กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ภาพยนตร์เรื่องที่ 5
โครงการ What a wonderful world
กำหนดฉายตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2005
โรงภาพยนตร์ ลิโด มัลติเพล็กซ์
ในกระแสโลกอาจจะยังไม่ค่อยมีใครคุ้นหูกับชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้เท่าไรนัก แต่ในประเทศออสเตรเลีย เรียกได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนังเรื่องนี้ เพราะ Somersault คว้ารางวัลออสการ์ออสเตรเลียมาทั้งหมด 13 รางวัลจากการถูกเสนอชื่อเข้าชิงทั้งสิ้น 15 รางวัล เหนือกว่าสถิติที่หนังออสเตรเลียในตำนานอย่าง Japanese Story และ The Piano เคยทำเอาไว้ .. เรื่องราวใน Somersault พูดถึง ไฮดี เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เตลิดออกจากบ้านหลังที่ถูกแม่จับได้ว่ากำลังจะแอบไปมีอะไรกับเพื่อนชายของแม่เธอ โดยหลังจากที่ถูกจับได้เธอหิ้วกระเป๋าใบเดียวมุ่งตรงสู่เมืองที่อยู่ไกลที่สุดเท่าที่เงินในกระเป๋าเธอจะมี จากนั้นเธอก็เข้าไปในบาร์และมี sex กับคนแปลกหน้าเพื่อแลกกับที่ซุกหัวนอน ..เรื่องราวต่อจากนี้ผู้ชมจะถูกเธอชักนำไปสู่ความคิดที่ว่าในเมื่อ ไฮดี รู้ว่าตัวเองหน้าตาดีและคงไม่มีผู้ชายคนไหนคิดปฏิเสธเธอแน่ เธอก็จะใช้มันเพื่อที่จะมีชีวิตรอด... แต่วันหนึ่งเมื่อเธอรู้จักกับ โจ ผู้ชายที่ดูเหมือนจะรักเธอจริง ๆ ความคิดเธอก็เปลี่ยนไปและเริ่มเข้าใจว่า การมี sex กับการมีความรักนั้น มันคือโลกที่แตกต่างกันขนาดไหน .. และนั้นคือความหมายอันเป็นที่มาของคำว่า Somersault ที่นำคุณไปสู่คำโปรยที่ว่า Love can turn you upside down ...
-กระทบอารมณ์กว่า Japanese Story อิ่มเอมใจเกิน The Piano
13 รางวัล AFI AWARDS ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ หนังเรื่องนี้กวาดมาในทุกสาขาที่เข้าชิง และเป็นการสร้างสถิติใหม่ให้กับประเทศออสเตรเลียด้วยการเป็นหนังที่ได้รับรางวัลสูงสุดตั้งแต่มีการประกวดมา เหนือกว่าที่หนัง ออสเตรเลียในตำนาน อย่าง Japanese Story และ The Piano เคยทำเอาไว้
นิก โทมัส นักวิจารณ์ชื่อดังจาก ออสเตรเลีย ได้กล่าวชื่นชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ เหมือน เคท ชอตแลนด์ เล่าหนังเรื่องนี้ด้วยความรัก หนังสามารถไปคว้ารางวัลใหญ่ ๆ จาก 3 เทศกาลภาพยนตร์ในออสเตรเลียมาได้ในเวลาห่างกันแค่ 2 อาทิตย์ และจากการฉายแบบจำกัดโรงในเวลา 2 เดือน หนังเรื่องนี้ เก็บรายได้ไปทั้งสิ้น
60 ล้าน บาท ”
สิ่งที่จับอารมณ์อีกสิ่งหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ เพลงประกอบ จากฝีมือของวง Decoder Ring ด้วยที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของเสียงสะท้อนและดนตรีแนว voice-Score ที่เต็มไปด้วยพลังในการใช้เสียงจนถูกยกไปเทียบเคียงกับดนตรีประกอบจากภาพยนตร์เรื่องดังของญี่ปุ่น All about lily chou-chou
เปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่าง
Somersault
แอบบี้ คอร์นิส รับบท ไฮดี สาวน้อยวัย 18 คนนี้ ไม่เคยฉายแววด้านการแสดงมาก่อน จนเธอได้มาแสดงหนังเรื่อง Somersault เธอก็เปล่งประกายทันทีทั้งความสวยและความสามารถ จนได้รับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมจาก Australian Film Institute
ดนตรีประกอบ หลอกหลอน และตรึงใจ ว่ากันว่า ดนตรีประกอบในหนังเรื่องนี้ เป็นดั่งเสียง Voice Over ที่แสดงออกถึงความรู้สึกของตัวละครอันเป็นหัวใจหลักของเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
โลเกชั่น มุมมองภาพของหนังเรื่องนี้เปลี่ยนไปตามความรู้สึกของนางเอก แล้วคุณจะรู้ว่าเวลาที่เรามีความสุขและแบกรับความทุกข์ไว้นั้น เรามองโลกเปลี่ยนไปได้ขนาดไหน
เคท ชอตแลนด์ กำกับการแสดง เธอเป็นผู้กำกับสาวไฟแรงของออสเตรเลียขนานแท้ Somersault คือผลงานภาพยนตร์เรื่องที่ 3 ของเธอ และเป็นเรื่องที่ทำให้เธอถูกยอมรับในกระแสโลก
Japanese Story
โทนี่ คอลเลต ได้รับการยกย่องว่า เป็นการแสดงแบบหมดแล้วทั้งตัวและหัวใจ ที่สามารถพยุงหนังทั้งเรื่องไว้ได้ จนพิชิตรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก 3 สถาบันในออสเตรเลียดนตรีประกอบ นักวิจารณ์บางคนยกให้ดนตรีประกอบในหนังเรื่องนี้เป็นตัวละครตัวที่ 3 ที่แสดงออกถึงความโหยหาและถวิลหาอดีตได้เป็นอย่างดี
โลเกชั่น ไม่มีใครลืมภาพทะเลทรายสีแดงใน Japanese Story ได้ และภาพ ๆ นั้นแหละที่ทำให้คนที่หลงรัก Japanese Story ไม่สามารถลืมหนังเรื่องนี้ลง .....
ชู บรูคส์ เธอเป็นผู้กำกับหญิงฝีมือเก๋าจากออสเตรเลีย ที่แสดงฝีมือในหนังอินดี้มาหลายเรื่อง แต่ Japanese Story กลับกลายเป็นหนังที่ส่งชื่อของเธอให้โด่งดังขึ้นมาในกระแสโลก--จบ--