เอไอเอส ร่วมกับ เมเจอร์ เติมความอบอุ่นให้กับหัวใจทุกดวง ด้วยภาพยนตร์แห่งปี “หนึ่งใจ..เดียวกัน” ในเทศกาลวันแม่

ข่าวเทคโนโลยี Thursday August 7, 2008 10:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ความมหัศจรรย์ยิ่งใหญ่ที่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ จากการเป็น “ผู้ให้” ทำให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ให้กับสังคมขึ้นอีกครั้ง เมื่อ วิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ร่วมกับ อนวัช องค์วาสิฏฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) จัดฉายภาพยนตร์สร้างสรรค์สังคมรอบพิเศษก่อนโปรแกรมฉายเนื่องในเทศกาลวันแม่ เรื่อง “หนึ่งใจ..เดียวกัน” ในทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้กับเด็กด้อยโอกาสเกือบ 2,000 คน จาก 19 องค์กร อาทิ มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม มูลนิธิดวงประทีป มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย สถานแรกรับเด็กบ้านธัญญพร สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด ฯลฯ เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ฟรี เพื่อเป็นของขวัญพิเศษและเสริมสร้างสายใยแห่งรักที่มีต่อน้องๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กับลูกค้าเอไอเอสได้ชมฟรีและก่อนใคร ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ สยาม พารากอน
ร่วมฟังเสียงสะท้อนจากหลากมุม ทั้งผู้มีโอกาส และผู้ที่ด้อยกว่า ที่ได้มาร่วมรับชมภาพยนตร์ เริ่มที่ จิตรา ก่อนันทเกียรติ ถ่ายทอดอารมณ์หลังชมภาพยนตร์แห่งปีนี้ด้วยใบหน้าปลื้มปิติว่า “ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ทำให้เห็นด้วยกับกรณีศึกษาที่ว่า พันธุกรรมสามารถถ่ายทอดถึงกันได้ เพราะพระองค์ท่านทรงมีพระปรีชาสามารถทั้งในด้านศาสตร์และศิลป์เช่นเดียวกันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ในหลากหลายมุมมอง อย่างมุมมองของนักบริหาร รู้สึกชื่นชมพระองค์ท่านในด้านการมีน้ำพระทัยที่กว้างขวาง สะท้อนถึงการทำงานที่เป็นทีมเวิร์ค โดยเลือกความคิดเห็นของทีมงานที่ดีที่สุด ในมุมมองของนักเขียน ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้นำมาจากพระนิพนธ์เรื่อง “เรื่องสั้นที่...ฉันคิด” ซึ่งมีความแม่น ชัดเจนใน คอนเซ็ปต์ หนึ่งใจเดียวกัน ส่วนในมุมของคนที่ทำงานใช้เสียง พระองค์ทรงใช้เสียงพากษ์ในบางช่วงได้อย่างกินใจ สุดท้ายในมุมมองของประชาชนคนธรรมดา พระองค์ท่านทรงทำงานเพื่อสังคม ประชาชนโดยแท้ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งจะได้แง่คิดที่เรียกว่า “เอดดูเทนเมนท์” (Edutainment) คือการได้ทั้งเนื้อหาสาระ ให้ข้อคิดและความสนุกสนานโดยไม่ต้องมีฉากตบจูบ และที่สำคัญ แม้พระองค์จะทรงใช้เวลาอยู่ต่างประเทศมากก็ตาม แต่ก็ยังคงรู้ซึ้งในวิถีชีวิตของคนไทยเป็นอย่างดีอีกด้วย” ส่วน ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม เผยความในใจว่า “ดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วน้ำตาไหลจริงๆ ทำให้เกิดความไม่พอใจตัวเองขึ้นมา เราจะต้องเริ่มต้นแบ่งปันทำอะไรให้คนอื่นได้มากกว่านี้” ฟาง นิศารัตน์ อภิรดี ที่สวมบท “แพท” ลูกสาวของ “พิมพ์ดาว” ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงแสดงนำ เล่าบรรยากาศของการถ่ายทำว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ถวายงานให้พระองค์ท่านในเรื่องนี้ตลอดช่วงเวลา 7-8 เดือนในการถ่ายทำ นอกจากนี้ยังได้เห็นถึงคุณค่าของการศึกษามากขึ้น ซึ่งหลายๆ มุมของเมืองไทยยังด้อยโอกาสทางการศึกษาอีกมาก”
ฟังเสียงสะท้อนจากมุมมองของคุณแม่กันบ้างว่ารู้สึกกับภาพยนตร์นี้กันอย่างไร ม.ล.รดีเทพ บุรณศิริ กล่าวว่า “ส่วนตัวประทับใจในเรื่องความรักของแม่ลูกมากที่สุด เพราะในฐานะที่เป็นแม่คนหนึ่ง เข้าใจดีถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะฉากที่ลูกต้องเสียชีวิต ในขณะที่เพิ่งทะเลาะกัน ทำให้หวนกลับมาคิดได้ว่าเวลาที่มีกันอยู่ก็ต้องใส่ใจและรักกันให้มากที่สุด” ส่วนมุมมองของลูกอย่าง ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา เผยว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าบางครั้งการเดินให้ช้าลงก็อาจทำให้เราเห็นทัศนียภาพที่สวยงามระหว่างทางได้มากขึ้น ซึ่งฉากที่ประทับใจเป็นฉากที่แม่ได้รู้ความรู้สึกในใจลูก ว่าสิ่งที่ลูกต้องการไม่ใช่เงินทอง ข้าวของ แต่คือความรักและเวลาจากแม่ ซึ่งพระองค์ท่านถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ถึงคนดูอย่างประทับใจ”
ม.ล.ปริยดา ดิศกุล เล่าถึงความประทับใจจากการชมภาพยนตร์ว่า “รู้สึกชื่นชมในพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้โอกาสคนเมืองได้เห็นสภาพแวดล้อมในชนบท ปลุกจิตสำนึกให้ทุกคน ไม่ว่ารวยหรือจนก็มีส่วนช่วยสังคมได้ทั้งนั้น ยิ่งในชีวิตจริงที่ตัวเองเป็นครู จึงทำให้รู้สึกสะท้อนใจมาก เกี่ยวกับเรื่องการศึกษาที่ขาดแคลนในชนบท แต่ก็ประทับใจในความสามัคคีและความตั้งใจจริงที่จะช่วยเหลือกันของคนในหมู่บ้าน ชอบฉากที่ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านต่างรวมตัวกันสอนหนังสือตามความถนัดของตัวเอง เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นความรู้ที่ดีอย่างหนึ่ง” สำหรับสาวสวย ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ที่พาคุณแม่ ประไพศรี มาร่วมชมด้วยกล่าวว่า “ชื่นชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษตรงฉากที่ทูลกระหม่อมฯ ซึ่งทรงแสดงเป็น “พิมพ์ดาว” ได้อ่านไดอารี่ของลูกสาวที่ได้มอบหัวใจดวงใหม่ให้กับคุณแม่เพื่อรักษาชีวิตไว้ และ “พิมพ์ดาว” ยังได้สานต่อความฝันของลูกสาวที่ได้จดไว้ในไดอารี่ ด้วยการช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ที่ด้อยกว่า ซึ่งจะนำข้อคิดนี้จากภาพยนตร์ไปสานต่อ โดยไปช่วยเหลือผู้อื่นให้มากขึ้นไม่ทางตรงก็ทางอ้อม นอกจากนี้ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเป็นครูอาสาด้วยเช่นกัน” และ ภูวดี คุนผลิน ยังเล่าว่า “ชอบคำพูดของพระองค์ท่านที่โดนใจ แค่เราเปิดใจมองถึงคนด้อยโอกาส เราทำอะไรให้สังคมหรือยัง ทำถูกจุดหรือไม่ ที่เราคิดว่ามีความสุขแล้วนั้น เราอาจมีความสุขได้มากกว่านี้โดยการเผื่อแผ่ให้คนรอบข้าง สำหรับนักแสดงคนอื่นๆ ก็มีความเป็นธรรมชาติมาก”
สำหรับในมุมของเยาวชนตัวน้อยๆ ที่มีโอกาสได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพทางการแสดงของทูลกระหม่อมฯ จากภาพยนตร์เรื่อง “หนึ่งใจ..เดียวกัน” นี้ มีนานาทัศนะที่น่าฟังผสมผสานความไร้เดียงสาประสาเด็ก เช่น น้องวิน ปวินท์ เปี่ยมไทย จากมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ชมด้วยภาพ แต่ชมด้วยเสียงก็ซาบซึ้งใจอยู่ไม่น้อยว่า “หลายเหตุการณ์ของเรื่องสื่อให้เห็นถึงการร่วมแรงร่วมใจ สามัคคี เช่น การสร้างโรงเรียน” ส่วนน้องเตย มัศยา บวงเงิน จากมูลนิธิดวงประทีป เล่าว่า “ปกติก็รักคุณพ่อคุณแม่อยู่แล้ว แต่เมื่อดูหนังเรื่องนี้ยิ่งทำให้รักท่านทั้งสอง และคุณครูมากยิ่งขึ้น และการมีเงินไม่ใช่ทำให้คนมีความสุขมากขึ้นเลย การศึกษาต่างหากที่จะอยู่ติดตัวเราไปจนตาย” และน้องตัวเล็กๆ อย่าง น้องภัทร ตรีเจริญ หรือ ใบพัด ที่กำลังเรียน ป. 1 จากมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ เล่าด้วยความตื่นเต้นในหลายๆ ฉากอย่างไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็แฝงด้วยความน่าเอ็นดูว่า “เรื่องนี้พวกเขาได้สร้างโรงเรียนให้เด็ก แล้วก็ไม่มีโรงเรียนเพราะไฟไหม้ หัวใจของลูกก็มาอยู่ในแม่ แล้วทุกคนก็รักกัน ทุกคนมีความสุข” ส่วน น้องมิ้นท์ มัณฑนา ศิริสมบัติ จากศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง หนึ่งในเยาวชนนับพันที่ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้บอกว่า “ต้องขอบคุณผู้ใหญ่หลายท่านจากทั้งเอไอเอส และเมเจอร์ ที่ให้โอกาสดีกับพวกเราได้มาชมภาพยนตร์ครั้งนี้ และยังได้เห็นภาพความประทับใจระหว่างแม่กับลูกอีกด้วย”
“หนึ่งใจ..เดียวกัน” ยังได้สะท้อนมุมมองความคิดในการแบ่งปัน การให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร จากคน “ที่มี” ไปสู่คนที่ “ด้อยกว่า” อีกทั้งได้เชื่อมโยงสายสัมพันธ์รักของครอบครัว ระหว่างแม่และลูก ที่แม้จะต่างทัศนคติกัน แต่ด้วยหัวใจดวงเดียวกัน ก็สามารถทำในสิ่งที่ฝันได้เหมือนๆ กัน นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ เอไอเอส เต็มใจมอบให้กับสังคม
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547 คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณอนุศักดิ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ