กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--เจเอสแอล
Surivipa’s Voyage ยังคงอยู่ในประเทศอังกฤษ ถิ่นแมนชั่นหรูย่าน Queen Ann' s Gate ใจกลางกรุงลอนดอน ใกล้ๆ พระราชวังบัคกิ้งแฮม และ House of Parliament บ้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อค้นหา “ซินเดอเรลล่าแห่งลอนดอน — ชุมศรี อาร์โนลด์” เจ้าของตำนานเล่าขานทั่วสังคมไทยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จากคนอกหักหนีรักไปเป็นสาวเสิร์ฟ ได้พบกับชายหนุ่มลูกครึ่งอังกฤษอินเดียผู้ทิปหนัก! แต่เธอก็ย้ายร้านเสิร์ฟจนทำให้ไม่ได้เจอกันอีกนานนับปี แต่พรหมลิขิตก็ชักพาให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง อีก 3 ปีต่อมาเธอตกลงแต่งงานหลังจากเริ่มเดทเพียง 2 เดือน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้สักนิดเลยว่า เขาเป็นนักธุรกิจที่ปรึกษาด้านการเงินที่ร่ำรวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ!!
ชุมศรี อาร์โนลด์ หรือ กุ้ง กลับไม่ได้มองถึงความร่ำรวยว่าเป็นความโชคดีสูงสุด เพราะสิ่งที่เธอได้รับ มากยิ่งกว่านั้น “เพิ่งครบรอบแต่งงาน 20 ปี เมื่อ 4 ก.พ. ที่ผ่านมาค่ะ ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่า การที่เราได้สามีที่ประเสริฐที่สุดมีลูกที่ดีที่น่ารักอีกแล้ว คงเคยได้ยินคำพูดที่ว่ามีสามีเหมือนการเสี่ยงโชคซื้อ ล็อตเตอรี่ ถ้าโชคดีก็ถูกเลขท้าย 2 ตัว แต่กับตัวเองถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งยังไม่ได้อย่างนี้เลย ทุกวันนี้เพื่อนๆอิจฉาเพราะไม่ว่าจะทำอะไรสามีเขาก็จะเห็นดีไปหมด สายตาบ่งบอกความรักตลอดเวลา ไม่เคยว่าอะไรภรรยาเลย อาจเป็นเพราะว่าคุณลุคแมนมีเชื้อสายแขกด้วย เหมือนเป็นคนเอเชียหน่อยๆ เขาเป็นคนรักพ่อแม่ ดูแลพ่อแม่ดีมาก กับพ่อเขาก็อยู่ด้วยกันจนวันสุดท้าย ซึ่งเราไม่เคยเห็นฝรั่งที่จะเอาพ่อแม่มาอยู่ในบ้านด้วย”
ความรักที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลายมีจุดเริ่มต้นที่ “ร้านบุษบง” ชุมศรี อาร์โนลด์ เล่าย้อนว่า “ตอนนั้นอายุ 24 ไปถึงใหม่ๆเราเรียนภาษาช่วงเช้าถึงร้านประมาณเที่ยง ซึ่งคุณลุคแมนก็ชอบมาทานช่วงบ่าย ก็จะเหลือแต่เราคอยบริการคนเดียว บางทีว่างหน่อยก็ทำการบ้านไปด้วย เขาก็เคยถามว่า นั่นทำอะไร? ก็ตอบว่า ทำการบ้าน เลยกลายเป็นเขาเข้าใจผิดคิดว่าเรายังเด็กแค่ 16-17 หลังจากนั้นพอเราย้ายไปอยู่ร้านคุณอากร เขาก็ถามหาว่าเราหายไปไหน คนที่ร้านก็โกหกว่าเรากลับไปแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าเราไปอยู่ร้านไหน ก็เลยไม่เจอกันเลยอีกเกือบปี ทั้งๆที่เรามาทำงานที่ร้าน “ภัทรา” ซึ่งอยู่ใกล้ๆบ้านของเขาเอง จนอยู่ดีๆเสาร์-อาทิตย์หนึ่ง เขาก็เห็นร้านไทยใกล้บ้านเลยเดินเข้ามาลองทาน ปรากฏว่าพอเจอเราที่นี่เขาก็ดีใจใหญ่เลย ซึ่งเราก็ไม่รู้อะไรหรอก ได้แต่บอกเพื่อนในร้านว่า นี่ มิสเตอร์ อาร์โนลด์ เขาทิปหนักนะ
หลังจากเขาได้มาพบเราอีกครั้ง เขาก็ดูๆ เราอยู่อย่างนั้นอีก 3 ปี จนตอนหลังเขามาสารภาพว่า แอบดูเรามานานแล้ว เคยเอาพ่อแม่มานั่งทานข้าวที่ร้านแล้วดูเราด้วย แต่ไม่ได้บอกพ่อแม่ จนมาวันหนึ่งเขาส่งดอกไม้มาให้แล้วก็ชวนไปดื่มน้ำชาเป็นครั้งแรก จำได้ว่าครั้งแรกที่เขาโทรมาคุยเขาถามว่า “ขอถามอะไรหน่อย” เราก็คิดในใจว่า ต้องถามว่าเรามีแฟนหรือยังแน่ๆ ซึ่งตอนนั้นก็โสดสนิทจริงๆ แต่ปรากฏเขาถามว่า
“ถามจริงๆเหอะ อายุเท่าไหร่” เพราะเขาตั้งไว้ในใจว่า ถ้าตอนนั้นเราอายุต่ำกว่า 25 ก็คงต้องเลิกหวัง เพราะเขาตอนนั้นก็ 38 แล้ว ซึ่งห่างกันเกินไป แต่จริงๆเรา 28 เขาเลยตีปีกดีใจใหญ่เลย เพราะจริงๆแล้วเขารอให้เราโตนั่นเอง
หลังจากนั้นเขาก็ชวนไปนั่งดื่มชาด้วยกันบ่อยๆ แต่เป็นอะไรที่คุยกันยากมาก เพราะเวลาเราพูดอะไรผิดนิดเดียวเขาก็จะคอยพูดแก้ตลอด เธอต้องพูดอย่างนี้ถึงจะถูก เล่นเอาเราเหนื่อย ก็เลยไม่พูดเงียบๆไป เขาก็ถามอีกว่า แล้วจะไม่ถามเขากลับบ้างเหรอว่ามีพี่น้องกี่คน เราก็เลยถามตามที่เขาอยากให้ถามก็เริ่มจากตรงนั้นเป็นต้นมา ตอนนั้นเดือนธันวาฯก่อนคริสต์มาส แล้วก็มาแต่งงานกัน 4 กุมภาฯปีถัดมา คบกันแค่ 2 เดือนก็แต่งงานกัน ที่แต่งเร็วก็เพราะเขาบอกว่าเขารู้สึกเขาเสียเวลามานานแล้วถึง 4 ปี ที่แอบมองอยู่”
ถึงวันนี้ ชุมศรี ไม่เพียงแต่ดูแลสามี และลูกชายสุดหล่อ "Jocelyn" หรือ "จอร์ช" ที่ส่งเข้าโรงเรียนประจำ Winchester ซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับคุณกรณ์ จาติกวนิช เท่านั้น เธอยังเป็นประธานชมรมเพื่อนหญิงไทยในอังกฤษ (Thai Women Organization - TWO) เพื่อทำกิจกรรมสังคมช่วยเหลือคนไทยในอังกฤษ ซึ่งเมื่อจัดกิจกรรมหารายได้ ได้เท่าไรสามีจะสมทบทุนให้อีกเท่าตัว การทำหนังสือ “อยู่ยังไงในอังกฤษ” เพื่อให้ความรู้แก่คนไทยที่จะเข้ามาอยู่ในอังกฤษ รวมถึงการทำโครงการด้านภาษาและวัฒนธรรมไทย
“จากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสย้ำกับท่านทูตในประเทศต่างๆว่า อยากให้ลูกหลานไทยในต่างแดน ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน ไม่ลืมความเป็นไทยและภาษาไทย เราก็มาทำเป็นโครงการ “ร้อยใจภาษาไทยในยุโรป” สนับสนุนการเรียนหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยในวัดไทยที่วิมเบิลดันให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ลูกหลานไทยไม่ลืมไทย จอร์ชลูกชายเองก็พูดไทยได้ชัดเจน แถมยังสวดมนต์ได้ด้วยค่ะ”
ติดตามชมเรื่องราวของ “ชุมศรี อาร์โนลด์” ในการเดินทางค้นหาชีวิตคนไทยต่างแดน “Surivipa’s Voyage” กับรายการ “สุริวิภา” วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม นี้ เวลาดีสี่ทุ่ม ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี
ต้องการข้อมูลในรายการเพิ่มเติมติดต่อ
วิรดา อนุเทียนชัย (วิ) 08 — 1804 — 5493