดโครงการบ้านเดี่ยวไตรมาส 3 ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ “สราญสิริ รามอินทรา 2” บ้านสไตล์ใหม่จากแสนสิริ รองรับความต้องการบ้านระดับราคา 3-6 ล้านบาท ในย่านรามอินทรา พร้อมเปิด Presale “Residence 4” เฟสใหม่ของโครงการเศรษฐสิริ ประชาชื่น เน้นจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนสิงหาคม
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการตลาดในครึ่งหลังปี 2551 นี้ บริษัทฯ จะรุกขยายตลาดโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรรระดับราคา 3-6 ล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “สราญสิริ รามอินทรา2” ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรในสไตล์ใหม่จากแสนสิริ ราคาเริ่มต้นเพียง 3.39 ล้านบาท บนทำเลถนนรามอินทราที่สะดวกสบายด้านการคมนาคมที่คล่องตัว โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จัดงาน Grand Opening เปิดตัวโครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี สามารถสร้างยอดจองแล้ว 40 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าขายกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดว่า ตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลางในสไตล์และคุณภาพระดับพรีเมี่ยมของแสนสิริ เป็นที่ต้องการของตลาดค่อนข้างมาก
สำหรับโครงการสราญสิริ รามอินทรา 2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Natural Geometric ขนาด 50 — 110 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 125 — 203 ตารางเมตร กับแบบบ้านให้เลือก ถึง 7 แบบ จำนวนทั้งสิ้น 213 ยูนิต บนทำเลถนนปัญญา — รามอินทรา สะดวกสบายด้วยการคมนาคมที่คล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นถนนรามอินทรา, ถนนวงแหวนตะวันออก, ถนนเกษตร-นวมินทร์, ถนนพระราม 9 และทางด่วนรามอินทรา — อาจณรงค์ เป็นต้น ใกล้สถานที่อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เซ็นทรัล รามอินทรา, เดอะมอลล์ บางกะปิ สถานที่พักผ่อน อาทิ ซาฟารีเวิลด์, สวนสยาม สนามกอล์ฟเดอะเลกาซี่ กอล์ฟคลับ สนามกอล์ฟ ปัญญา — รามอินทรา โรงเรียนสาธิตพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติ สารศาสตร์ และโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี เป็นต้น สาธารณูปโภคในโครงการ ประกอบด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และระบบ Pass Card ควบคุมการเข้าออกภายในโครงการพร้อมระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ Balance Life & Soul จองบ้านภายในงานรับฟรี New Pride Package* ในราคาพิเศษเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท จนถึงกลางเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น
“ นอกจากการเปิดตัวโครงการสราญสิริ รามอินทรา 2 แล้ว แผนการตลาดโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริ ในช่วงเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ จะเน้นที่การจัดกิจกรรมทางการตลาดและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตามโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ แสนสิริจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด
2 กิจกรรม ให้กับโครงการบ้านเดี่ยวได้แก่ เศรษฐสิริ ประชาชื่น, และสราญสิริ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นนั้นจะมีความน่าสนใจและสอดคล้องไปกับแนวทางของบ้านในแต่ละแบรนด์ ที่สำคัญคือทุกกิจกรรมล้วนสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความใส่ใจ เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ดีให้กับสมาชิกของแสนสิริด้วย” นายสมัชชา กล่าว
สำหรับกิจรรมที่จะจัดขึ้นตามโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2551 โครงการเศรษฐสิริ ประชาชื่น จะจัดงาน เปิด Presale “Residence 4” กับแบบบ้านสไตล์ Oriental Aspire เพียง 92 ยูนิต สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสครอบครอง ในเฟสที่ผ่านมา พร้อมสวนสวยส่วนกลาง ในราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท อิ่มอร่อยกับอาหารจาก LENOTRE พร้อมรับข้อเสนอพิเศษในวันงาน ขณะที่โครงการสราญสิริ ราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ จะจัดกิจกรรมเก๋ๆ ในชื่อ ‘Happy in Saran Garden’ เพื่อเปิดตัวบ้านโซนใหม่ Saran Garden ที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุดในโครงการ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยแบบบ้านสไตล์ Contemporary ดีไซน์ใหม่ที่ครบทุกฟังก์ชั่น เปิดรับวิวของสวนหน้าบ้านกว้างกว่า 100 เมตร พร้อมคลับเฮาส์และสระว่ายน้ำ ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.59 ล้านบาท พร้อมรับ More Package มูลค่า 250,000 บาท ภายในงานสัมผัสกับความรื่นรมย์ของสวนสวยหน้าบ้าน ร่วมกิจกรรมมากมายเพื่อโลกที่เย็นสบาย อาทิ เพ้นท์กระเป๋าผ้า ทำสมุดทำมือ ทานอาหารเพื่อสุขภาพและสนุกกับดีเจชื่อดังจากค่าย Green Wave รายละเอียดเพิ่มเติม โทร 1685 กด 46
“ เป้าหมายยอดขายโครงการบ้านเดี่ยวของแสนสิริในช่วงไตรมาส 3 นี้ ตั้งไว้ประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่า จะสามารถเป็นไปตามเป้า หรืออาจจะสูงกว่าเป้าหมายด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แสนสิริมีการสร้างแบรนด์ของสินค้าได้ตรงใจผู้บริโภค รวมถึงมีการพัฒนารูปแบบการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ทั้งในด้านการออกแบบดีไซน์โครงการให้มีความสวยงาม แตกต่าง และตอบรับกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้เรายังใส่ใจในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ร่วมกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ทางการตลาดแบบนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นความสนใจและการตัดสินใจซื้อโครงการที่เร็วขึ้น” นายสมัชชา กล่าว