APF Group เปิดตัวน้องใหม่

ข่าวทั่วไป Thursday July 24, 2008 10:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--บางกอกสเตชั่น เน็ตเวิร์ค
APF กรุ๊ป เปิดตัวน้องใหม่ Showa Rubber บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นโตเกียว ทุ่มเงิน 400 ล้านบาท ซื้อหุ้น 35.79% เตรียมขยายธุรกิจมาเมืองไทย ชูจุดเด่น Rubber Linning คือยางชนิดพิเศษที่ใช้เคลือบในแท็งก์ ถัง ท่อ ที่ใช้ในโรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมี พร้อมเล็งหาวัตถุดิบในไทยเพิ่มเติม ยืนยันผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี ด้านประธานกรรมการคนใหม่ วาดแผน 3 ปี ผลักดันให้กิจการเป็นหนึ่งในเอเชีย
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Asia Partnership Fund Group (APF Group) กล่าวว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท โชวะ รับเบอร์ จำกัด (Showa Rubber Co.,Ltd..) จำนวน 15 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 35.79% ของทุนจดทะเบียน. 41,938,426 ล้านหุ้น มูลค่า 1.245 พันล้านเยน หรือ 11.541 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ในอัตราหุ้นละ 83 เยน หรือ 0.769 เหรียญดอลล่าร์ต่อหุ้น หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 400 ล้านบาท ผ่านบริษัท Asukano Holdings ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนเพื่อการลงทุนในประเทศญี่ปุ่น Showa Rubber ปัจจุบันจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นโตเกียว (Tokyo Stock Exchange) ทำธุรกิจเกี่ยวอุตสาหกรรมยางพารา และเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยางพารารายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น อาทิ สินค้ายางที่ใช้ตัวแบบหล่อ, ยางแม่พิมพ์, สินค้ายางทางด้านกีฬา เช่น ลูกบอลซอฟท์เทนนิส , Rubber Lining (ยางเคลือบผลิตภัณฑ์), จุกนมยางที่เป็นสินค้าทางการแพทย์ และสินค้ายางประเภทต่างๆ ที่ใช้ในอุตสาหกรรม Showa Rubber มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างสูงในการผลิต Rubber Linning คือยางชนิดพิเศษที่ใช้เคลือบในแท็งก์ ถัง ท่อ ที่ใช้ในโรงกลั่นน้ำมัน หรือธุรกิจปิโตรเคมี ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญ และ ความปลอดภัยสูงในการจัดเก็บ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขนาดใหญ่ โดยมีสัดส่วนรายได้สูงถึง 50% และรายได้อื่น ๆ จะมาจากการผลิตผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและยา 20% โดยมีชื่อเสียงในธุรกิจรับจ้างผลิต หรือ OEM (Original Equipment Manufacture) ให้กับจุกนมเด็กยี่ห้อ PIGEON ซึ่งมีมาร์เก็ตแชร์ในประเทศญี่ปุ่น 60% ของตลาดรวม ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ยางทางด้านกีฬา มีสัดส่วนรายได้ 30% โดยบริษัทถือเป็นผู้ผลิตลูกเทนนิสซอฟท์บอลรายใหญ่ที่สุด ยี่ห้อ AKAEMU ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่นสูงถึง 50% และปัจจุบันได้ส่งออกไปยังเกาหลีใต้, ไต้หวัน และ มีแผนที่จะส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในเอเชียอีกด้วย "จากศักยภาพดังกล่าว เราได้มองเห็นโอกาสของการขยายตัวในอนาคต ในทุกกลุ่มที่บริษัทมีความได้เปรียบ การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้เรามีแผนจัดตั้งโรงงานเพิ่มเติมในประเทศไทย จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วที่จังหวัด Chiba และ Osaka ประเทศญี่ปุ่น โดยนำเทคโนโลยีที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะของบริษัท ร่วมกับนักธุรกิจในประเทศไทย รวมไปถึงการจัดหาวัตถุดิบเพื่อป้อนให้กับธุรกิจของบริษัทด้วย จากที่เรานำเข้าวัตถุดิบจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้แผนงานในอนาคตเราต้องการที่จะผลักดันกีฬาซอฟ เทนนิส เข้ามาในเมืองไทย เพราะเป็นกีฬาทีน่าสนใจ และ ยังไม่แพร่หลายในเมืองไทยมากนัก จึงต้องการส่งเสริมให้เยาวชนหรือ บุคคลทั่วไปที่สนใจได้เล่นกีฬาประเภทนี้มากขึ้น" นอกจากการทำธุรกิจของบริษัท ยังมีบริษัท Showa Corporation ที่จำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางกีฬาที่บริษัททำการผลิต กระจายตามจังหวัดใหญ่ อาทิ โตเกียว นาโกย่า โอซากา ฟูกูโอกะ เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจปลายน้ำที่ทางบริษัทให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการให้บริการครบวงจร นับแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ดำเนินการผลิต และบริการหลังการขาย "Showa Rubber เราก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1937 และยังได้ควบรวมกิจการกับบริษัทผู้ผลิตยางเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีอายุกว่า 100 ปี ทำให้ปัจจุบัน เราเป็นผู้ชำนาญงานด้านธุรกิจยางเป็นอย่างดี มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และหวังว่านักธุรกิจคนไทย จะมองเห็นความตั้งใจในการทำธุรกิจของเรา ที่มีอยู่หลากหลายจากการใช้ประโยชน์จากยางพาราได้ในกับทุกๆ ธุรกิจที่มีอยู่ในโลก โดยผลตอบแทนจากการลงทุน เรายังยึดมาตรฐานคือไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปีในทุกๆ กิจการที่เราไปลงทุน" อย่างไรก็ตาม การหาพันธมิตรธุรกิจในประเทศไทย เป็นหนึ่งในแผนการทำธุรกิจในอนาคต ที่ต้องการผลักดันให้บริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจจับมือร่วมกันเป็นผู้นำในธุรกิจยางพาราที่มีศักยภาพสูง ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมของโลก ที่ได้มีการดำเนินงานมาโดยตลอดนับแต่เริ่มทำธุรกิจ เช่น ลดการใช้ไฟฟ้า น้ำมัน น้ำ กระดาษในสำนักงาน รวมไปถึงการรีไซเคิ้ลเพื่อให้เกิดการประหยัดในการใช้ทรัพยากรของโลกที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
มร.มิทซึจิ โคโนชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้ไปจะมีการร่วมมือกัน ระหว่าง Asukano Holdings และ APF Group ที่จะเปลี่ยนแปลงให้ บริษัท โชวะ รับเบอร์ จำกัด มีศักยภาพที่สูงขึ้นโดยจะอาศัยจุดแข็ง บวกกับประสบการณ์ของ APF Group ในตลาดต่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตกลายเป็นบริษัทชั้นนำของเอเชียภายใน 3 ปีนับจากนี้ และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของโลก “ผมจะใช้ประสบการณ์ที่มีในการบริหารงานในต่างประเทศ บวกกับศักยภาพของ APF Group พัฒนาทีมงานทั้งหมดให้มีความเป็นมืออาชีพ ด้วยการเพิ่มศักยภาพในด้านต่างๆ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล สร้างผลตอบแทนที่ดีมาสู่ผู้ถือหุ้น และพนักงานทุกคน” ทั้งนี้ บริษัทตระหนักดีว่า ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน เป็นผู้ผลิตยางพารามากถึง 80% ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วโลก และ APF กรุ๊ป ก็มีพันธมิตร มีความชำนาญในพื้นที่ดังกล่าว มั่นใจว่า การขยายธุรกิจในครั้งนี้ของบริษัท ก็จะประสบความสำเร็จด้วยดีด้วยเช่นกัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม บริษัท บางกอกสเตชั่น เน็ตเวิร์ค จำกัด สมร ภู่อิ่ม (อ้อย) ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารมวลชน และ นักลงทุนสัมพันธ์ Mobile. 081-984-4814 ทิพสุคนธ์ เภาโบรมย์ (ขวัญ) หัวหน้าฝ่ายสื่อสารมวลชน Mobile. 081-635-5205 Tel. 02-6528964 ต่อ 142,145 Fax. 02-654-7631

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ