กสิกรไทยห่วงภาวะโลกร้อน ร่วมปล่อยกู้ “คาร์บอนเครดิต”

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 4, 2008 15:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทยร่วมลดภาวะโลกร้อน จับมือทีจีโอหนุนเอสเอ็มอีจัดการด้านพลังงาน ลดต้นทุนและภาวะเรือนกระจก ขายคาร์บอนเครดิตสร้างรายได้ให้องค์กร พร้อมออกเงินกู้เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ส่งเสริมประหยัดพลังงานและใช้พลังงานทดแทน คิดดอกเบี้ยพิเศษ 4% นาน 7 ปี
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จนส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพ ภูมิอากาศและภูมิประเทศของโลกอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ธนาคารกสิกรไทย จึงได้จัดทำโครงการลด ต้นทุนพลังงาน ต้านโลกร้อน โดย K SME Care ส่งเสริมให้เอสเอ็มอีของไทยมีการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างมีคุณภาพเพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อน โดยได้ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (Thailand Greenhouse Gas Management Organization หรือ TGO) ดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร่วมกันลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก และสามารถสร้างรายได้กลับคืนจากการขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit)
นายศิริธัญญ์ ไพโรจน์บริบูรณ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือทีจีโอกล่าวว่า ทางทีจีโอจะจัดอบรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสร้างนวัตกรรมการลดต้นทุนพลังงาน จูงใจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อการแสดงถึงความรับผิดชอบร่วมกันของสัมคมโลกในการลดปัญหาโลกร้อน ซึ่งการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านพลังงานและกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism:CDM) แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคาร จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้พลังงานอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อาทิ การนำขยะและน้ำเสียที่ปล่อยออกมาจากโรงงานมาผลิตแก๊สชีวภาพเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตแทนการใช้ไฟฟ้า ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนการใช้พลังงานและปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก
ทั้งนี้ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ผู้ประกอบการลดได้นี้ จะสามารถนำไปคำนวณเป็นคาร์บอนเครดิต เพื่อขายให้กับประเทศที่พัฒนาแล้ว สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งการซื้อขายคาร์บอนเครดิตนี้เป็นการซื้อขายสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่มีมูลค่ามหาศาลซ่อนอยู่
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การจะดำเนินโครงการลดการปล่อยภาวะเรือนกระจกนั้น ผู้ประกอบการอาจจะต้องมีการลงทุนสร้างระบบการใช้พลังงานทดแทน แต่ก็เชื่อว่า หากมีการวางแผนและดำเนินโครงการที่ดีจะได้รับผลตอบแทนคุ้มกับการลงทุน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขาดแคลนเงินทุนทางธนาคารฯ ได้ประสานงานกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (พพ.) ออกบริการสินเชื่อเพื่อการอนุรักษ์พลังงานกสิกรไทย (K-Energy Saving Loan) เพื่อสนับสนุนเงินลงทุนแก่ เอสเอ็มอีสำหรับดำเนินโครงการด้านอนุรักษ์พลังงานหรือการใช้พลังงานทดแทน โดยจะให้วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 7 ปี สำหรับผู้ที่ต้องการวงเงินกู้มากกว่าวงเงินที่กำหนดจะคิดอัตราดอกเบี้ยตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สามารถขอสินเชื่อโครงการนี้ ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการโรงงาน อุตสาหกรรมที่มีการดำเนินงานแล้วมีน้ำเสีย โดยจะนำน้ำเสียดังกล่าวมาใช้เป็นก๊าซชีวภาพ ซึ่งสามารถนำก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้มาใช้เป็นพลังงานทดแทน อาทิเช่น อุตสาหกรรมแป้ง อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป รวมถึงฟาร์มเลี้ยงสัตว์ซึ่งจะนำมูลสัตว์มาใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพ โดยธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อการอนุรักษ์พลังงานกสิกรไทย ไว้ไม่ต่ำกว่า 30 ราย วงเงินสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
โครงการลดต้นทุนพลังงาน ต้านโลกร้อน โดย K SME Care เป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจลดต้นทุนด้านพลังงาน และมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับโลกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับโลก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ