กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กทม.
สรรหา กกต.ท้องถิ่นกทม. 4 คน เรียบร้อยแล้ว รอคำสั่งแต่งตั้งเป็นทางการ 11 ส.ค. นี้ ด้านประธานฯ ณรงค์ เตรียมจัดประชุมหารือการทำงานนัดแรก 18 ส.ค. เพื่อให้การทำงานเป็นระบบ โปร่งใส ยุติธรรม และทันเวลาที่กำหนด พร้อมย้ำแจกจริงใบเหลือง ใบแดง หากพบผู้สมัครทุจริตเลือกตั้ง โดยเฉพาะทุจริตจนเป็นเหตุให้จัดเลือกตั้งใหม่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้รัฐจัดเลือกตั้ง 154 ล้านบาท ส่วนการประกาศรับสมัครและวันเลือกตั้ง ต้องรอผู้ว่าฯกทม. คนปัจจุบันครบวาระ คาด 29 ส.ค. นี้ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) ซึ่งมาจากการสรรหาจำนวน 4 คน ได้แก่ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร นายประวิทย์ ขุนแขวง น.ส.พิมล หรือตระกูล และพลตำรวจตรีเสน่ห์ คำเที่ยง โดยจะมีคำสั่งแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 11 ส.ค. 51 นอกจากนี้ยังมี นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเป็น กกต.ท้องถิ่นกทม. ด้วยในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่น รวมมีจำนวนทั้งสิ้น 5 คน เพื่อทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในเดือนตุลาคม 2551 ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส และยุติธรรม
โดยในวันนี้ที่ประชุม กกต.ท้องถิ่นกทม. ได้มีการเลือกประธานกกต.ท้องถิ่นกทม. ผลปรากฏว่า พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ได้รับการเลือกเป็นประธาน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการกำหนดประชุมซักซ้อมความเข้าใจครั้งแรกในวันที่ 18 ส.ค. นี้ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพ และพร้อมที่จะดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 2551 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และทันตามเวลาที่กำหนด
ด้าน พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธาน กกต.ท้องถิ่นกทม. แสดงความมั่นใจในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 2551 จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องด้วยกรุงเทพมหานครมีประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้งทุกรูปแบบเป็นอย่างดี พร้อมทั้งขอให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในการทำงานของ กกต.ท้องถิ่นกทม. ว่าพร้อมที่จะดูแลและจัดการเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมาและดีที่สุด และหากตรวจสอบพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งรายใดทุจริตการเลือกตั้ง มีการซื้อเสียง หรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจมีผลให้ได้รับใบเหลืองหรือใบแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตรวจพบผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯกทม. ทุจริตการเลือกตั้งเป็นเหตุให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ จะต้องจ่ายค่าชดเชยจัดการเลือกตั้งเป็นเงินทั้งสิ้น 154 ล้านบาท เพื่อเป็นงบประมาณจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไป อีกทั้งถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี และโทษอาญาถึงจำคุกด้วย
สำหรับอำนาจหน้าที่ของ กกต.ท้องถิ่นกทม. ประกอบด้วยการเสนอแนะและให้ความเห็นชอบในการกำหนดหน่วยเลือกตั้ง ที่เลือกตั้ง แต่งตั้งผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง แต่งตั้งคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่นับคะแนน แก้ไข หรือเพิ่มชื่อ หรือถอนชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งจัดทำประกาศกำหนดระยะเวลาในการส่งหีบบัตรเลือกตั้ง รวมไปถึงการกำหนดจำนวนของประกาศหรือป้ายโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้ง การรายงานผลการนับคะแนนต่อ กกต.กทม. จัดให้มีการนับคะแนนใหม่ กรณีผลการนับคะแนนเลือกตั้งไม่ตรงกับรายงานการใช้สิทธิเลือกตั้ง ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งหรือตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือ กกต.กทม.มอบหมาย และรับแจ้งเหตุการณ์กระทำผิดตามกฎหมายการเลือกตั้ง เป็นต้น
ส่วนการประกาศวันรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประกาศให้มีการเลือกตั้งนั้น เป็นหน้าที่ของปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะสามารถประกาศอย่างเป็นทางการได้ภายหลังครบวาระการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการกทม.คนปัจจุบัน หรือ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2551