กรุงเทพฯ--5 ส.ค.--
ร่วมกิจกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในงาน “รวมพลคนกินนมแม่” กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมรณรงค์ “รวมพลคนกินนมแม่” โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงาน ภายในงานพบกับกิจกรรมส่งเสริม รณรงค์ให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของนมแม่มากมาย อาทิ การรวมพลคนกินนมแม่ครั้งยิ่งใหญ่ โดยคุณแม่ทั่วประเทศกว่า 10,000 คน, นิทรรศการ “นมแม่...อิ่มแรกแห่งชีวิต” ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนมแม่, มุมกิจกรรมสำหรับแม่-ลูก, มุมการแสดงบนเวที พร้อมการเสวนาทางวิชาการโดยวิทยากรที่มีชื่อเสียง ฯลฯ ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 เวลา 09.00-17.30 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว เขตจตุจักร นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “จากพระราชดำรัสของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร “นมแม่ คือหยดแรกของสายใยรักแห่งครอบครัว” ถือเป็นการให้คำจำกัดความในการบ่งบอกและสื่อถึงความหมายของคำว่า “นมแม่” ได้อย่างสมบูรณ์แบบครบถ้วนเป็นที่สุด อีกทั้งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ยังทรงเป็นต้นแบบให้แก่ “แม่” ทุกคนในการอภิบาลพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ด้วยพระกษีรธารา หรือนมแม่จากพระมารดาตลอด 6 เดือน ทำให้มีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงมีพัฒนาการยอดเยี่ยม สอดคล้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเชิงพฤติกรรมที่ยอมรับกันทั่วโลก ซึ่งจะต้องให้ทารกได้รับนมแม่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือน และให้ทารกได้รับนมแม่ต่อเนื่องไปจนอายุ 2 ปีหรือมากกว่านั้น พร้อมกับการได้รับอาหารเสริมตามวัยที่ถูกต้องเหมาะสม ดังจะเห็นได้ว่า “นมแม่” นั้นทรงคุณค่าและมีคุณประโยชน์ต่อลูกนานับประการ โดยเป้าหมายสูงสุดของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นคือต้องการให้ลูกได้รับอาหารที่ดีที่สุด มีสารอาหารครบถ้วน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ โดยเฉพาะระยะ 6 เดือนแรกของชีวิต ทารกที่กินนมแม่จึงมีโอกาสเจ็บป่วยน้อยกว่าเด็กที่ได้รับนมผสม 2-7 เท่า โดยเฉพาะหัวน้ำนมของแม่นั้น ถือได้ว่าเป็นวัคซีนหยดแรกของชีวิต ส่งผลทำให้สมองมีการพัฒนา เชื่อมต่อและสร้างเครือข่ายโยงใยเส้นประสาทได้ดีขึ้น ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต สติปัญญาเฉลียวฉลาด มีพัฒนาการที่สมบูรณ์ นอกจากนมแม่จะให้คุณประโยชน์ต่อลูกทางด้านร่างกายแล้ว การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยให้แม่ได้ใกล้ชิด สามารถอบรมลูก สร้างสายสัมพันธ์อันอบอุ่นระหว่างกัน ถือเป็นช่วงเวลาของการสร้างความอบอุ่นทางจิตใจจากแม่สู่ลูก ไม่ว่าจะเป็นการมอง ส่งเสียงพูดคุย หรือแม้แต่การสัมผัสจากมือน้อยๆของลูก ช่วยเสริมให้ลูกมีความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม (Moral Quotient) และความฉลาดทางการต่อสู้และอุปสรรค (Adversity Quotient) ซึ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตมากกว่าการมีความฉลาดทางสติปัญญา (Intelligent Quotient) เพียงอย่างเดียว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรากฐานสำคัญ ซึ่งส่งผลต่อร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม รวมถึงพัฒนาการในทุกๆด้านของลูกต่อไปในอนาคตทั้งสิ้น นมแม่ จึงถือได้ว่าเป็นต้นทุนทางชีวิตที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ ในทางกลับกันสำหรับตัวของแม่เองนั้น การให้นมแม่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ลดความเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางอันเนื่องจากการไม่มีประจำเดือนระหว่างให้นมลูก ยังช่วยกระตุ้นและช่วยสร้างจิตสำนึกของการเป็นแม่ ทำให้รู้สึกถึงความผูกพัน การปกป้อง ดูแลเอาใจใส่ลูก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงบทบาทของคุณพ่อ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง โดยเฉพาะกำลังใจ ความรัก และความเข้าใจจากคุณพ่อ มีผลและสำคัญต่อแม่และลูกในการช่วยเลี้ยงดูให้ลูกเป็นคนดี มีคุณภาพในสังคม ช่วยสร้างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้อบอุ่นเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำในแนวคิดเบื้องต้น ทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดงานรณรงค์ “ รวมพลคนกินนมแม่ ” เพื่อร่วมเผยแพร่ ส่งเสริม ให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการกินนมแม่ ซึ่งจะส่งผลสืบเนื่องต่อการเติบโตของเด็กๆ และคุณภาพประชากรของประเทศในอนาคต โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ ในวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม 2551 เวลา 09.00-17.30 น. ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร และศูนย์บริการสาธารณสุขประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-5904432 ต่อ 4437,4426 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
สอบถามรายละเอียดได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร 081-6285141, 081-3755041