กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กรมศุลกากร
เมื่อวานนี้ (วันที่ 6 สิงหาคม 2551) เวลา 11.30 น. นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าว “ผลการจัดเก็บรายได้ และการจับกุมสินค้าลักลอบและหลีกเลี่ยงของกรมศุลกากร ในรอบ 10 เดือน ของปีงบประมาณ 2551” ณ ห้องประชุมอนุมานราชธน กรมศุลกากร
รมช.ประดิษฐ์ฯ กล่าวว่า ตามที่ได้มอบหมายให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการด้านการจัดเก็บรายได้ของศุลกากร ในปีงบประมาณ 2551 จำนวน 87,800 ล้านบาท ให้ได้ตามเป้าหมาย โดยให้มุ่งเน้นความสำคัญต่อการสำแดงพิกัดและราคา โดยเฉพาะสินค้าที่มีผลต่อภาษีศุลกากร เช่น รถยนต์ บุหรี่ เป็นต้น รวมทั้งมุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามการลักลอบหลีกเลี่ยงศุลกากรอย่างเข้มงวดอีกทางหนึ่ง นั้น
ผลการจัดเก็บรายได้ในรอบ 10 เดือน(ต.ค.50-ก.ค.51)ของปีงบประมาณ 2551 กรมศุลกากรจัดเก็บได้82,360.295ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ9,150.295ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ12.50(ประมาณการ73,210.000ล้านบาท) โดยกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้จากการนำเข้า-ส่งออกให้หน่วยงานอื่น ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 192,538.552 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 26,180.887ล้านบาท ภาษีเพื่อมหาดไทย23,095.853 ล้านบาท รวม 241,815.292 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 44,294.353 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 22.43 (ต.ค.49-ก.ค.50 จัดเก็บได้ 197,520.939 ล้านบาท)
ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้โดยรวมในเดือนกรกฎาคม 2551 กรมศุลกากรจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 8,995.448 ล้านบาท จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,550.448 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.83(ประมาณการ7,445.000ล้านบาท) และสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน จำนวน 1,821.644 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.39 โดยกรมศุลกากรจัดเก็บรายได้จากการนำเข้า-ส่งออกให้หน่วยงานอื่นรวม 29,872.129 ล้านบาท ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 24,131.459 ล้านบาท ภาษีสรรพสามิต 2,877.260 ล้านบาท และภาษีเพื่อมหาดไทย2,863.410 ล้านบาท
สำหรับในส่วนของผลงานด้านการป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบและหลีกเลี่ยงศุลกากรรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้กรมศุลกากรเข้มงวดกวดขันในการตรวจสอบสินค้านำเข้า-ส่งออก และเร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าพืชไร่ทางการเกษตร ตลอดจนยาเสพติดให้โทษ ที่ลักลอบนำเข้า-ส่งออกผ่านทางด่านชายแดน และท่าที่มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทั่วประเทศ เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีและปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม
ผลการป้องกันและปราบปรามสินค้าลักลอบและหลีกเลี่ยงศุลกากร ปีงบประมาณ 2551(ต.ค.50-ก.ค.51) กรมศุลกากรสามารถจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรได้ทั้งสิ้น 4,822 ราย มูลค่า 1,193.73 ล้านบาท สินค้าหลีกเลี่ยงศุลกากร 5,007 ราย มูลค่า 3,0007.93 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 9,829 ราย มูลค่า 4,201.66 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่สำคัญๆ เช่น
ประเภทสินค้า จำนวน(ราย) มูลค่า(บาท)
สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา 469 270,472,751
สินค้าเกษตร (หอมหัวใหญ่,กระเทียม,น้ำมันปาล์ม,มันฝรั่ง) 305 7,845,218
สัตว์สงวนและพืชสงวน 33 9,225,962
เชื้อเพลิง (เบนซิน,ดีเซล) 1,152 17,767,116
ล่าสุดสำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร จับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากรได้ดังนี้
- สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ เสื้อผ้า DVD หมวก กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา พวงกุญแจ เครื่องสำอาง ฯลฯ เม็ดเงิน เก้าอี้นวด หินแกะสลัก เกร็ดตัวนิ่ม ยาบำรุงม้า และสินค้าพืชไร่ทางการเกษตร ประเภท กระเทียม หอมหัวใหญ่ ลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักร รวมมูลค่ากว่า 59 ล้านบาท (5 ก.ค.—5 ส.ค. 51)
- น้ำยาแอร์ จำนวน 1,640 ถัง (ขนาด 13.62Kgs.) มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท นำเข้าโดย บริษัท กรีนไลฟ์ อินดัสตรี้ โฮลดิ้ง จำกัด ตามใบขนสินค้าขาเข้าเลขที่ A016 05107 08865 จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยเรือ SAIGON BRIDGEเที่ยววันที่ 13 กรกฎาคม 2551 สำแดงสินค้าเป็นน้ำยาแอร์ผสม FREEZING FOG 134A ปริมาณ 2,280 DRUM น้ำหนักรวม 31,008 กิโลกรัม ตรวจพบเป็นน้ำยาแอร์ชนิดREFRIGERANT R12 (16 ก.ค.51) ซึ่งเป็นสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ต้องได้รับอนุญาตก่อนการนำเข้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมกรณีดังกล่าวจึงเป็นการนำสินค้าต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
- น้ำตาลทราย จำนวน 110 กระสอบ น้ำหนัก 5,500 กิโลกรัม ราคาท้องตลาดประมาณ 16.75 บาท/กิโลกรัม รวมมูลค่าประมาณ 100,000 บาท จับกุมได้บริเวณข้างโกดังใกล้วัดทุ่งสว่าง ถนนพายัพทิศ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา (26 ก.ค.51) เนื่องจากน้ำตาลทรายเป็นสินค้าที่ต้องได้รับอนุญาตก่อนการนำเข้าและการส่งออกจากกระทรวงอุตสาหกรรมกรณีดังกล่าวจึงถือเป็นความผิดฐานลักลอบนำสินค้าต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) จำนวน 15 มัด (30,000 เม็ด) พบในกล่องพัสดุภัณฑ์ต้องสงสัยโดยใช้พริกแห้งใส่ทับด้านบน และใช้ผ้าขนหนูทับอีกชั้นหนึ่ง ภายในรถขนส่งพัสดุภัณฑ์ ของบริษัท สยามเฟิร์ส หมายเลขทะเบียน 77-2216 กรุงเทพมหานคร ณ ด่านศุลกากรแม่จัน สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 จังหวัด เชียงราย