กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก
กรมส่งเสริมการส่งออกมั่นใจ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยมาแรง เชื่อสามารถดึงความสนใจและกระแสตอบรับจากนักลงทุนต่างประเทศในงานมหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 ชี้การผนึกกำลังกับ Bangkok Film Fest สามารถช่วยดึงผู้ค้าจากต่างประเทศ และสร้างประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของภูมิภาคได้
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง การจัดงาน มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 (Thailand Entertainment Expo 2008) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 24-28 กันยายน ณ สยามพารากอน โดยเป็นการจัดงานคู่ขนานไปพร้อมกันกับงาน Bangkok International Film Festival 2008 เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยให้เป็น เวทีระดับนานาชาติที่สามารถดึงดูดให้กลุ่มคนในแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์และผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานในการเจรจาธุรกิจ สำหรับกลุ่มผู้สร้างและผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ในไทย หลังจากอุตสาหกรรมบันเทิงไทยมีศักยภาพมากในการรับงาน หรือผลิตงานร่วมกับต่างประเทศมาระดับ หนึ่งแล้ว
นายราเชนทร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันอุตสาหกรรมบันเทิงของไทยมีความเข้มแข็งมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่ประเทศไทยมีศักยภาพ และถือเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการผลิตภาพยนตร์ รวมทั้งชักจูงและดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาใช้ไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาประเทศไทยมีเทคโนโลยีหลังการผลิตมีความก้าวหน้ามาก เช่น การตัดต่อ บันทึกเสียง ลงเสียง แปลคำบรรยาย ทำสเปเชียล เอฟเฟกต์ เป็นต้น จนเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ ในศักยภาพ และฝีมือ จนถือได้ว่าไทยเป็นศูนย์กลางด้านโพสต์ โปรดักชันของเอเชีย สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้รัฐบาลในหลายๆประเทศมีมาตรการสนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ เพื่อให้เป็นสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น”
ภาพยนตร์ นอกจากจะเป็นสื่อที่สร้างความบันเทิง และเผยแพร่วัฒนธรรม ค่านิยมในสังคมแล้ว ยังเป็นธุรกิจบริการขนาดใหญ่ ที่ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศ ทั้งนี้รายได้ จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ มิได้มาจากการจำหน่ายภาพยนตร์ที่ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังมีรายได้ที่เกิดจากอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ ทั้งในรูปแบบของดีวีดี วีซีดี โรงภาพยนตร์ รวมทั้งเกิดการจ้างงานจากกระบวนการผลิตภาพยนตร์ ตั้งแต่ต้นจนจบ เช่น นักแสดง การเขียนบท การถ่ายทำฉาก การตัดต่อ และการโฆษณา อีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่คนไทยสามารถภาคภูมิใจได้ ก็คือประเทศไทยมีศักยภาพ และความสามารถไม่ว่าจะผลิตภาพยนตร์ ละคร จัด concert สามารถนำเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้รู้จัก และเห็นถึงฝีมือที่แท้จริงของคนไทย เพราะคนไทยมีศักยภาพ ทักษะ และประสบการณ์ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งเทคโนโลยี เครื่องมือการผลิตที่ทันสมัย ส่งผลให้ผลิตผลงานที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับมาตรฐานสากล ด้วยค่าใช้จ่าย ที่ถูกกว่าประเทศอื่น
ที่ผ่านมามีภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง ที่สร้างประวัติศาสตร์ในวงการภาพยนตร์โลกมาแล้ว เช่น เรื่องต้มยำกุ้ง ที่ติดอันดับ 4 ของภาพยนตร์สร้างรายได้สูงสุดใน BOX OFFICE ของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายได้ถึง 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเข้าฉายเพียง 3 วัน และเรื่ององค์บาก มียอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมสูงกว่า 1,300,000 ใบ ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ยังมีผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศ เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์จากค่ายฮอล์ลีวู้ด ยูนิเวอร์แซล พาราเม้าท์พิคเจอร์ หรือค่ายอื่นๆ มากมาย ที่ให้ความสนใจที่จะใช้ ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ โดยล่าสุดยังมีภาพยนตร์โฆษณาเป็ปซี่ ชุดบอลยูโร เข้ามาใช้ จังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่ถ่ายทำ รวมทั้งยังมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่ถูกส่งเข้ามาทำการตัดต่อในประเทศไทย ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มโฆษณา มีศักยภาพเติบโตสูง เห็นได้จากการประกวดรางวัลโฆษณาของไทยในเวทีระดับโลก ผู้กำกับหนังโฆษณาของไทย มีความสามารถติด ท็อปไฟว์ของโลกเช่นเดียวกัน
ด้านนายจาฤก กัลย์จาฤก นายกสมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวถึง จุดเด่นของการจัดงาน Thailand Entertainment Expo 2008 และ Bangkok International Film Festival 2008 ว่า “การผนึกกำลังกันจัดงานทั้ง 2 งานนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน แสดงถึงความตั้งใจของทุกภาคที่มุ่งมั่นทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงของภูมิภาคอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาวงการภาพยนตร์ไทยได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีคุณภาพได้มาตรฐานโลก และพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการซื้อ-ขายภาพยนตร์อีกแห่งหนึ่งของโลก การจัดงานทั้ง 2 งานนี้ขึ้น น่าที่จะดึงดูดผู้ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง ผู้กำกับการแสดง และผู้อำนวยการสร้าง ให้เดินทางมาสร้าง สีสันให้กับงานอุตสาหกรรมบันเทิงไทย และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งภายในงาน มหกรรมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย 2551 หรือ Thailand Entertainment Expo 2008 ครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเปิดโต๊ะเจรจาซื้อขาย ภาพยนตร์ ตลอดจน เลือกใช้ประเทศไทย เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และ Content ต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ต่างชาติเห็นถึงศักยภาพของไทยเพิ่มขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
จิตต์สิริ 081 4411510
อุมารี 081 812 4567